++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มองพ่อแต่แง่ลบ ควรปรับอย่างไร



ปุจฉา - พระอาจารย์ครับผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ ผมได้ยินมาว่าพ่อแม่ของเรานั้นเป็นพระอรหันต์ของลูก ตอนนี้แม่ของผมเสียแล้ว เหลือพ่อเพียงคนเดียว ซึ่งผมไม่ค่อยจะสนิทนัก(ผมสนิทกับแม่) แต่ด้วยความที่อยากตอบแทนบุญคุณท่าน ผมจะพยายามไปเยี่ยมท่านทุกอาทิตย์ แต่เวลาไปหาท่านทีไรผมจะรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เพราะตัวผมนั้นสนใจในการปฏิบัติธรรม แต่พ่อของผมนั้นไม่มีความสนใจทางด้านนี้เลย แล้วยังเป็นคนขี้โมโห ชอบเล่นการพนันและยังเจ้าชู้ด้วย เวลาผมไปหาท่าน จิตใจของผมนั้นคิดอกุศลกับท่านตลอดเลย ซึ่งตัวผมนั้นก็พยายามที่จะไม่คิดแต่ก็อดไม่ได้ทุกที ถ้าเป็นแบบนี้ผมควรประพฤติปฏิบัติกับท่านอย่างไรดีครับ กราบนมัสการครับ

พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา - คุณควรมองเห็นด้านดีของท่านบ้าง ไม่ควรจดจ่ออยู่แต่ด้านไม่ดีของท่าน ถ้าเห็นแต่ด้านไม่ดีคุณจะรู้สึกแย่กับท่าน ด้านดีของท่านถ้ามองให้เป็นก็จะเห็นมากมาย เช่น ความดีที่ท่านได้ทำหรือเคยทำกับคุณโดยเฉพาะตอนเด็ก ๆ หรือความเป็นคนรักญาติพี่น้อง เป็นต้น

การที่คุณปฏิบัติธรรมนั้นดีแล้ว แต่อย่าติดยึดในความดีของตนมากไป มีหลายคนที่พอสนใจธรรมะแล้ว จะรู้สึกไม่ดีกับพ่อแม่ของตนเพราะเห็นความไม่ดีของท่านชัดขึ้น หรือเสียใจที่ท่านไม่ดีอย่างที่เขาคาดหวัง นานวันความรู้สึกไม่ดีหรีอเสียใจก็ขยายตัวกลายเป็นความเกลียดโกรธไป

คุณควรใช้ความดีที่มีอยู่เพื่อช่วยเหลือท่านให้ดีขึ้น ไม่ควรใช้ความดีไปพิพากษาท่านหรือมองท่านแบบติดลบ จนเกิดความรู้สึกปฏิเสธท่าน แทนที่จะรักท่าน ซาบซึ้งในบุญคุณของท่าน ก็กลายเป็นเกลียดท่านไปเลย แต่หากคุณจะมีความรู้สึกลบกับท่านก็อย่าปฏิเสธ อย่ารู้สึกผิดควรยอมรับ ความรู้สึกนั้นแต่อย่าปล่อยให้มันครอบงำใจ

ความดีนั้นควรใช้ให้เป็น เกี่ยวข้องให้ถูก ถ้าใช้ไม่เป็น เกี่ยวข้องไม่ถูก เช่นยึดติดถือมั่นมาก ก็จะเป็นทุกข์ได้ง่าย พูดอย่างท่านอาจารย์พุทธทาสก็คือ ถูกความดี “กัด” หรือมิเช่นนั้นก็ทำให้กลายเป็นคนหลงตัว ยกตนข่มท่าน มองเห็นคนอื่นไม่ขึ้น เพราะรู้สึกว่าตนเองดีกว่าเขา หรือเห็นเขาแย่กว่าตนเอง ใครที่อยู่ใกล้ “คนดี”แบบนี้ จะรู้สึกร้อน อึดอัด พาลให้รู้สึกไม่ดี กับ “คนดี”หรือคนธัมมะธัมโมไปเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น