ผู้ใช้รถ หรือผู้ที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัว จะไปบอกต่อกันก็ ได้ ช่วยกันบอกต่อๆ ไป รถเสีย     กด   1137  
ชาวกรุงซึ้งน้ำใจรถเสียช่วยฟรี  24   ชม.
รถ เสียกลางกรุงไม่ต้องตกใจ กด  1137  
เรียกใช้บริการช่างซ่อมอาสาได้ฟรีตลอด  24   ชั่วโมง ตามโครงการ    
ช่วยป้องกันทั้งโจรในคราบพลเมืองดีและภัยสุภาพสตรีที่รถเกิดเสียกลางทาง    
คนยังเรียกใช้น้อย เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ รู้จัก   วอนรัฐช่วยส่งเสริมสนับสนุน       ขณะที่ ผู้คนในสังคมต่างดิ้นรนเอาตัวรอด  
ส่งผลให้ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นเสีย สละต่อผู้อื่นน้อยลง และไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของคน อื่น
แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่งแม้จะไม่มากนัก  
แต่ก็พร้อมจะทำงานที่เสียสละช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน      
อย่างกลุ่มคนในโครงการ ' ปันน้ำใจช่วยเหลือรถจอดเสียกลางทาง '          
นายกฤตวิทย์ ศรีพสุธา เจ้าของโครงการ ' ปันน้ำใจช่วยเหลือรถจอดเสียกลางทาง '   กล่าวถึงที่มาโครงการนี้ ว่า  
เห็นข่าวผู้หญิงรถเสียในเวลากลางคืนและเกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา โดยพวกมิจฉาชีพคอยทำร้ายชิง ทรัพย์  
รวมไปถึงทำตัวเป็นพลเมืองดีในคราบโจรแล้วน่าเป็นห่วง   นอกจากนี้จากการสำรวจดู ยังพบ่า   มีรถเก่าจอดเสียอยู่ข้างทางไกลบ้านและไม่มีใครดูแลจึงได้หารือกับ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล ผบก.จร .  
เพื่อหาทางแก้ไขให้ประชาชนมีที่พึ่ง เพราะเชื่อว่าในสังคมไทยยังมีคนดีอยู่อีก จำนวนมาก  
บทสรุปที่ได้ คือ
ให้ตำรวจแต่ละท้องที่จัดหาอู่ซ่อมรถ จัดซื้อรถลากรถยกไว้ให้ บริการ โดยมีตำรวจโครงการพระราชดำริมาร่วมด้วยช่วย กันปรากฏว่าเจ้าของอู่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยไม่คิดค่าแรง และบอกว่า ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็ม ที่ เพราะต้องการช่วยประชาชนอยู่แล้วแต่ ไม่มีโอกาส    
นายกฤตวิทย์ กล่าวว่า   เพื่อสร้างความ เชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่ จึง   กำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่ออกให้บริการต้องติดบัตรใส่ชุดฟอร์ม และไม่รับค่าตอบ แทน   เพราะทุกคนทำด้วยใจรัก ' บริษัทได้ทำประกันอุบัติเหตุให้เป็นค่า ตอบแทน  1   ปี     ถึงขณะนี้ การช่วยเหลือยังน้อยอยู่เดือนหนึ่งประมาณ  50-60   ราย  
เฉลี่ยวันละ  4-5   รายแต่ในช่วงคืน ฝนตกจะมีคนเรียกใช้มากถึงวันละ  10   ราย '
ผู้ริเริ่มโครงการนี้กล่าวและยอมรับ ว่า โครงการ   '   ปันน้ำใจช่วย เหลือรถจอดเสียกลางทาง '     ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนยังไม่ทราบว่ามีโครงการนี้     หากมีการประชาสัมพันธ์มากกว่าที่เป็นอยู่เชื่อว่าจะมีคนที่เดือดร้อนขอใช้ บริการมากกว่านี้     และน่าจะมีอู่ซ่อมรถยนต์มาร่วมช่วยเหลือมากขึ้น
 
' ถ้าผู้ใช้รถไม่ฟัง จส.  100 จะไม่ รู้ว่ามีโครงการนี้     อย่างไรก็ดียังมีประชาชนส่วนหนึ่งยังไม่เชื่อใจว่าจะช่วยเหลือจริงหรือเปล่า หวังอะไรหรือไม่ ถ้าทำอย่างโปร่งใส     คนจะเชื่อใจและใช้บริการมากขึ้นเราก็พร้อมจะขยายขอบข่ายการช่วยเหลือออก ไป
เพราะโครงการนี้ตั้งเป้าใช้งบไว้  4 ล้านบาท แต่ทำจริงๆใช้เงินเพียง  1.69   ล้านบาทเท่านั้น '  
นายกฤตวิทย์กล่าวและย้ำว่า คนที่ต้อง การความช่วยเหลือจากรถเสีย     กดโทรศัพท์แจ้งเรื่องได้ที่   1137
 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น