++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ความสนุกเป็นเรื่องง่ายๆ

จาก The Book of Goals

จากประวัติศาสตร์ของมนุษย์ การทำงานและการละเล่นไม่ได้ถูกแยกจากกัน ผู้เล่าและผู้ติดตามเข้ามาสู่กลุ่มชุมชน และต่อมา ก็ได้จัดชาวบ้านเป็นหมู่และเป็นกลุ่มตามอุตสาหกรรมเล็กๆ วิถีชีวิตมนุษย์ไม่ได้แยกชีวิตครอบครัวออกจากชีวิตการทำงาน สังคมหรือชีวิตส่วนตัว เพราะทุกอย่างที่กล่าวมาแล้วรวมกันเป็นชีวิต

เมื่อมีการแยกที่ทำงานและที่บ้านออกจากกัน หรืออีกนัยหนึ่งคือการเข้าสู่วัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่า มีบางสิ่งต้องเลื่อนเวลาออกไป บางสิ่งต้องซ่อนเร้นหรือมีบางสิ่งที่ต้องกำจัดออกไป เรายังมีความรู้สึกว่า อะไรที่ทำให้เรารู้สึกดีแต่ไม่ทำให้เราเกิดรายได้ เป็นการเสียเวลา เป็นสิ่งที่แย่ และเป็นอันตรายสำหรับเรา เช่น การปรุงอาหารที่มีรสชาติดี

พวกเราหลายคนไม่มีความสุขกับการกินอีกต่อไป ทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ได้กลายเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตแทนที่ศาสนา มาตรฐานของความดีและความชั่วถูกแทนที่ โดยมาตรฐานของความมีสุขภาพดีและความมีสุขภาพไม่ดีพวกเราเชื่อว่า สุขภาพที่ดีนั้นเกิดจากการรักษาด้วยยาสมัยใหม่ พวกเราละเลยการออกกำลังกาย ซึ่งไม่ทำให้เราเจ็บปวด แต่ไม่ทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น และละเลยต่อกิจวัตรการกิน ซึ่งเป็นการปฏิเสธความสุขของเราเอง

ในหนังสือ Healthy Pleasure ได้ค้นพบผลกระทบด้านสุขภาพที่เกิดจากความสุขในชีวิต การกินมากเกินไปเป็นผลเสีย แต่คุณกำลังจะใช้ชีวิตตามวิถีทางของชาวกรีก Spata ถ้าคุณปฏิเสธความสุขในการกิน อาหารอร่อย การดื่มเหล้า การมีเพศสัมพันธ์ และความสุขอื่นๆ Ormstein ได้ให้ความเห็นไว้ดังนี้ "มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่า ความเครียดและความกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด รวมถึงไขมันในอาหาร สามารถทำให้ระดับคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือดของคุณสูงขึ้นได้ " ข้อสรุปของพวกเราก็คือ "ความสุขนั้น เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ"

รายการที่รวบรวมสิ่งที่ดีสำหรับคุณ อะไรเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณบ้าง? ตามที่ Ornstein ได้เคยเขียนไว้ว่า "ความสุขของการมีสุขภาพดี ไม่มีผลเสียข้างเคียงกับคุณแบะตอบแทนให้คุณถึง 2 อย่าง คือ ทำให้อารมณ์ดีและมีสุขภาพดีขึ้น" ความสุขใดเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณบ้าง

การสัมผัส
การสัมผัสทางกายภาพ ทำให้คุณ ได้รับผลทางวกายภาพ เด็กทารกคนไข้ขั้นโคม่าและผู้ที่มีความเจ็บปวดเรื้อรัง จะได้รับประโยชน์จากวิธีสัมผัสทางกายภาพ จากการบีบนวด การกอด นอกจากนี้ การถูกนวดยังช่วยให้สมองหลั่สารเคมี ชื่อ เอนดอร์ฟินส์ ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกสบายออกมา

การชมทิวทัศน์
การได้ชมทิวทัศน์ เป็นผลดีต่อคุณด้วย โดยเฉลี่ยแล้วคนไข้ในโรงพยาบาล ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ต้นไม้จากเตียงของเขา จะใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลน้อยกว่าคนไข้อื่น 2-3 วัน คนไข้อื่นๆที่ไม่ได้เห็นวิวหรือเห็นสิ่งใดที่ช่วยเสริมสร้างกำลังใจ เช่น มองเห็นแต่กำแพงซีเมนต์

ดนตรี
ดนตรีทำให้แม้แต่สัตว์ที่ดุร้ายก็ผ่อนคลายลงได้ ตัวคุณเองก็เช่นกันจากการศึกษาที่ให้ทารกฟังเพลง ลูลาบี ของ บราห์ม ซึ่งทารกอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ฟังเพลง เมื่อเปรียบเทียบกัน พบว่า ทารกที่ฟังเพลงนั้นมีน้ำหนักขึ้นเร็วกว่า และออกจากโรงพยาบาลก่อนทารกที่ไม่ได้ฟังเพลง 1 อาทิตย์ ทำให้พ่อแม่ของเด็กประหยัดเงินได้หลายพันดอลลาร์

กลิ่น
กลิ่นมีผลดีต่อเราด้วยเช่นกัน เราทราบว่า Proust ว่ากลิ่นหอม ทำให้เราระลึกถึงความทรงจำที่ดีได้ กลิ่นหอมบางอย่างอาจทำให้เราแพ้ บางกลิ่นทำให้เราผ่อนคลาย จากการศึกษาคนไข้ซึ่งเป็นโรคปวดเมื่อยเรื้อรัง คนไข้จะถูกแนะนำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยให้ดมกลิ่นพีช ต่อมาคนไข้สามารถทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้เองจากการสูดกลิ่นพีช

อาหาร
อาหารไม่ใช่ศัตรูของเรา แน่นอนว่าอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรทสูง ทำให้ระดับ ไทรโทฟานในสมองสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจและนอนหลับ เครื่องเทศ เช่น พริก พริกไทย ลดไขมันในเส้นเลือด และป้องกันโรคหัวใจ ช่วยบรรเทาอาการหวัด และช่วยให้ร่างกายปล่อยสาร เอนดอร์ฟีน ซึ่งทำให้เหงื่อออกและสมองผ่อนคลาย

แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป หลอดเลือด โคโรนารี ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์วันละ 1-2 แก้วนั้น มีไขมันต่ำกว่าและมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ดื่มจัดหรือผู้ที่ไม่ดื่มเลย

การหัวเราะ
การหัวเราะช่วยให้เรามีสุขภาพดี และทำให้เรารู้สึกดีขึ้นด้วย ขณะที่คุณหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจจะสูงขึ้น การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ทำให้ร่างกายคุณผลิตฮอร์โมนซึ่งช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้

ฯลฯ
จากการวิจัยพบว่า ยังมีสิ่งอื่นๆ ได้แก่ สัตว์เลี้ยง เพศสัมพันธ์ การนอนกลางวัน งานอดิเรก และเพื่อนๆที่ช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น