++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

โง่ที่จะรักและวิ่งตาม

สมัยตอนเป็นเด็ก จำได้ว่าในวิชาพละศึกษา
คุณครูสั่งให้เราวิ่งรอบสนามกันคนละ

20 รอบ เพื่อจับเวลา

ของแต่ละคน แถมยังมีรางวัลมาล่อใจอีกด้วยว่า

ใครเข้าเส้นชัยได้คนแรกจะมีคะแนนพิเศษเพิ่มให้

พอเริ่มออกสตาร์ท ฉันก็สังเกตเห็นเพื่อนหลายคน

พยายามจะเบียดตัวเองขึ้นมาอยู่แถวหน้าสุด

เพื่อที่จะได้เปรียบคนอื่นในช่วงออกตัว

แล้วพอครูบอกว่าวิ่งได้เท่านั้นแหละ

เพื่อนหลายคนของฉันก็วิ่งปรู๊ดออกไปแบบไม่คิดชีวิต

ส่วนฉัน - โน่น วิ่งอยู่หลังสุด

ไม่ได้ช้าเพราะเหนื่อย หรือเพราะวิ่งไม่เก่ง

แต่ฉันกำลังรู้สึกสนุกสนานกับการวิ่งจับเวลาซะเหลือเกิน

เพราะฉันวิ่งไป- คุยไป

กับเพื่อนซี้รู้ใจแบบไม่สนเวลา

ฉันสนใจความสนุกสนานระหว่างการวิ่งมากกว่า

บางทีเห็นคนข้างหน้าที่วิ่งนำมาหลายรอบกำลังชะลอความเร็ว

เพราะเหนื่อยหอบ

ก็อดที่จะขอวิ่งแซงหน้าบ้างไม่ได้

หรือบางทีหันไปเห็นเพื่อนที่วิ่งรั้งท้ายตลอด

ก็จะพยายามวิ่งให้ช้าลง
รอให้เขาวิ่งทันจะได้คุยไปด้วยกันหลายๆ

คน….สนุกดี



หรือบางทีรู้สึกไม่อยากแซวงคนข้างหน้าขึ้นมาเฉยๆ

เพราะว่าวิ่งตามหลังเขา

จะได้แอบนินทาเขาได้ สนุกไปอีกแบบ

จะทำลายสถิติไหม ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าวิ่งช้าๆ

มันไม่เหนื่อยเร็ว

และขอแค่วิ่งให้ถึงเส้นชัยก็พอ

………………………………….

คงคล้ายๆ กับความรักกระมัง

ทุกคนมีเส้นชัยของตัวเอ มีสถิติที่ตัวเองพอใจ

แต่คนที่เข้าเส้นชัยก่อน

ใช่ว่าจะคว้าความรักที่ดีได้ก่อนเสมอไป และสถิติที่ดี

ก็ไม่ได้การันตีว่าความรักจะสมบูรณ์แบบ

ในขณะที่สังคมทุกวันนี้ปลูกฝังให้เราวิ่งแซงคนอื่น ๆ
เสมอ

อย่าพยายามให้ใครแซงหน้า เพราะนั่นย่อม

หมายถึง การพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไป



แต่สังคมของความรักสอนให้คนรู้จักผ่อนจังหวะก้าวให้ช้าลง

แต่หนักแน่นขึ้น

โลกภายนอกบอกให้เรารู้ว่า

อย่าวิ่งตามใครถ้าไม่แน่ใจว่าจะตามเขาได้ทัน

เพราะมันเสียแรงเปล่า และโง่เหลือเกิน

แต่โลกของความรัก

ใครอีกหลายคนสมัครใจที่จะเป็นคนโง่

เพื่อวิ่งตามคนที่ตัวเองรักให้ทัน

ทั้งที่รู้แก่ใจว่าไม่มีวันนั้น

………………………………

เพื่อนรักคนหนึ่งของฉัน

มีเส้นชัยในหัวใจของเธอเอง

คนรักของเธอเป็นนักวิ่งฝีเท้าดี

เพราะตั้งแต่อยู่กันมา

เขาออกวิ่งก่อนเธอเสมอ

ไม่เคยบอกล่วงหน้า และไม่เคยชะลอความเร็วลงเลย

แต่ความเร็วของเขาก็ไม่มากไปกว่าความรักที่เธอมี

ความรักทำให้เธอวิ่งเร็วขึ้น ใกล้เขามากขึ้น

และไม่ยอมปล่อยให้เขาทิ้งระยะจนคลาดสายตาเธอ

แต่เมื่อเกือบที่จะถึงตัวเขา

เธอก็จะเลือกที่จะวิ่งให้ช้าลงราวกับว่าจะวิ่งเหยาะๆ

ตามเขาไปเรื่อยๆ

เธอแซงหน้าเขาได้ – แต่เธอไม่ทำ

แม้แต่จะวิ่งให้ทันเขาในแนวเดียวกัน เธอก็ทำได้

– แต่เธอไม่ทำ

เหตุผลที่ฟังดูเหมือนง่ายของเธอทำเอาใจฉันนิ่งงัน

“ ถ้าวิ่งให้ทันเขา หรือแซงหน้าเขาไป

ฉันก็คงมองไม่เห็นเขาในชีวิตอีก

แต่ถ้าฉันวิ่งตามเขาห่างๆ แบบนี้

เท่ากับว่าฉันยังได้เห็นความเป็นไปของเขา

ยังมีเขาอยู่ในสายตา – ในชีวิต

แม้ว่าเขาจะไม่เคยหันหลังกลับมา

แล้ววิ่งให้ช้าลงเลยก็ตาม”

“ แล้วทำไมไม่เข้าใกล้เขากว่านี้

ทำไมต้องเว้นระยะห่างแบบนี้ด้วย

เธอเป็นคนรักของเขานะ”

คำถามของฉันทำให้แววตาของเพื่อนรักปรากฏรอยเศร้า

… แต่ปากยิ้ม

“ ฉันกลัวเขารู้ตัว

แล้ววิ่งหนีฉันไปไกลยิ่งกว่านี้

ถึงวันนั้นฉันอาจเหนื่อยจนหมดแรงที่จะวิ่งตามอีกต่อไปแล้ว…ห่างแบบนี้ดีกว่า

ฉันได้เห็นเขา มันอุ่นใจ

หรือถ้าวันหนึ่งเขาล้มลง…

ฉันจะได้วิ่งเข้าไปช่วยพยุงได้ทัน

และถ้ามันจะทำให้เขาเห็นความจริงใจของฉัน

เขาอาจจะชวนฉันวิ่งไปพร้อมกันอีกครั้ง –

ถ้าเขาหายดีแล้ว”

ความรักทำให้คนมีความหวังอยู่เสมอ

ในขณะเดียวกัน

มันก็ทำให้คนบางคนดูโง่งมงายเสียเต็มประดา

ถ้าเพื่อนเลือกที่จะวิ่งออกนอกเส้นทาง

แล้วไปตั้งต้นใหม่กับใครสักคนที่เขาพร้อมจะวิ่งไปกับเพื่อน

ป่านนี้..เพื่อนของฉันคงเข้าเส้นชัยไปนานแล้ว

แต่เพื่อนยังคงเต็มใจที่จะวิ่งตามเขาไปเรื่อยๆ

แม้ว่าบางที – อาจจะไม่มีวันนั้น ..

วันที่เพื่อนเข้าเส้นชัยแห่งความรัก

เพราะบางที…..

“ เส้นชัย” อาจไม่มีความหมาย

ต่อคนบางคนหากว่าเขาเข้าเส้นชัย

แต่ได้ทำหัวใจหล่นหายไประหว่างทาง

เมื่อความสุขคือ… การโง่ที่จะรักและวิ่งตาม

ในสังคมของความรัก…

ฉันจึงมองเห็นคนที่วิ่งช้า

และปรารถนาจะเป็นผู้ตามด้วยความเต็มใจอยู่เสมอ

ความรัก ไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต ….

แต่ความรักเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีค่ามากที่สุด

เป็นไงกันบ้างอะจ้ะ... บางครั้ง...บางคนก็คิดว่า

ทำไมจะต้องตามเค้านะ...

ความคิดนี้คงจะเกิดขึ้นกับใครหลายๆ คน ...

ตอนนี้ก็คงจะพอรู้สึกถึงความรู้สึกของการตามบ้างแล้วนะ..


อยากเป็นคนตาม...โดยที่ไม่รู้จักเหนื่อยบ้างเหมือนกันเนาะ....
Story by : โย
Date : 24 April 2004

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น