++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2550

ชาลี แชปปลิน - ยอดดาวตลกแห่งศตวรรษ


ชาลี แชปปลิน - ยอดดาวตลกแห่งศตวรรษ


บรรพต บุศยพรรณ


ชาลี แชปปลิน ได้เขียนอัตชีวประวัติไว้เป็นเล่มหนาถึงกว่า 500 หน้า นักนวนิยายหญิงผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เมื่อได้ยินข่าวว่าเขากำลังเขียนอัตชีวประวัติอยู่ ก็บอกว่าดิฉันหวังว่าคุณคงกล้าพอที่จะเขียนความจริงออกมาให้หมดเปลือก

ชาลีคิดว่า เธอคงจะหมายถึงเรื่องการเมือง แต่อันที่จริงเธอหมายถึงชีวิตกามารมณ์ของเขา ชาลี แชปปลินเชื่อว่า เรื่องกามารมณ์มีส่วนน้อยมาก ที่จะทำให้เข้าใจใครคนใดคนหนึ่ง เขาไม่เชื่อเหมือนอย่างที่พรอยด์ว่า กามารมณ์เป็นส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ ความหิวและความยากจนน่าจะสำคัญต่อจิตใจของคนคนนั้นมากกว่า




ชาลี แชปปลิน เขียนไว้ว่า
" เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ชีวิตเซ็กซ์ของฉันมันหมุนเวียนเป็นวงกลม ประเดี๋ยวก็คึกคัก ประเดี๋ยวก็ผิดหวัง แต่ไม่ใช่จะน่าสนใจอะไรมากมาย ทางที่จะนำไปสู่เซ็กซ์ต่างหากที่น่าสนใจยิ่งกว่า"

"เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ตอนกลับจากนิวยอร์ค และมาพักอยู่ที่ลอส แองเจลิสที่โรงแรมอเล็กซานเดรีย ฉันเข้านอนแต่หัวค่ำ เริ่มเปลี่ยนชุดนอน และฮัมเพลงเบาๆ เป็นเพลงที่กำลังฮิตอยู่ในนิวยอร์คตอนนั้น พอหยุดไปเพราะมัวคิดอะไรเพลินอยู่ ก็มีเสียงผู้หญิงในห้องติดๆกันร้องเพลงนั้นต่อ พอเธอหยุดฉันก็ร้องต่อบ้าง เลยสนุกกันใหญ่ ฉันควรจะทำความรู้จักกับเธอดีไหม? แต่มันออกจะเสี่ยงอยู่หน่อย หน้าตาของเธอเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ฉันผิวปากเพลงนั้นอีกครั้งหนึ่ง ทางโน้นก็ร้องเพลงต่ออีก

"ฮา! ฮา! สนุกจังแฮะ! " ชาลีหัวเราะ
เสียงจากห้องติดกันดังออกมาว่า " คุณว่าอะไรนะ?"ฆ
เขากระซิบตอบไปทางรูกุญแจว่า "คุณคงจะมาจากนิวยอร์คสินะ"
"ว่าอะไรนะ... ไม่ได้ยิน" เธอว่า
"งั้นก็เปิดประตูซิ" เขาตอบ
"ฉันจะเปิดนิดๆ คุณอย่าเข้ามานะ"
"ผมให้สัญญา ไม่เข้าไปหรอก"


เธอแง้มประตูประมาณ 4 นิ้ว ก็พอจะเห็นว่าผู้หญิงผมสีบลอนด์กำลังมองชาลีอยู่ สำหรับเครื่องแต่งตัวของเธอนั้นมองดูเห็นไม่ชัด แต่รู้สึกว่าจะเป็นชุดนอนผ้าไหม


"อย่าเข้ามานะ... ฉันทุบเอาจริงๆด้วย!" เธอขู่ เผยให้เห็นฟันขาวอันสวยงามมีเสน่ห์


"สวัสดีครับ" เขากระซิบทักทายและแนะนำตัวเอง แต่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร และรู้ด้วยว่าเขาอยู่ห้องถัดไปจากห้องของเธอ


ต่อมาในคืนนั้น เธอบอกเขาว่า ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น ห้ามไม่ให้เขาทักทายเธอในที่สาธารณะ หรือแม้แต่ก้มศรีษะให้ หรือพยักหน้าถ้าบังเอิญเดินสวนกันที่ห้องโถงหน้าโรงแรม


ก็เป็นอันว่า เขาได้รู้จักเธอเพียงเท่านั้นเอง


ภาพยนตร์เรื่องแรกของชาลี แชปปลิน คือ "ชีวิตของหมา" เนื้อเรื่องเป็นแบบประชดประชัน โดยเปรียบเทียบกันระหว่างชีวิตของหมากับชีวิตของคนจรจัด

หลังจากนั้นก้ได้สร้างภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เขาเคยกล่าวว่า "ผมไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือหรอก เพื่อที่จะรู้ว่าแกนกลางของชีวิตก็คือความขัดแย้งและความเจ็บปวด"


ครั้นแล้วสงครามโลกครั้งแรกก็ระเบิดขึ้น ผู้คนทั่วไปเชื่อกันว่าคงจะไม่ยืดเยื้อเกินไปกว่า 4 เดือน เพราะการสงครามตามยุทธวิธีสมัยใหม่ คงจะทำให้ล้มตายกันมาก จนคนอยากจะให้มันยุติเสียในเร็ววัน


แต่ผิดถนัด การสู้รบและล้มตายได้ดำเนินไปอย่างทารุณ โหดเหี้ยม เป็นเวลานานถึง 4 ปี


หนังสือพิมพ์บางฉบับได้ตำหนิชาลี แชปปลิน ที่ไม่ได้ออกรบในสงคราม แต่ก็มีหนังสือพิมพ์หลายฉบับแก้แทนให้ว่าการแสดงตลกของเขาจำเป็นและมีประโยชน์ยิ่งกว่าการออกไปเป็นทหาร


อยู่มาไม่นาน สงครามก็ยุติลง หนังสือพิมพ์พาดหัวว่า "พระเจ้าไกเซอร์หนีไปฮอลแลนด์แล้ว!" และอีกฉบับหนึ่งลงพิมพ์ด้วยตัวหนังสือตัวโตเต็มหน้าแรกว่า "เซ็นต์สัญญาสงบศึกกันแล้ว!"


ผู้คนต่างดีอกดีใจ โผเข้ากอดจูบกันด้วยความชื่นมื่น..สันติภาพอันหอมหวานได้มาถึงแล้ว นี่คือความสุขอย่างไม่ต้องสงสัย... จะได้เลิกรบ และลงมือทำมาหากินกันเสียที


ที่มา : จาก ต่วย'ตูน ปักษ์แรก ฉบับเดือนธันวาคม 2540






Technorati :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น