++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ปิศาจคอมพิวเตอร์

"นายหน่อย"

            ท่านผู้อ่านบางท่านอาจจะได้ชมภาพยนตร์เรื่อง wargames กันมาบ้างแล้ว (ฉายบ้านเรามาประมาณ ๑-๒ ปี ได้แล้วมั้ง) ท่านที่ไม่ได้ชมผมก็จะขอเล่าเรื่องย่อๆให้ฟัง เป็นเรื่องของเด็กอเมริกันคนหนึ่ง (แน่นอนเพราะอเมริกันเป็นผู้สร้าง ) หลงไหลและสนุกกับไมโครคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดสนุกมากไปหน่อย คือ ดันผ่าหมุนเบอร์โทรศัพท์ของคอมพิวเตอร์ประจำกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เข้า  ทำให้สามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์กระทรวงกลาโหมได้ แล้วก็สนุกเลยเถิดไปกันใหญ่อีก โดยเล่นคอมพิวเตอร์เกมส์ (เหมือนตามห้างสรรพสินค้าบ้านเรามีให้เล่นหลายแห่งเหมือนกัน) โดยนึกว่าเป็นเกมส์สนุกๆธรรมดา แต่กลายเป็นโปรแกรมป้องกันประเทศของสหรัฐฯ ไปจริงๆ เรื่องจะจบลงอย่างไรผมไม่เล่าต่อล่ะ แต่บอกว่าโกลาหลพอสมควร แล้วก็ happy ending  ตามระเบียบ เพียงแต่จะชี้ความน่ากลัวของคอมพิวเตอร์ให้เห็น

            คราวนี้มาอีกเรื่องหนึ่ง ผมไม่ทราบว่า เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์หรือเปล่า แต่ผมอ่านจากหนังสือชด colossus ของ D.F. Jones เป็นเรื่องของคอมพิวเตอร์ระดับมหึมา ๒ เครื่อง ชื่อ colossus ซึ่งเป็นของสหรัฐอเมริกา ตัวผู้สร้าง colossusก็คือ พระเอกของเรื่อง ส่วนอีกเครื่องหนึ่งเป็นของรัสเซียครับ ชื่อว่า guardian เรื่องเริ่มจับเหตุการณ์ที่ว่า colossus และ guardian  เกิดพิสดารพัฒนาตัวเองให้มีความคิดเหมือนคนได้ แล้วก็มีอารมณ์ความคิดเหมือนคนทั่วไปส่วนใหญ่ซะด้วย ก็คือ บ้าอำนาจ (ผมไม่ได้หมายความถึงใครโดยเฉพาะนะครับ) คิดว่าตัวกูเองเก่งกว่าชาวบ้าน ฉลาดกว่า ก็เลยคิดปกครองโลกซะเลย (ชักจะเหมือนหนังญี่ปุ่นแฮะ) แต่ตอนจบพระเอกเราก็จัดการกับมันได้สำเร็จ หลังจากใช้เวลาตั้ง ๕-๖ ปีแน่ะ ก็ได้แง่คิดไปอีกแบบหนึ่ง

            ท่านผู้อ่านอ่านถึงตอนนี้ก็คงจะงงว่า ผมมานั่งเล่าเรื่องหนังหรือหนังสือทำไม ผมกำลังจะบอกว่าภาพพจน์ของคอมพิวเตอร์น่ะน่ากลัวแต่ในความฝันของคนบางกลุ่มเท่านั้น  ก็เช่นภาพยนตร์หรือหนังสือทำให้มันดูน่ากลัวว่า มันจะครองโลก มันจะมีความคิดเหมือนมนุษย์ แล้วมันจะดุร้ายไม่มีมนุษยธรรม เราจะหยุดมันไม่ได้เหมือนในภาพยนตร์เรื่อง wargames มันจะสั่งฆ่าคนเพื่อครองโลกได้ใน colossus ซึ่งมันไม่จริงหรอกครับ

            ตรรกของคอมพิวเตอร์ถูกสร้างมาอย่างสมเหตุสมผลแต่เพียงอย่างเดียว อย่างเดียวจริงๆ ซึ่งอันนี้นับเป็นจัดหนึ่งอันทำให้คอมพิวเตอร์จะไม่มีวันมีความคิดสร้างสรรค์เหมือนมนุษย์เป็นอันขาด
            ผมกำลังจะเล่าเรื่อง ปิศาจคอมพิวเตอร์ในโลกแห่งความเป็นจริงให้ฟังครับ ปีศาจคอมพิวเตอร์ตัวจริงก็คือ ความรู้ไม่จริงในคอมพิวเตอร์ หรือความไม่เข้าใจในคอมพิวเตอร์นั่นเอง
            แฟนๆ ต่วยตูน คงจะรู้จักไม่โครคอมพิวเตอร์ดีแล้วจากข้อเขียนของ คุณประพัฒน์ อุทโยภาส คราวนี้ลองนึกดูนะครับ ถ้าเรารู้จักใครสักคนหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่า เราเข้าใจเขานะครับ คนที่จะเป็นเพื่อนคุณ ถ้าคุณไม่เข้าใจเขาคงจะลำบากนะครับ จะหยิบยืมเงินทองก็กระดากใจแน่ๆ เหมือนเครื่องล่ะครับ คนส่วนมาก อ่านโฆษณา ฟังเขาพูด เห็นราคาถูกด้วย เลยซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาไว้ที่บ้าน หวังจะให้มันทำให้ทุกอย่างโดยไม่ลงมือค้นคว้าหรือไม่พยายามเข้าใจมัน สุดท้ายก็ขยะที่เป็นเครื่องประดับบ้านเท่านั้นเอง นี่เป็นปิศาจที่ผลาญเงินคุณครับ

        มาดูปิศาจอีกรูปแบบหนึ่ง น่ากลัวหน่อยอันนี้ บริษัทแห่งหนึ่ง เริ่มมาจากอุตสาหกรรมในครอบครัว จนกระทั่งเติบใหญ่ มีคนงานราวๆ 50-60 คน วันดีคืนดี ท่านผู้จัดการเกิดอ่านหนังสือโฆษณาคอมพิวเตอร์เครื่องกระจิ๋วสามารถทำบัญชีให้ได้ ควบคุมสินค้า ทำบันทึกอะไรได้ ฯลฯ ราคาประมาณ 20,000 บาท ทำได้แทนคนร่วมสิบคนในแผนกบัญชี  น่าสนใจแฮะ ไม่รอช้า ท่านโทรติดต่อผู้ขายตามหน้าโฆษณาทันที ตัวแทนของบริษัทขายเครื่องก็รีบมา บรรยายสรรพคุณจนท่านผู้จัดการเคลิ้ม สิ้นเดือน เอาเครื่องมาตั้ง จ้างคนมาคุม 1 คน เดือนต่อไปปลดคนงานเก่าออก ใช้แต่เครื่องพอแล้ว เห็นไหมครับ นี่เป็นปีศาจแห่งความเศร้าเชียวละ ยังไม่จบนะครับ เครื่องที่นำมาใช้ เกิดประสบความล้มเหลว ไม่เหมือนอย่างที่คุย อะไรจะเกิดขึ้น อย่าให้เล่าต่อเลย ผะอืดผะอม กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน

            ผู้เขียนไม่ได้เกลียดคอมพิวเตอร์ หรือมีความหลังอันขมขื่นใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรอกนะครับ เพราะอาชีพของผู้เขียนเองก็เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั่นแหละ แต่กำลังจะขอร้องผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ผู้ที่จะใช้ และผู้ขาย ให้หันมายอมรับความจริงกันหน่อยก่อนที่จะลงมือซื้อเครื่อง  ควรจะศึกษาให้ดีซะก่อน อะไรที่ไม่รู้ ควรจะรู้ให้แจ่มแจ้งซะก่อน อย่าคิดว่าจะกดปุ่มเดียว แล้วมันจะทำให้ทุกอย่าง อย่าคิดว่าตัวเองเก่งโดยไม่พยายามเหมือนกับที่มีคนเคยเขียนไว้ในหนังสือเล่มไหนจำไม่ได้ว่า "คนเรานั้น มีความประมาทเป็นเบื้องหน้า มีความทะนงเป็นเบื้องปลาย" ส่วนทางด้านผู้ขายก็อย่าบรรยายซะเลิศเลอนัก ผมเคยได้ยินมาว่า "ซื้อเครื่องผมดีนะครับพี่ ทำได้ทุกอย่าง เครื่องพิมพ์ก็สวย เร็วเกินคาด กินไฟน้อยกว้าหม้อหุงข้าวซะอีก" ผมรำคาญเลยถามไปว่า "ผมอยากได้ชนิดที่มันหยิบกระดาษพิมพ์เองได้ด้วย มีมั้ย"

            ผมคิดว่า คงจะไม่มีหน้ากระดาษพอที่จะคุยกับผู้อ่านถึงสิ่งที่ควรรู้ของคอมพิวเตอร์ ก่อนที่มันจะกลายเป็นปิศาจจริงๆได้ เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน ก่อนจาก มีเรื่องเล่ากันในวงการคอมพิวเตอร์เหมือนกัน กระทาชายนายหนึ่ง ทำงานบริษัทอะไรขอสงวนไว้ วันแรกที่ได้คอมพิวเตอร์มาติดตั้ง ก็ขยันขันแข็ง ทั้งๆที่ไม่ค่อยจะชำนาญเท่าไหร่ ก็น่าสรรเสริญในความพยายามทีเดียว ๓ ทุ่มผ่านไป ๕ ทุ่ม แล้วเที่ยงคืนก็มาถึง เพื่อนร่วมงานได้ยินเสียงปืนดังมาจากห้องชายคนนั้น ก็รีบวิ่งพรวดเข้าไปทันที ภาพที่ปรากฏต่อหน้าก็คือ ปืนอยู่ในมือชายคนนั้นพร้อมควัยเขม่ากรุ่น ส่วนจอคอมพิวเตอร์เป็นรูโบ๋เลยครับ

            เสียงรอดไรฟันชายผู้นั้นออกมาว่า "มันบอกว่า ใช้ง่ายยิ่งกว่าทีวี ทีวีห่าอะไรวะ อย่าอยู่ร่วมโลกกันอีกเลย"

ที่มา ต่วย ตูน เดือนกรกฎาคม ๒๕๓๐ ปีที่ ๑๖ เล่มที่ ๑๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น