++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ข้อควรระวังในการดื่ม "กาแฟ" / เอมอร คชเสนี

โดย เอมอร คชเสนี 28 กันยายน 2552 11:36 น.


เมื่อสัปดาห์ก่อนเราได้ทราบผลงานวิจัยเกี่ยวกับผลของกาแฟที่มีต่อ
สุขภาพกันไปแล้ว
อาจดูเหมือนว่าจะไม่มีอันตรายอะไรนักหากดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ
แต่คอกาแฟอย่าเพิ่งชะล่าใจกับข้อมูลด้านดีๆ นะคะ วันนี้มาติดตาม
"ข้อควรระวังในการดื่มกาแฟ" กันบ้างค่ะ

ยกตัวอย่างงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่า
ศูนย์วิจัยกับบริษัทขายกาแฟมีความเกี่ยวพันกันอยู่
นั่นคือนักวิจัยของศูนย์วิจัยในสวิตเซอร์แลนด์
ซึ่งมีบริษัทขายกาแฟรายใหญ่ของโลก
ระบุว่ากาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวถึง 4 เท่า
และยังมากกว่าโกโก้ ชาสมุนไพร และไวน์แดง

เหตุที่กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า
อาจเป็นเพราะเราดื่มกาแฟกันมากกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ อย่างไรก็ตาม
สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟแต่ละถ้วยและแต่ละยี่ห้อก็ไม่เท่ากัน
ขึ้นอยู่กับชนิดของกาแฟ

กาแฟ พันธุ์โรบัสต้า
มีสารต้านอนุมูลอิสระและกาเฟอีนมากกว่าพันธุ์อราบิก้าประมาณ 2 เท่า
ซึ่งเป็นผลมาจากวิธีการคั่วกาแฟ ปริมาณกาแฟที่ชงในแต่ละถ้วย
วิธีการชงกาแฟ และระยะเวลาที่ใช้

แม้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะมีผลดี แต่ก็มาคู่กับกาเฟอีน
ซึ่งมีข้อควรระวังและข้อควรคำนึงอีกหลายประการหากรักที่จะดื่มกาแฟ

นอก จากกาเฟอีนจะพบได้ในเมล็ดกาแฟแล้ว ยังสามารถพบได้ในใบชา โกโก้
ช็อคโกแลต น้ำอัดลมสีดำ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และยาบางชนิด เช่น
ยาแก้หวัด ยาแก้ปวด และยาลดน้ำหนัก เป็นต้น
ดังนั้นควรคำนวณให้ดีว่าในแต่ละวัน คุณได้รับกาเฟอีนจากแหล่งใดบ้าง
เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับกาเฟอีนมากเกินควร

กาเฟอีนเป็นสารกระตุ้น มีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ
ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพิ่มความดันโลหิต
และทำให้หัวใจเต้นผิดปกติในบางครั้ง

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโตพบว่า
การดื่มกาแฟปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันในผู้ที่มียีนขจัด
กาเฟอีนช้า ทำให้กาเฟอีนอยู่ในกระแสเลือดนานขึ้น
แต่สำหรับคนที่มียีนปกติที่ขจัดกาเฟอีนได้เร็ว กาแฟก็จะไม่มีผล

อย่างไรก็ตาม นัก วิจัยเชื่อว่าการดื่มเพียงวันละ 1-2 ถ้วย (1
ถ้วยมาตรฐานมีขนาดประมาณ 150-180 มิลลิลิตร)
จะไม่มีผลต่อการเกิดหัวใจวายเฉียบพลันไม่ว่าจะมียีนแบบไหน
แต่การดื่มวันละ 4 ถ้วยขึ้นไปไม่ให้ผลดี ดังนั้นควรดื่มแต่พอควร
เพราะปัจจุบันการตรวจยีนยังไม่ได้มีใช้กันเหมือนการตรวจสุขภาพทั่วไป
และยีนที่แตกต่างกันทำให้ผลการวิจัยทางโภชนาการที่สัมพันธ์กับโรคต่างๆ
มีข้อมูลขัดแย้งกันจนเกิดความสับสน

ส่วนผลของกาแฟต่อสุขภาพผู้หญิงก็ยังไม่มีผลวิจัยชัดเจนว่าจะเพิ่ม
ความเสี่ยงมะเร็งเต้านมและซีสต์ในเต้านมหรือไม่
การเดินสายกลางจึงดีที่สุด

ผู้ที่ดื่มกาแฟชนิดสกัดกาเฟอีนอาจคิดว่าปลอดภัย
แต่นักวิจัยเตือนว่า
กาแฟสกัดกาเฟอีนอาจเพิ่มระดับกรดไขมันในเลือดให้สร้างแอลดีแอลซึ่งเป็นคอเล
สเตอรอลตัวร้ายได้
เพราะในกระบวนการสกัดกาเฟอีนจะสกัดเอาสารฟลาโวนอยด์ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูล
อิสระและสารอื่นๆ ที่ให้รสชาติกาแฟแท้ๆ ออกไปด้วย
นอกจากจะอร่อยน้อยลงแล้ว ยังอาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้

หาก จะเลือกกาแฟสกัดกาเฟอีน
ควรเลือกชนิดที่ใช้กระบวนการสกัดธรรมชาติ
และควรระวังสิ่งที่เติมลงไปในกาแฟ เช่น ครีม นมไขมันเต็ม น้ำตาล น้ำผึ้ง
เพราะเท่ากับเติมพลังงานส่วนเกิน

สำหรับ ผู้ที่ดื่มกาแฟเพราะต้องการแก้ง่วง
นักวิจัยแนะนำให้ดื่มปริมาณน้อยๆ แต่กระจายการดื่มออกไปตลอดวัน เช่น
แทนที่จะดื่มถ้วยใหญ่ 500 มิลลิลิตรในตอนเช้า ให้ดื่มเพียงครั้งละ 60-90
มิลลิลิตร แต่บ่อยขึ้น

กาแฟจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วหลังจากที่เราดื่ม
โดยจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาทีและอยู่ในร่างกายนานหลายชั่วโมง
และต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถูกขจัดออกจากร่างกายจนหมด

หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่กินยาคุมกำเนิดจะมีการขับกาแฟน้อยกว่าคนทั่ว
ไป ส่วนผู้ที่สูบบุหรี่จะมีการขับกาแฟมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ
ดังนั้นคนที่สูบบุหรี่หากต้องการการกระตุ้นของกาแฟจะต้องดื่มกาแฟบ่อยกว่าคน
ที่ไม่สูบบุหรี่

องค์การ อนามัยโลกระบุว่าไม่มีหลักฐานว่ากาแฟจะเป็นสารเสพติด
การดื่มกาแฟจะเป็นนิสัยมากกว่าเสพติด
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณของกาแฟ
และเมื่อหยุดกาแฟบางคนก็เกิดอาการปวดหรือมึนศีรษะเพียงเล็กน้อย
ดังนั้นหากใครคิดจะเลิกดื่มกาแฟก็ไม่น่าจะมีปัญหา

สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟอยู่แล้ว
ก็ไม่มีเหตุผลที่จะหันมาดื่มเพียงเพื่อต้องการผลดีจากกาแฟ
โดยเฉพาะคนที่ร่างกายไวต่อกาแฟ การดื่มอาจยิ่งเพิ่มผลเสีย เช่น
หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น กระวนกระวาย นอนไม่หลับ
กระเพาะหลั่งกรดออกมามากเกินควรทำให้ปวดท้อง
และหากดื่มปริมาณมากก็จะเป็นสารขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายเสียน้ำมากขึ้นได้
ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำตามไปชดเชยด้วย

ติดตามฟังรายการ "Happy & Healthy"
ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-12.00 น.
ทางคลื่นของประชาชน FM 97.75 MHz
และ www.managerradio.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น