ราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มิถุนายน 2550 16:03 น. http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000069144

"พุ่มพวง ดวงจันทร์" หรือชื่อจริงว่า "รำพึง จิตรหาญ" มีชื่อเล่นว่า "ผึ้ง" เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2504 ที่ตำบลบ่อสุพรรณ ในอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เธอเป็นบุตรคนที่ 5 จากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 12 คน ของนายสำราญ กับนางเล็ก จิตรหาญ เนื่องจากความชื่นชอบทางด้านการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงตระเวนเข้าประกวดร้องเพลงตามงานวัด และงานต่างๆ ในละแวกบ้านร่วมกับพี่ชายของเธอ ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยใช้ชื่อในการตระเวนประกวดร้องเพลงว่า "น้ำผึ้ง ณ. ไร่อ้อย" เนื่องจากที่บ้านของเธอมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย ต่อมาฝีมือการร้องเพลงของเธอเกิดไปเข้าตานักดนตรีรุ่นพี่ กระทั่งได้มาอยู่กับวงดนตรี ดวง อนุชา ในขณะที่เธอมีอายุได้เพียง 10 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นาน ในช่วงที่มีอายุได้ 15 ปี บิดากับน้าชายของเธอเห็นว่าผึ้งมีพรสวรรค์และชื่นชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิ ตใจ จึงได้ฝากฝังให้เธอเป็นบุตรบุญธรรมของ ไวพจน์ เพชรสุวรรณ นักร้องลูกทุ่งชื่อดังในขณะนั้น โดยใช้ชื่อว่า "น้ำผึ้ง สกุณี" เมื่อไวพจน์เล็งเห็นว่าผึ้งมีฝีมือทางด้านการร้องเพลงที่ก้าวหน้าและพัฒนาไป มาก เขาจึงตัดสินใจแต่งเพลงพร้อมทั้งอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้ กับบทเพลง แก้วรอพี่ ซึ่งผึ้งได้เปลี่ยนชื่อที่ใช้ในการร้องเพลงมาเป็น "น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ" ในเวลาต่อมาผึ้งได้ออกจากวงดนตรีของไวพจน์มาพร้อมกับธีรพล แสนสุข แล้วย้ายไปอยู่กับวงดนตรี ศรเพชร ศรสุพรรณ ซึ่งในวงผึ้งรับบททั้งนักร้องและหางเครื่อง หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่กับขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด เธอได้ร้องเพลง รักไม่อันตราย เป็นเพลงร้องแก้เพลงของขวัญชัย ประพันธ์ขึ้นโดยก้อง กาจกำแหง โดยที่ขณะนั้นผึ้งได้ใช้ชื่อในการร้องเพลงนี้ว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ซึ่งเป็นชื่อที่มนต์ เมืองเหนือ เป็นผู้ตั้งให้ และก็ใช้ตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันสุดท้ายของการร้องเพลง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้ใช้ประสบการณ์ในเส้นทางดนตรี ตั้งวงดนตรีของตัวเองขึ้นมา ภายใต้การสนับสนุนของคารม คมคาย นักจัดรายการวิทยุ, มนต์ เมืองเหนือ และธีรพล แสนสุข ซึ่งเป็นสามีคนแรกของเธอ แต่วงของพุ่มพวงก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องยุบวงในที่สุด หลังจากที่ยุบวงดนตรีไป พุ่มพวงก็ย้ายไปสังกัดเสกสรรคเทป-แผ่นเสียง ออกผลงานอัลบั้ม จนชื่อเสียงของเธอเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น จากนั้นไม่นาน พุ่มพวงก็ตั้งวงดนตรีร่วมกับเสรี รุ่งสว่าง ในชื่อ "เสรี-พุ่มพวง" ภายใต้การสนับสนุนของ ประจวบ จำปาทอง กับปรีชา อัศวฤกษ์นันท์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในเวลาต่อมา ชื่อเสียงของพุ่มพวงมาโด่งดังเป็นที่รู้จักสูงสุดในช่วง ปี พ.ศ.2525- 2530 หลังจากที่สังกัดเสกสรรคเทป-แผ่นเสียง ได้ย้ายไปอยู่สังกัดอโซน่า จากผลงานการแต่งเพลงของลพ บุรีรัตน์ ที่เริ่มเปลี่ยนแนวทางการร้องเพลงของพุ่มพวง ให้เป็นในสไตล์สนุกสนานมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้เธอได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงอย่างล้นหลาม เพลงที่มีชื่อเสียง ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นจุดประกายชื่อเสียงให้พุ่มพวง ได้แก่ สาวนาสั่งแฟน ก่อนที่เพลงอื่นๆ อย่าง นัดพบหน้าอำเภอ, อื้อฮือหล่อจัง, กระแซะเข้ามาซิ, ดาวเรืองดาวโรย, คนดังลืมหลังควาย ฯลฯ จะได้รับความนิยมตามมา หลังจากที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างสูง พุ่มพวงกลับประสบความล้มเหลวในชีวิตาส่วนตัว เนื่องจากเธอได้แยกทางกับธีรพล แสนสุข สามีคนแรก พุ่มพวงได้เริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์ โดยเริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก เรื่อง สงครามเพลง ซึ่งเป็นฝีมือการสร้างของฉลอง ภักดีวิจิตร ซึ่งในการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เธอมีโอกาสได้พบรักกับ ไกรสร แสงอนันต์ (ลีละเมฆินทร์) ที่เป็นนักแสดงชื่อดังในขณะนั้น จนกระทั่งได้สมรสกัน และมีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อ เพชร-สรภพ ลีละเมฆินทร์ จ ากปัญหาโรคเอสแอลอี หรือ โรคภูมิแพ้ตัวเอง ทำให้พุ่มพวงต้องหายหน้าไปจากวงการเพลงยาวนาน เพื่อรักษาตัว ก่อนที่จะมาเสียชีวิตในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2535 ปิดตำนานของราชินีลูกทุ่ง ในขณะที่พุ่มพวงมีอายุเพียง 31 ปี