++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

~~~~~~~~~~ความอ้วน ส่งผลให้สมองหด ~~~~~~~~~~



การศึกษาในสหรัฐ (Stephanie Debette และคณะ วารสาร Annals of Neurology พฤษภาคม 2553)
ศึกษาในคนวัยกลางคน (อายุเฉลี่ยราว 60 ปี) 733 คน พบว่า ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าอ้วน ปริมาณเนื้อสมองจะยิ่งหดน้อยลงโดยการตรวจด้วยคอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)

ทั้งนี้โดย ที่ไม่จำเป็นต้องมีโรคอื่นๆ ร่วม เช่นโรคหลอดเลือดสมองตีบ และดัชนีชี้วัดของ “ความอ้วน” ที่แม่นยำว่าจะมี “สมองหด” ดีที่สุด จะเป็นปริมาณไขมันในเครื่องใน อวัยวะภายในที่อยู่ในพุง (Visceral adipose tissue) รวมทั้งขนาดของพุงเมื่อเทียบกับสะโพก ซึ่งดัชนีอย่างแรกต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ (CT scan) ในการตรวจ และการสะสมของไขมันดังกล่าวก็จะเป็นสัดส่วนกับขนาดของโพรงสมองที่ใหญ่ขึ้นด้วย (โดยเกิดเนื่องจาก สมองหดตัวไป) โดยเฉพาะในบริเวณสมองกลีบขมับที่เป็นตำแหน่งแรกๆ ที่เหี่ยวฝ่อก่อนในโรคอัลไซเมอร์

การ ที่ “อ้วน” ทำให้สมองหดเป็นเรื่องสำคัญมาก ทั้งนี้อาจอธิบายจากการที่คนอ้วนจะมีสารในเลือดที่ก่อให้เกิดการอักเสบมากกว่าธรรมดา และเกี่ยวพันกับภาวะดื้อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งคอยควบคุมการเผาผลาญและการใช้ พลังงาน

การที่เริ่มมีสมองหด จะเป็นจุดสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิดโรคสมองฝ่อ ความจำเสื่อม (dementia) ได้มากขึ้น เร็วขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อเนื้อสมองสำรองลดน้อยถดถอยไป และเมื่อปะทะกับโรคสมองฝ่อ จริงๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ ก็จะปรากฏอาการเร็วขึ้น มีความรุนแรงมากขึ้น และการดำเนิน ของโรคก็จะยิ่งรวดเร็วขึ้นไปอีก และในกรณีของโรคหลอดเลือดสมองอัมพฤกษ์ เมื่อเป็นแล้ว การฟื้นตัวก็จะยิ่งช้าเข้าไปอีก

เพราะฉะนั้น “อ้วน” ณ ขณะนี้อย่านิ่งนอนใจว่าไม่สวย ไม่หล่ออย่างเดียว “อ้วน” ถือเป็นโรคอย่างหนึ่งถึงตายได้ง่ายและสมองยังหดเร็วอีกด้วย เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยจะเก็บภาษีเครื่องดื่มน้ำอัดลม และขนม หวาน ซึ่งมีโทษไม่ได้น้อยไปกว่าบุหรี่และสุรานะครับ

โดย หมอสารภี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น