++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

พระราชินีผู้มีพระสิริโฉมอันเป็นที่เลื่องลือ


มีชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่ยังมีภาพประทับอยู่ในใจประการหนึ่งว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แห่งปวงชนชาวไทยนั้นทรงมีพระสิริโฉมงดงามยิ่ง ไม่ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังประเทศใด แห่งหนตำบลไหนก็ทรงเป็นที่ชื่นชม กลายเป็น "ตัวอย่างของสตรีไทย" ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วในระดับโลก

ภาพประทับใจดังกล่าวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยเลื่อนลอย หากแต่เกิดขึ้นจากสรรพเสียงชื่นชม นิยมชมชอบ ทั้งจากสื่อมวลชนในต่างแดน รวมกระทั่งถึงบุคคลระดับสูง ทั้งในฝ่ายการเมือง การปกครอง และในส่วนที่อยู่แวดวงแฟชั่น การแต่งกายเป็นที่ปรากฏชัดเจน ไม่เพียงในแง่ของความงดงามในพระสิริโฉมแห่งพระองค์เท่านั้น หากยังรวมไปถึงการฉลองพระองค์อันงามสง่า เหมาะสมกับสถานะและกาลเทศะอีกด้วย จนกระทั่งในยุคหนึ่ง เมื่อครั้งที่ผู้คนในวงการแฟชั่นระดับโลกยังคงมีการลงคะแนนเพื่อคัดสรร "สุภาพสตรีผู้แต่งกายเหมาะสมแห่งปี" ดีไซเนอร์ร่วม 2,000 คน ยังเลือกที่จะทูลเกล้าฯ ถวายให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็น "สุภาพสตรีผู้แต่งกายเหมาะสมที่สุดแห่งปี" ของโลก
พระสิริโฉมอันงดงาม และการฉลองพระองค์ที่เหมาะสม งามสง่านั้น เป็นที่เลื่องลือไปในหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เยือนหลายประเทศอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ประมาณปี 2502 เรื่อยมาจนกระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงระงับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศไปในราวปี 2510 ซึ่งรวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ รวม 15 ประเทศต่อเนื่องกัน ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมนานาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้น มีระยะเวลาต่อเนื่องหลายเดือน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล็งเห็นความสำคัญของฉลองพระองค์ซึ่งนอกจากจะถูกต้องตามฤดูกาลในประเทศนั้นๆ แล้ว ยังถูกต้องตามกาละและโอกาสในการเสด็จฯร่วมงานพิธีต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้ ทรงเล่าไว้ในพระราชนิพนธ์ว่าด้วยการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างแดน ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2547 ความตอนหนึ่งว่า

"แต่แล้วผู้ให้การแนะนำของข้าพเจ้า ต่างก็ลงความเห็นพ้องกันว่า พวกเขาไปในงานหรูหราเหล่านั้นในฐานะเป็นเพียงภริยาของทูตเท่านั้น เช่นเดียวกับภริยาทูตประเทศอื่นๆ ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าภริยาทูตทั้งหลายแต่อย่างใด ′ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จไปในตำแหน่งพระบรมราชินีนาถของไทย เป็นเฟิร์สต์เลดี้ ของเมืองเรา และยังทรงเป็นผู้แทนของหญิงไทยทั้งชาติ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องใหญ่ คนละเรื่องกับเรื่องของเกล้ากระหม่อมฉันทั้งหลาย′ ตกลงเป็นอันว่า ข้าพเจ้าจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า ควรจะแต่งกายอย่างไรถึงจะสมควรและเหมาะแก่โอกาสแต่ละโอกาสในการตามเสด็จอเมริกาและยุโรปครั้งนั้น"

การณ์กลับเป็นว่า ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเกือบค่อนโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาเรื่อยไปจนถึงยุโรปอีกกว่าสิบประเทศ ในทุกหนแห่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ปรากฏพระองค์ ต่างล้วนมีเสียงกล่าวชื่นชมในพระสิริโฉมและฉลองพระองค์ รวมไปถึงพระจริยาวัตรติดตามในทุก
พระสิริโฉมอันงดงาม และการฉลองพระองค์ที่เหมาะสม งามสง่านั้น เป็นที่เลื่องลือไปในหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เยือนหลายประเทศอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ประมาณปี 2502 เรื่อยมาจนกระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงระงับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศไปในราวปี 2510 ซึ่งรวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ รวม 15 ประเทศต่อเนื่องกัน ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมนานาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้น มีระยะเวลาต่อเนื่องหลายเดือน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล็งเห็นความสำคัญของฉลองพระองค์ซึ่งนอกจากจะถูกต้องตามฤดูกาลในประเทศนั้นๆ แล้ว ยังถูกต้องตามกาละและโอกาสในการเสด็จฯร่วมงานพิธีต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้ ทรงเล่าไว้ในพระราชนิพนธ์ว่าด้วยการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างแดน ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2547 ความตอนหนึ่งว่า

"แต่แล้วผู้ให้การแนะนำของข้าพเจ้า ต่างก็ลงความเห็นพ้องกันว่า พวกเขาไปในงานหรูหราเหล่านั้นในฐานะเป็นเพียงภริยาของทูตเท่านั้น เช่นเดียวกับภริยาทูตประเทศอื่นๆ ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าภริยาทูตทั้งหลายแต่อย่างใด ′ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จไปในตำแหน่งพระบรมราชินีนาถของไทย เป็นเฟิร์สต์เลดี้ ของเมืองเรา และยังทรงเป็นผู้แทนของหญิงไทยทั้งชาติ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องใหญ่ คนละเรื่องกับเรื่องของเกล้ากระหม่อมฉันทั้งหลาย′ ตกลงเป็นอันว่า ข้าพเจ้าจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า ควรจะแต่งกายอย่างไรถึงจะสมควรและเหมาะแก่โอกาสแต่ละโอกาสในการตามเสด็จอเมริกาและยุโรปครั้งนั้น"

การณ์กลับเป็นว่า ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเกือบค่อนโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาเรื่อยไปจนถึงยุโรปอีกกว่าสิบประเทศ ในทุกหนแห่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ปรากฏพระองค์ ต่างล้วนมีเสียงกล่าวชื่นชมในพระสิริโฉมและฉลองพระองค์ รวมไปถึงพระจริยาวัตรติดตามในทุก
พระสิริโฉมอันงดงาม และการฉลองพระองค์ที่เหมาะสม งามสง่านั้น เป็นที่เลื่องลือไปในหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เยือนหลายประเทศอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ประมาณปี 2502 เรื่อยมาจนกระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงระงับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศไปในราวปี 2510 ซึ่งรวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ รวม 15 ประเทศต่อเนื่องกัน ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมนานาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้น มีระยะเวลาต่อเนื่องหลายเดือน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล็งเห็นความสำคัญของฉลองพระองค์ซึ่งนอกจากจะถูกต้องตามฤดูกาลในประเทศนั้นๆ แล้ว ยังถูกต้องตามกาละและโอกาสในการเสด็จฯร่วมงานพิธีต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้ ทรงเล่าไว้ในพระราชนิพนธ์ว่าด้วยการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างแดน ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2547 ความตอนหนึ่งว่า

"แต่แล้วผู้ให้การแนะนำของข้าพเจ้า ต่างก็ลงความเห็นพ้องกันว่า พวกเขาไปในงานหรูหราเหล่านั้นในฐานะเป็นเพียงภริยาของทูตเท่านั้น เช่นเดียวกับภริยาทูตประเทศอื่นๆ ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าภริยาทูตทั้งหลายแต่อย่างใด ′ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จไปในตำแหน่งพระบรมราชินีนาถของไทย เป็นเฟิร์สต์เลดี้ ของเมืองเรา และยังทรงเป็นผู้แทนของหญิงไทยทั้งชาติ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องใหญ่ คนละเรื่องกับเรื่องของเกล้ากระหม่อมฉันทั้งหลาย′ ตกลงเป็นอันว่า ข้าพเจ้าจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า ควรจะแต่งกายอย่างไรถึงจะสมควรและเหมาะแก่โอกาสแต่ละโอกาสในการตามเสด็จอเมริกาและยุโรปครั้งนั้น"

การณ์กลับเป็นว่า ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเกือบค่อนโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกาเรื่อยไปจนถึงยุโรปอีกกว่าสิบประเทศ ในทุกหนแห่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ปรากฏพระองค์ ต่างล้วนมีเสียงกล่าวชื่นชมในพระสิริโฉมและฉลองพระองค์ รวมไปถึงพระจริยาวัตรติดตามในทุก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น