++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โทษ...ของ... เตาไมโครเวฟ!!!

แปลกใจมากๆ เมื่อเห็นคนไทยใช้ microwave กันมากเหลือเกิน ...

ทำไม ... เตาไมโครเวฟ ... จึงมีโทษ ?

และหากมีโทษ...ทำไม...รัฐบาล...จึงไม่ห้าม?

การวางขายในตลาด และมีการเปรียบเทียบอย่างหนึ่ง อาจอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ กล่าวคือ

หากคุณวางกบตัวหนึ่งลงในกระทะที่กำลังตั้งไฟร้อนๆ กบจะกระโดด หนีออกจากกระทะทันที

แต่ถ้าใช้เทียนไขค่อยๆ ลนกระทะใบนั้น ให้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ตอนเริ่มต้นกบจะยังไม่รู้สึกถึงความร้อน

แต่พอเริ่มรู้สึก และอยากกระโดดหนี ขาก็จะโดนละลายติดกับกระทะ จนหนีไม่พ้น

ปัจจุบันเตาไมโครเวฟ ก็เหมือน...เทียนไข....เล่มนั้น คนที่ใช้ไมโครเวฟก็เหมือน...กบ...ตัวนั้น

กว่าจะรู้ตัวว่า ถูกละลายติดหนึบ ก็อาจจะสิบปี หรือยี่สิบปี ผ่านไปแล้ว

แต่จะช้า หรือเร็ว ต้องถูกยึดติดขาไว้แน่!...


เปรียบกับการให้เลือดของโรงพยาบาล..ก่อนที่จะฉีดให้คนไข้ ต้องเอาเลือดที่นำออกจากตู้เย็น

ไปอุ่นให้ร้อนเสียก่อน... เคยมีนางพยาบาลที่ต้องการประหยัดเวลา ใช้เตาไมโครเวฟช่วยอุ่นโลหิต

เพื่อปรับอุณหภูมิของโลหิตนั้น ปรากฏว่า พอฉีดเข้าในร่างกายผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที

ตั้งแต่บัดนั้น จึงเป็นที่มาของกฎข้อห้ามที่เข้มงวด ในโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล ที่ห้ามใช้

เตาไมโครเวฟอุ่นโลหิตอย่างเด็ดขาด...


บนฉลากขวดนมสำหรับเลี้ยงทารก ก็มีการระบุอย่างชัดเจนว่า ห้ามใช้เตาไมโครเวฟต้มน้ำให้เดือด

เนื่องจากคลื่นไมโครเวฟจะไปทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ทั้งหมด

ผลร้ายที่เกิดเนื่องจากไมโครเวฟนี้ มีรายงานมากมายที่วิจัยในประเทศรัสเซีย เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์

แต่มีน้อยมากที่วิจัยในสหรัฐอเมริกา เนื่องจาก การวิจัยในสหรัฐส่วนใหญ่ จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์

ทางการค้าทั้งสิ้น


รายงานในรัสเซีย เยอรมนี และสวิส พบว่าคลื่นไมโครเวฟ จะทำให้คลื่นสมอง ลดลง สมองเสื่อม และทำให้

คลื่นสมองมีความยาวกลับสั้นลง คลื่นไมโครเวฟนอกจากจะเป็นสารก่อมะเร็งแล้ว ยังเป็นสารตกค้างที่ร่างกาย

ขจัดไม่ได้ การรับคลื่นไมโครเวฟในระยะยาวจะทำให้ฮอร์ โมนเพศลดลง และเปลี่ยนแปลงทำลายเกลือแร่ต่างๆ

ในผัก เปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระที่เป็นโทษต่อร่างกาย ยังมีคลื่นอื่นๆ อีกหลายตัวในไมโครเวฟ ที่ล้วนทำให้

สารบำรุงในอาหารเปลี่ยนไป และแปรสภาพเป็นสารก่อมะเร็ง…

การรับประทานอาหารที่ปรุงโดยไมโครเวฟนานๆ จะทำให้ร่างกายสะสมสารก่อมะเร็ง เป็นจำนวนมาก เนื่องจาก

สารบำรุงในอาหารถูกทำลาย ก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ทำให้ร่างกายอ่อนแอ การรับประทานอาหาร

แบบนี้ในระยะยาวจะทำให้ความจำเสื่อม และขาดพลัง

ทางที่ดี...หากเป็นไปได้ ใช้ให้น้อยที่สุด...

ข้อมูลจากหนังสือ การก่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ และการป้องกัน เขียนโดย ดร. หงซานเปิ่น

(ศาสตราจารย์ด้านโภชนาการ มหาวิทยาลัยสิงคโปร์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น