++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

พระอาจารย์สอนคนชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามากๆ ดูตัวเองมากๆ
หลวงพ่อ (พระโพธิญาณเถร) บอกว่า
'ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 %'
คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น

กลับเสียใหม่นะ ดูคนอื่นเหลือไว้ 10 %
ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร
เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ
ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90 % จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่

ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง
โบราณพูดว่า เรามักจะเห็น ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม
มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มากๆ

เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10
จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม
เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมากๆ
และตำหนิติเตียนตัวเองมากๆ
แต่ถึงอย่างไรๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ

พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น
ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมากๆ
เช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ
แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ

ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก
รีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน
เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็นๆ ไว้ก่อน
ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่..... ไม่แน่
อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้
เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้
สักแต่ว่า..... สักแต่ว่า..... ใจเย็นๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด

ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน
เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว
จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น
พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา
ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด
ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น
ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง
ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร
มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป

เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน
ก็สงบๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิดๆ ๆ
ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มากๆ
พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา..... นั่นแหละ

เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน
เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ
หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด
มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน
อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวันๆ ก็หมดแรง

ระวังนะ
พยายามตามดูจิตของเรา รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก
ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา..... ก็เรื่องของเขา
อย่าเอามาเป็นอารมณ์
อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา

ดูใจเรานั่นแหละ
พัฒนาตัวเองนั่นแหละ
ทำใจเราให้ปกติ สบายๆ มากๆ
หัด-ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง
ไม่มีอะไรหรอก
ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา
คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข
ยกมือขึ้น สาธุๆ ด้วยกันนะค่ะ
7---/////////////////////////////////////
ความสุขที่ถูกมองขาม (พระไพศาล วิสาโล)

คุณเปนคนหนึ่งหรือไมที่เชื่อวา ยิ่งมีเงินทองมากเทาไร
ก็ยิ่งมีความสุขมากเทานั้น ความเชื่อดังกลาวดูเผิน ๆ ก็นาจะ
ถูกตองโดยไมตองเสียเวลาพิสูจน แตถาเปนเชนนั้นจริง
ประเทศไทยนาจะมีคนปวยดวยโรคจิตนอยลง มิใชเพิ่มมาก
ขึ้น ทั้ง ๆ ที่รายไดของคนไทยสูงขึ้นทุกป ในทํานองเดียวกัน
ผูจัดการก็นาจะมีความสุขมากกวาพนักงานระดับลาง ๆ
เนื่องจากมีเงินเดือนมากกวา แตความจริงก็ไมเปนเชนนั้น
เสมอไป
ไมนานมานี้มหาเศรษฐีคนหนึ่งของไทยไดใหสัมภาษณ
หนังสือพิมพวา เขารูสึกเบื่อหนายกับชีวิต เขาพูดถึงตัวเองวา
"ชีวิต(ของผม)เริ่มหมดคาทางธุรกิจ" ลึกลงไปกวานั้นเขายัง
รูสึกวาตัวเองไมมีความหมาย เขาเคยพูดวา "ผมจะมี
ความหมายอะไร ก็เปนแค....มหาเศรษฐีหมื่นลานคนหนึ่ง"
เมื่อเงินหมื่นลานไมทําใหมีความสุข เขาจึงอยูเฉยไมได ใน
ที่สุดวิ่งเตนจนไดเปนรัฐมนตรี ขณะที่เศรษฐีหมื่นลานคนอื่น
Page 2
ๆ ยังคงมุงหนาหาเงินตอไป ดวยความหวังวาถาเปนเศรษฐี
แสนลานจะมีความสุขมากกวานี้ คําถามก็คือ เขาจะมีความสุข
เพิ่มขึ้นจริงหรือ ?
คําถามขางตนคงมีประโยชนไมมากนักสําหรับคนทั่วไป เพราะ
ชาตินี้คงไมมีวาสนาแมแตจะเปนเศรษฐีรอยลานดวยซ้ํา แต
อยางนอยก็คงตอบคําถามที่อยูในใจของคนจํานวนไมนอย
ไดบางวา ทําไมอัครมหาเศรษฐีทั้งหลาย รวมทั้งบิล เกตส
จึงไมหยุดหาเงินเสียที ทั้ง ๆ ที่มีสมบัติมหาศาล ขนาด
นั่งกินนอนกินไป ๗ ชาติก็ยังไมหมด
แตถาเราอยากจะคนพบคําตอบใหมากกวานี้ ก็นาจะยอนถาม
ตัวเองดวยวา ทําไมถึงไมหยุดซื้อแผนซีดีเสียทีทั้ง ๆ ที่มีอยู
แลวนับหมื่นแผน ทําไมถึงไมหยุดซื้อเสื้อผาเสียทีทั้ง ๆ ที่มี
อยูแลวเกือบพันตัว ทําไมถึงไมหยุดซื้อรองเทาเสียทีทั้ง ๆ ที่
มีอยูแลวนับรอยคู
แผนซีดีที่มีอยูมากมายนั้น บางคนฟงทั้งชาติก็ยังไมหมด ใน
ทํานองเดียวกัน เสื้อผา หรือรองเทา ที่มีอยูมากมายนั้น
บางคนก็เอามาใสไมครบทุกตัวหรือทุกคูดวยซ้ํา มีหลายตัว
หลายคูที่ซื้อมาโดยไมไดใชเลย แตทําไมเราถึงยังอยากจะได
Page 3
อีกไมหยุดหยอน
ใชหรือไมวา สิ่งที่เรามีอยูแลวในมือนั้นไมทําใหเรามีความสุข
ไดมากกวาสิ่งที่ไดมาใหม มีเสื้อผาอยูแลวนับรอยก็ไมทําให
จิตใจเบงบานไดเทากับเสื้อ ๑ ตัวที่ไดมาใหม มีซีดีอยูแลว
นับพันก็ไมทําใหรูสึกตื่นเตนไดเทากับซีดี ๑ แผนที่ไดมาใหม
ในทํานองเดียวกันมีเงินนับรอยลานในธนาคารก็ไมทําใหรูสึก
ปลาบ ปลื้มใจเทากับเมื่อไดมาใหมอีก ๑ ลาน
พูดอีกอยางก็คือ คนเรานั้นมักมีความสุขจากการได มากกวา
ความสุขจากการ มี มีเทาไรก็ยังอยากจะไดมาใหม เพราะเรา
มักคิดวาของใหมจะใหความสุขแกเราไดมากกวาสิ่งที่มีอยูเดิม
บอยครั้งของที่ไดมาใหมนั้นก็เหมือนกับของเดิมไมผิดเพี้ยน
แตเพียงเพราะวามันเปนของใหม ก็ทําใหเราดีใจแลวที่ไดมา
จะวาไปนี่อาจเปนสัญชาตญาณที่มีอยูกับสัตวหลายชนิดไม
เฉพาะแตมนุษยเทานั้น ถาโยนนองไกใหหมา หมาก็จะวิ่งไป
คาบ แตถาโยนนองไกชิ้นใหมไปให มันจะรีบคายของเกาและ
คาบชิ้นใหมแทน ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองชิ้นก็มีขนาดเทากัน ไมวา
หมาตัวไหนก็ตาม ของเกาที่มีอยูในปากไมนาสนใจเทากับ
Page 4
ของใหมที่ไดมา
ถาหากวาของใหมใหความสุขไดมากกวาของเกาจริง ๆ เรื่องก็
นาจะจบลงดวยดี แตปญหาก็คือของใหมนั้นไมนานก็
กลายเปนของเกา และความสุขที่ไดมานั้นในที่สุดก็จางหายไป
ผลก็คือกลับมารูสึก "เฉย ๆ" เหมือนเดิม และดังนั้นจึง
ตองไลลาหาของใหมมาอีก เพื่อหวังจะใหมีความสุขมากกวา
เดิม แตแลวก็วกกลับมาสูจุดเดิม เปนเชนนี้ไมรูจบ นาคิดวา
ชีวิตเชนนี้จะมีความสุขจริงหรือ ?
เพราะไลลาแตละครั้งก็ตองเหนื่อย ไหนจะตองขวนขวายหา
เงินหาทอง ไหนจะตองแขงกับผูอื่นเพื่อใหไดมาซึ่งสิ่งที่
ตองการ ครั้นไดมาแลวก็ตองรักษาเอาไวใหได ไมใหใครมา
แยงไป แถมยังตองเปลืองสมองหาเรื่องใชมันเพื่อใหรูสึก
คุมคา ยิ่งมีมากชิ้นก็ยิ่งตองเสียเวลาในการเลือกวาจะใชอัน
ไหนกอน ทํานองเดียวกับคนที่มีเงินมาก ๆ ก็ตองยุงยากกับ
การตัดสินใจวาจะไปเที่ยวลอนดอน นิวยอรค เวกัส โตเกียว
มาเกา หรือซิดนียดี
Page 5
ถาเราเพียงแตรูจักแสวงหาความสุขจากสิ่งที่มีอยูแลว ชีวิตจะ
ยุงยากนอยลงและโปรงเบามากขึ้น อันที่จริงความพอใจในสิ่ง
ที่เรามีนั้นไมใชเรื่องยาก แตที่เปนปญหาก็เพราะเราชอบมอง
ออกไปนอกตัว และเอาสิ่งใหมมาเทียบกับของที่เรามีอยู หา
ไมก็เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เมื่อเห็นเขามีของใหม
ก็อยากมีบาง คงไมมีอะไรที่จะทําใหเราทุกขไดบอยครั้งเทากับ
การชอบเปรียบ เทียบตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบจึง
เปนหนทางลัดไปสูความทุกขที่ใคร ๆ ก็นิยมใชกัน
นิสัยชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น ทําใหเราไมเคยมีความพอใจ
ในสิ่งที่ตนมีเสียที แมจะมีหนาตาดี ก็ยังรูสึกวาตัวเองไมสวย
เพราะไปเปรียบเทียบตัวเองกับดาราหรือพรีเซนเตอรในหนัง
โฆษณา
การมองแบบนี้ทําให "ขาดทุน" สองสถาน คือนอกจากจะไม
มีความสุขกับสิ่งที่มีอยูแลว ยังเปนทุกขเพราะไมไดสิ่งที่อยาก
พูดอีกอยางคือไมมีความสุขกับปจจุบัน แถมยังเปนทุกข
เพราะอนาคตที่พึงปรารถนายังมาไมถึง ไมมีอะไรที่เปนอุทธา
หรณสอนใจไดดีเทากับนิทานอีสปเรื่องหมา คาบเนื้อ คงจํา
ไดวา มีหมาตัวหนึ่งไดเนื้อชิ้นใหญมา ขณะที่กําลังเดินขาม
Page 6
สะพาน มันมองลงมาที่ลําธาร เห็นเงาของหมาตัวหนึ่ง (ซึ่งก็
คือตัวมันเอง) กําลังคาบเนื้อชิ้นใหญ เนื้อชิ้นนั้นดูใหญกวา
ชิ้นที่มันกําลังคาบเสียอีก ดวยความโลภ (และหลง) มันจึง
คายเนื้อที่คาบอยู เพื่อจะไปคาบชิ้นเนื้อที่เห็นในน้ํา ผลก็คือ
เมื่อเนื้อตกน้ํา ชิ้นเนื้อในน้ําก็หายไป มันจึงสูญทั้งเนื้อที่คาบ
อยูและเนื้อที่เห็นในน้ํา
บอเกิดแหงความสุขมีอยูกับเราทุกคนในขณะนี้อยูแลว
เพียงแตเรามองขามไปหรือไมรูจักใชเทานั้น เมื่อใดที่เรามี
ความทุกข แทนที่จะมองหาสิ่งนอกตัว ลองพิจารณาสิ่งที่เรา
มีอยูและเปนอยู ไมวา มิตรภาพ ครอบครัว สุขภาพ
ทรัพยสิน รวมทั้งจิตใจของเรา ลวนสามารถบันดาลความสุข
ใหแกเราไดทั้งนั้น ขอเพียงแตเรารูจักชื่นชม รูจักมอง และ
จัดการอยางถูกตองเทานั้น
แทนที่จะแสวงหาแตความสุขจากการได ลองหันมาแสวงหา
ความสุขจากการ มี หรือจากสิ่งที่ มี ขั้นตอไปคือการแสวงหา
ความสุขจากการ ให กลาวคือยิ่งใหความสุข ก็ยิ่งไดรับ
ความสุข สุขเพราะเห็นน้ําตาของผูอื่นเปลี่ยนเปนรอยยิ้ม และ
สุขเพราะภาคภูมิใจที่ไดทําความดีและทําใหชีวิตมีความหมาย
Page 7
จากจุดนั้นแหละก็ไมยากที่เราจะคนพบความสุขจากการ ไมมี
นั่นคือสุขจากการปลอยวาง ไมยึดถือในสิ่งที่มี และเพราะเหตุ
นั้น แมไมมีหรือสูญเสียไป ก็ยังเปนสุขอยูได
เกิดมาทั้งที นาจะมีโอกาสไดสัมผัสกับความสุขจากการ ให
และ การ ไมมี เพราะนั่นคือสุขที่สงบเย็นและยั่งยืนอยาง
แทจริง
พระไพศาล วิสาโล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น