++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

'รงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) แอลกอฮอลิเดยฺ์ (๑)

'รงค์ วงษ์สวรรค์

            เอกอัครราชทูตอเมริกันกินสะตอผัดกะปิรสสมุย
            * ไอ้ถายังบ่ปิ๊บ้าน ผมเอนหลังกับขอนหิงไฟและทบทวนบันทึกการทำงานแอลกอฮอลิเดย์ในเวลาที่ผ่านมา ๒๐.๒๐ น. กรกฎาคม ๒๕๓๐ บนหน้าปัดนาฬิกาตัวเลขลบเลือน อเมริกันรุ่น ๕๐ กะรัต ผู้นั้นเดินทางมากับเรือประมงขนาดสิบสามวาถึงอ่าวท้องทราบ, เกาะสมุย เวลาหลังดวงอาทิตย์จมหายลงในทะเลและความมืดสีดำของเวลากลางคืน
            เวลาคลาดเคลื่อนหลายชั่วโมงกับการนัดหมาย

            ความเร็วของเรือขนาดนั้นและเพียบพร้อมอุปกรณ์สื่อสารระบบเรดาร์ การวิ่ง (และแม้แต่การเดินอย่างขี้เกียจของเครื่องยนตร์) ออกจากท่าทองหรือบ้านดอนบนฝั่งของสุราษฎร์ธานีไม่น่าล่าช้าขนาดนั้น การถามไถ่ผ่านกระแสคลื่นวิทยุจึงค่อนข้างวุ่นวายแทบทุกนาฑี

            ความวิตกและกังวลปรากฏบนใบหน้ากร้านลมของหลายคนผู้เกี่ยวข้อง
            แต่เขาก็มาถึงแล้วในท่ามกลางเสียงถอนใจ
            เขาก้าวยาวบนเรือนร่างโปร่งค่อนข้างสูง มือหิ้วเกือกและถุงไนล็อนกวัดแกว่ง และอย่างไม่หวาดหวั่นการทิ่มแทงของเปลือกหอย เดินท่องน้ำเค็มขึ้นบนหาดทรายเข้าสู่การต้อนรับแบบลำลองโดยเสนาธิการโรงแรมของ อากร ฮุนตระกูล พรั่งพร้อมบรรดาเสนีนุ่งกางเกงและโสร่งสีสันดอกชบา
       
            Tong Sai Bay Hotel & Cottages  (ฉากนวนิยาย หักลิ้นช้าง บางบทของ วสิษฐ เดชกุญชร)
            ผู้ชายในแสงตะเกียงโคนต้นมะพร้าวถามตัวเองเพื่อบรรจุเหตุการณ์ในเวลาว่างและบนหน้ากระดาษว่าง
            "คลับคล้ายคลับคลาว่าใครวะ?"
            อเมริกันผู้นั้นทักทายใครหลายคนแบบประเพณีแต่ไม่ใช่พิธี
            แนะนำและขานรับคนนั้นคนนี้ ตอบคำถามและพูดคุยแบบ small talk  ครึกครื้นรื่นเริง
           
            นาน ๒๐ นาฑี (สถิติเวลากินเหล้าระหว่างแก้วของแมงบาร์อเมริกันที่ปาล์มบีช, ฟลอริดา)
            ตรีสุคนธ์ (จุ๋ม) ยุกตะนันทน์ ตกแต่งคำพูดครบถ้วน ไวยากรณ์มารยาทว่า
            "เชิญค่ะ ดินเนอร์พร้อมแล้วบนเฉลียงด้านตะวันออก..."
            เขาหารืออย่างเปิดเผยกับผู้หญิงทรวดทรงบวบนั่งถัดกันบนเก้าอี้แบบเปล

            บวบ หมายความว่าบวบ
            หล่อนตอบว่าคงไม่จำเป็นกับเวลาอีกหลายนาฑีในค็อทเทจเพื่อชำระเหงื่อและปรุงความสดชื่น แต่ควรกินกันก่อนกิจกรรมอื่นที่ยังมีเวลา ผ่อนผันมากมายหลังบานประตู และลูกสาวสวยเรียบร้อยน่ารักของเขาสองคนพยักหน้า
            "ดิฉันเกรงใจหลายคนที่รอเรานานกว่าคาดหมายค่ะ"
            เมียของเขาเน้นเฉพาะคำว่า เกรงใจ ในภาษาไทยชัดเจน

            เขายักไหล่และลุกยืนไม่ลังเลพลางพูดว่า
            "ในข้อแม้ว่าถ้าทุกคนที่นี่ไม่รังเกียจทูตตีนเปล่า..."
            ผู้ชายโคนต้นมะพร้าวรับรู้ในนาฑีนั้นว่าเขาคือเอกอัครราชทูต วิลเลี่ยม เอ.บราวน์
            ครับ-และเขย่ามือกัน-มือเปล่า

            เมนูเน้นถึงความเลอรสเลอเกียรติของไวน์มากกว่าปลากระพงอบซ้อศดอกเคเพอร์ วัวย่าง (เซอร์ลอยน์ สเต็ค) ตับบด และไก่
            ลมและแดด คลื่นและเมล็ดทรายของอ่าวท้องทราย ถูกพูดถึงมากกว่าปัญหาการเมืองระหว่างประเทศและแอสไพริน
            ใครบางคนผิวฝาดคล้ำผู้รู้จักกันในนามกำนันปริญญาโทแห่งลุ่มน้ำตาปี และรัฐมนตรี ๓๘ กะรัต สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้รับบทเจ้าบ้าน ถกเถียงกับตัวเองถึงการเดินทางรสผจญภัยอย่างน่าตื่นเต้นด้วยภาษาปากอันฉับไว ภาษามือบ้างแต่ไม่มีภาษาอวัยวะอื่น
            ผู้หญิงบางคนถาม
            "แต่ทำไมช้ากว่าที่ควรเรียกว่าช้า? ใจหายกันทั้งนั้นค่ะ"

            "ท่านทูตชอบชมคลื่นและชมปลา !  " รัฐมนตรีหนุ่มตอบ
            "ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานที่และเวลาเป็นการรักษาความปลอดภัยบางแบบให้กับ วี.ไอ.พี."
            บางคนในดินเนอร์คิดเป็นคำพูดด้วยความรู้สึกของหน่วยอารักขา
            แน่นอน !  บรรณาธิการที่กรุงเทพฯ พลาดข่าวพาดหัวบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์กับการถึงปลายทางอย่างราบรื่นของเรือประมงลำนั้น  แต่ยักไหล่และยินดีกับการพักผ่อนอย่างสงบสุขของผู้โดยสารทุกคนในขบวน

            เวลาผ่านถึงขนมและผลไม้
            เมียท่านทูตผู้ถูกเรียกจากคนคุ้นเคยว่า มาดาม หรือ แหม่ม มองผ่านแตงโมและสัปปะรดอย่างไม่สนใจพิเศษ หล่อนพูดบนรอยยิ้ม และรอยยิ้มนั้นคมราวหนามแหลมเคลือบลิพสติค
            "ที่นี่คงมีหมอนทองนะคะ? ดิฉันอยากกินทุเรียนค่ะ"
           
    * (บนเมนู วี.ไอ.พี.) การมองผ่านแก้วเหล้ารัมผสมน้ำมะนาวในแสงแดดวับวาวและพราวพราย โรงแรมบ้านท้องทรายบนลาดไหล่ภูเขาและป้าต้นนางกองบนโขดเขิน วางเหยียดลงแนบอ่าวและผืนทะเล บางคนพูดว่าเขาได้ความรุ้สึกของการมองอาคารปูนฉาบสีขาวเชิงผาแซนโตรินี, กรีศ (โรงแรมฟรังโค'ส) ในความเวิ้งว้างของอากาศและฝูงว่าวสีดำผวาบินสะเทิ้นลม และการกินเหล้าอบกลิ่นเทียนข้าวเปลือกผสมยี่หร่า

            บางคนกับการพักผ่อนอย่างเกียจคร้านนึกถึงพลิ้วคลื่นเหนือช่องแคบบอสพอรัสแห่งทะเลดำ, อีสตันบูล บนเฉลียงของวิลลา บนโต๊ะไม้เปลือยผิวและเสี้ยนวางจานปลาแซล์ม็อน ส้มแตง และไวน์
            เพื่อนนักเขียนนวนิยายบางคนรำพึงถึงผู้หญิงนุ่งบิกินีผืนเรียวกว่าเส้นเชือกแบบที่เรียกว่า  tanga และปลดปล่อยพวงถันพ้นจากการผูกรัดไว้กับอื่นไรนอกจากอากาศ หล่อนเป็นสัดส่วนงดงามของหมู่บ้านชาวประมงบนแหลมบูซีอุช, บราซิล ธุรกิจท่องเที่ยวกำลังเติบโตควบคู่กับการจับปลา และจับเงือกขอดเกล็ดหางในห้องนอน
            เกาะสมุยในอ่าวไทย แน่นอน-ความรู้สึกของใครและใครแตกต่างกันตามเจตนาและปรัชญาชีวิต
           
            แหม่มของเอกอัครราชทูตอเมริกันผู้นั้นพูดว่า
            "ดิฉันคงขาดทะเลไม่ได้ค่ะ ทะเลสวยอย่างนี้สวยกว่าที่ไหนหลายแห่งในโลก !"
            "ขอบใจมาดาม"
            "คุณรักทะเลไหมคะ?"
            "โอห์! รักขนาดว่าบางคืนหึง ! แต่การห่างเหินเพราะผมบังเอิญมีบ้านที่สองบนภูเขา บนสวนทูนอิน"
            "คุณหมายถึงอะไร - ทูนอิน?"
            " tune-in !"
            "น่าอิจฉา ! บางเวลาฉันรักภูเขาเหมือนกันค่ะ"
            หล่อนโดยกิริยาและนิสัยเป็นเมียนักการทูตอย่างสมบูรณ์

            (อ่านต่อตอนจบ)         


ที่มา  ต่วยตูน เดือนมีนาคม ๒๕๓๑ ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๗  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น