++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ประโยชน์ของนมแม่ที่มีต่อลูก


นมแม่มีสารอาหารครบถ้วน โปรตีนในนมแม่มีกรดอะมิโนที่แตกต่างจากนมวัวจึงย่อยง่ายและสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ คาร์โบไฮเดรตที่มากที่สุดในนมแม่ คือ แลคโตส ช่วยการดูดซึมของธาตุเหล็กและแคลเซียมในลำไส้ ไขมันในนมแม่มีกรดไขมันที่จำเป็นครบถ้วน น้ำย่อยไขมันที่มีในนมแม่ช่วยย่อยไขมันเพื่อให้ทารกใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานได้อย่างเต็มที่ โซเดียมและเกลือแร่อื่นในนมแม่มีน้อยกว่านมวัว ไตของทารกจึงไม่ต้องทำงานหนักเกินไปในระยะเริ่มต้นของชีวิต

นมแม่มีภูมิคุ้มกันโรค
ใน 2-3 วัน หลังคลอดน้ำนมแม่จะข้น มีสีเหลืองเข้มเรียกว่า “หัวน้ำนม” มีภูมิคุ้มกันโรคสูงมาก เสมือนวัคซีนหยดแรกของชีวิตลูก กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ป้องกันโรคภูมิแพ้ นมแม่มีสารที่ปกป้องลำไส้จากการติดเชื้อ กรดอะมิโนในนมแม่ช่วยการเจริญในลำไส้ ทั้งหมดนี้กระตุ้นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคใน ร่างกายทารกให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต

นมแม่ทำให้ลูกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่
ทารกที่ได้รับนมแม่ในช่วงอายุ 3-4 เดือนแรกมีการเจริญเติบโตตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก มีขนาดเส้นรอบศีรษะโตกว่าค่ามาตรฐานในขวบปีแรก จอประสาทตาของทารกที่ได้รับนมแม่อย่างเดียว 4 เดือน มีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วกว่าของทารกที่ได้รับนมแม่น้อยกว่า 4 เดือน

นมแม่ดีต่อจิตใจแม่และลูก
ลูกกินนมแม่ มิใช่เพียงแต่ได้ “น้ำนมแม่” แต่ลูกจะได้”ตัวแม่” อยู่ใกล้ชิดด้วย การที่แม่-ลูกได้สัมผัสกันก่อให้เกิดความผูกพันระหว่างแม่-ลูก ลูกจะรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น ได้รับความรักเต็มเปี่ยม สร้างเสริมความมั่นคงทางด้านจิตใจของทั้งแม่และลูก เกิดพัฒนาการทางด้านสมองสติปัญญา ความฉลาดทางอารมณ์และบุคลิกภาพที่สมบูรณ์พร้อมในวัยเด็กโตและวัยผู้ใหญ่

นมแม่เป็นต้นทุนที่ดีของสมองลูก
ทารกที่ได้รับนมแม่อย่างเพียงพอ มีระดับพัฒนาการและเชาว์ปัญญาที่ดีกว่าทารกที่ได้รับนมผสม ตั้งแต่ 2-3 จุด จนถึง 8-11 จุด เนื่องด้วยนมแม่มีสารอาหารที่เหมาะสำหรับการสร้างเซลล์สมองของเด็กมากที่สุด

นมแม่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อภาวะภูมิแพ้
กรรมพันธุ์เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้ แต่การที่ทารกได้รับอาหารที่มีโปรตีนแปลกปลอมในระยะที่ทางเดินอาหารยังไม่แข็งแรง คือระยะ 6 เดือนแรก เนื่องด้วยในระยะ 6 เดือนแรกเยื่อบุทางเดินอาหารไม่แข็งแรง น้ำย่อยอาหารยังไม่พอ สารภูมิคุ้มกันที่จะคอยดักจับของแปลกปลอมยังมีไม่พอ ดังนั้นถ้าได้รับโปรตีนแปลกปลอมซึ่งมีในนมผสมซึ่งเป็นนมวัว จึงมีโอกาสหลุดรอดไปกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ได้ ซึ่งต่างจากน้ำนมแม่ซึ่งเป็นโปรตีนของคนจึงไม่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ โดยทั่วไปทารกที่กินนมผสมมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่าทารกที่กินนมแม่ 2 – 7 เท่า

นมแม่ปลอดภัยใหม่ สดเสมอ และ ประหยัด
นมแม่มีสารทำลายเชื้อโรค ในน้ำนมแม่มีสารที่สามารถทำลายเชื้อโรคได้ ลูกดูดนมแม่จะมีนมแม่ค้างอยู่ในปากซึ่งช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ลูกไม่เกิดฝ้าขาวในปาก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำล้างปากหลังให้นมแม่

นมแม่ช่วยป้องกันการป่วยหลายชนิด
เมื่อเทียบกับทารกที่กินนมผสมพบว่าลดโอกาสเกิดโรคต่างๆ ดังนี้
โรคท้องเสีย - ปอดบวม 3.5 – 4.9 เท่า
โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ 2.6-5.5 เท่า
หูชั้นกลางอักเสบ 3 - 4 เท่า
โรคลำไส้อักเสบ 20 เท่า
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ 3.8 เท่า
โรคภูมิแพ้ 2.7 เท่า
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 2 – 4 เท่า

นมแม่ย่อยง่าย ถ่ายสะดวก ท้องไม่ผูก ทารกที่ได้รับนมแม่ในระยะเดือนแรกๆ มักจะถ่ายเหลวและถ่ายบ่อย อาจเพราะนมแม่ย่อยง่ายและดูดซึมได้เกือบหมด อุจจาระจึงมีกากน้อยและถ่ายบ่อยได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นลูกจะดูดนมได้มากขึ้นจนเกลี้ยงเต้า ลูกจะถ่ายห่างขึ้นเพราะน้ำนมในช่วงท้ายๆในเต้านมจะมีไขมันสูง ลูกจะใช้เวลาย่อยและดูดซึมนานขึ้น อุจจาระก็จะ
จะห่างขึ้น บางคนอาจเป็น 10 วัน แต่ถ่ายไม่แข็ง ท้องไม่อืด ยังไม่อึดอัดแน่นท้อง ถือว่าปกติ

เคล็ดลับความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี ไม่มีเครียด
เหตุผลที่ให้ลูกเริ่มดูดนมแม่ในครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงแรก คือ - กระตุ้นสัญชาตญาณของมนุษย์และความเป็นแม่- กระตุ้นความผูกพันทางจิตใจแม่ลูก- กระตุ้นให้สร้างนมแม่และหลั่งอย่างเต็มที่เร็วขึ้น- กระตุ้นการขับถ่ายขี้เทา และลดภาวะตัวเหลือง- ให้ลูกได้รับสารต้านทานจากหัวน้ำนม และกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในลำไส้- กระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ขนิดเดียวกับของแม่บนผิวลูก- ให้ลูกได้รับไออุ่นและปรับสภาพอุณหภูมิกายที่เหมาะสมขณะที่ดูดนมแม่ปลายประสาทบริเวณหัวนมและลานหัวนมจะถูกกระตุ้น และส่งต่อไปตามเส้นประสาทจนถึงสมอง เพื่อกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนซ้ำ ไปกระตุ้นท่อน้ำนมให้หดตัวทำให้น้ำนมแม่ไหลและให้มีการสร้างน้ำนม แต่ความเครียดจะไปลดการหลั่งฮอร์โมนนี้ จึงทำให้การสร้างและหลั่งน้ำนมแม่ลดลง
*********** ************
เครดิต: เรื่อง ชีวอโรคยา นำมาจาก www.gotoknow.org
ภาพ: จากอินเตอร์เน็ต

แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อความพอเพียง และสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ

ติดตามข้อมูลข่าวสารการดูแลตัวเองวิถีธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีได้ที่ Facebook ชีวอโรคยา
www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น