เวลาติดตาต้องใจใครสักคน คุณจะสานต่อ สัมพันธภาพกะเค้าต่อไปยังไงดี?
บุกไปหาเค้าที่บ้านเลยดีไหม (อ้าวก็คิดถึงนี่) หรือแวะไปทักเค้าที่ทำงาน ให้ตื่นเต้นเล่นก็ไม่เลว แต่ก่อนจะทำอย่างที่เล่า คุณควรโทรศัพท์ไปหาเค้าก่อนไม่ดีกว่ารึ ขืนทะเล่อทะล่าบุกไปหาถึงบ้าน หรือออฟฟิศ แหงล่ะเค้าย่อมเซอร์ไพรส์ แต่อีกใจอาจนึกตำหนิในความอุตสาหะ ที่ไม่รู้จักกาลเทศะของผู้มาเยือนก็ได้ ยิ่งถ้าไม่ได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้า ก็อย่าหวังว่า คนที่คุณปิ๊งไว้ จะมีเวลาเจียดมาให้ จีบ ซะให้ยากเลยหนู
ใน บันได 10 ขั้น สำหรับการโทร.หาคนที่คุณหลงใหลได้ปลื้มเป็นครั้งแรก (Top 10 : Tips For The First Phone Call) บอกว่า เวลา นี่แหละเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงที่สุด เพราะผู้มีอารยะและสมบัติผู้ดีควรไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ก่อนว่า เวลาไหนน้าถึงจะเหมาะสมที่จะโทร.ไปขายขนมจีบ หวานใจไทยแลนด์ เอ๊ย หวานใจฉันเอง ที่เล็งไว้แล้วว่าจะคว้ามาเป็นแฟนให้ได้ (ไม่ได้เป็นแฟน เผื่อเป็นกิ๊กก็ยังดีฟะ) ซึ่งช่วงเวลาปลอดภัยและคาดว่า เค้าคงไม่มีงานมีการติดพันยุ่งเหยิง หรือถ้ายังเป็นนิสิตนักศึกษาก็น่าจะปลอดจากการเรียน ได้แก่ ตอนพักทานอาหารกลางวัน กับเวลาเลิกงาน น่านล่ะเจ๋ง
แต่ถึงแม้ 2 ช่วงเวลาที่บอกไว้ว่าน่าจะปลอดโปร่งโล่งสบาย ก็อย่าคาดหมาย 100% เต็มว่า เค้าจะว่างตลอดนะ เพราะมีเหมือนกันที่บางทีคุณโทร.ไป แต่ดั๊นเป็นช่วงติดพันกับการประชุมหรืออาจสัมมะนง สัมมนาอยู่ก็ได้ เหตุนี้จึงควรทำใจไว้บ้าง แต่ช่วงเวลาที่ว่านั่นน่ะเซฟตี้สุดขีดแล้วล่ะจ้ะ
ส่วนโทร.แล้วจะหลอกล่อให้เค้าติดใจคุณจนหนึบหนับได้ หรือไม่ ลองใช้ยุทธวิธี ดังนี้
1. ขอให้กล้าโทร.ไปหาก่อนเหอะ ผลลัพธ์จะเป็นไงอย่าเพิ่งคิด
รวบรวมความกล้า แล้วควักเบอร์ โทร.ของเค้าออกมา จัดแจงกดหมายเลข แต่อย่าลืมล่ะว่าควรโทร.ช่วงปลอดภัยไว้ก่อนอย่างที่เล่าให้ฟังข้างต้น ถ้าโทร. ค่ำ ควรโทร.หลังสองทุ่ม เพื่อเลี่ยงการขัดจังหวะทานข้าวเย็นน่ะสิ แต่ต้องโทร.ก่อนสี่ทุ่มนะ เพราะเค้าอาจเข้านอนเร็วก็ได้ ถ้าน้ำเสียงทางนู้นฟังดูเหมือนยุ่งหรือวุ่นวาย ลองเปรยเป็นนัยๆ ว่า ถ้าเวลานี้ไม่เหมาะคุยแล้วจะให้โทร.ไปหาใหม่วันไหนและเวลาไหนดี ให้อีกฝ่ายเค้ากำหนดเองก็ดีเหมือนกัน จะได้ถูกกาลเทศะหน่อย เวลาคุยฉอเลาะออเซาะจะได้ออกรสออกชาติ แต่ถ้าถูกเค้าตัดรอนชนิดตัดเยื่อไม่เหลือใยว่าอย่าโทร.มาเลยน่ะดี โห...โดนอย่างงี้ ตูจบเห่ดีก่า ขี้เกียจหน้าด้านเชอะ
2. โทร.หาเค้าจากที่ที่คุณสบายใจ
ใครก็ตามที่รู้สึกสบายใจและผ่อนคลายจะแสดงความสนุกสนานเบิกบานผ่านทางน้ำเสียง ดังนั้น ถ้าคุณคว้าโทรศัพท์หมุนไปหาตอนที่ใจคุณกำลังดี๊ด๊าอยู่ละก็ เจ้าบรรยากาศที่สร้างเสริมอารมณ์ดีนี่แหละจะช่วยให้อีกฝ่ายอยากคุยโขมงโฉงเฉงด้วย แหมจะหว่านเสน่ห์ให้เค้ารักก็ควรอยู่ในมู้ดที่เกื้อให้เกิดการปิ๊งปั๊งกันซี่
3. มีน้ำเสียงเชื่อมั่น
อย่างน้อยก็น่าจะมีน้ำเสียงมั่นใจในตัวเองนิดนึงว่า คุณอยากคุยกะเค้าจริงๆ ไม่ใช่ว่าทำเสียงสั่นเครือ ประหม่าหรือหวั่นวิตกจนพูดอะไรติดขัดไปหมด ถ้าเป็นงี้ต้องปรับปรุงอย่างแรงแล้วหนูเอ๋ย โธ่ อยากจีบเค้า แล้วยังไม่กล้า ก็อย่าสะเหร่อไปจีบเลย ต้องมั่นใจสู้ตายสิจ๊ะ เอ้าชูสองนิ้วเร้ว!
4. ดึงดูดความสนใจด้วยการพูดสิ่งดีๆ ในบทสนทนาสั้นๆ
เป็นธรรมชาติของคนเพิ่งมาตีสนิทกันอยู่แล้วที่การพูดคุยคราวนั้นย่อมเป็นการคุยสั้นๆ แต่คุณสามารถสร้างคุณภาพให้การคุยจนออกรสชาติได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงที่จะคุยในเรื่องซ้ำซาก หรือเลี่ยงเรื่องน่าเบื่ออย่างเรื่องการเมืองน้ำเน่าเงียะ อีกอย่างคุยไปอย่าบ่นไป และอย่าจับเรื่องไร้สาระมาเล่าด้วยล่ะ เดี๋ยวเค้าเบื่อก่อนละซวยเลย
5. อ้างที่มาที่ไปเพื่อให้เค้าจำได้ว่ารู้จักกันได้อย่างไร
ถ้าเค้าจำไม่ได้ว่าเคยพบหรือเคยให้เบอร์โทรศัพท์ กับคุณที่ไหน ก็รื้อฟื้นอดีตซึ่งเป็นความหลังฝังใจคุณให้เค้าฟังหน่อยดี้ ไม่ใช่คุยกันได้ตั้งนานเค้ายังไม่รู้สักทีว่าคุณเป็นใคร มันเสียน้ำลายเปล่าไหมเนี่ย
6. ทำให้หัวเราะ
นี่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ใครๆก็อยากพูดคุยกับคนอารมณ์ดีเบิกบานสำราญอุราด้วยกันทั้งนั้นเลย เอางี้ ถ้าคิดอะไรไม่ออกหรือไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรให้เค้าขำขันหรือหัวเราะได้ละก็ ลองใช้วิธีหยอดมุกแบบที่ดาวตลกเค้าใช้ดูสิ เหตุนี้ก่อนชวนใครสรวลเสเฮฮา คงต้องหมั่นดูตลกบ่อยๆน่ะซี แต่เอามุกที่สุภาพหน่อยนะ
7. พูดให้ถูกกาลเทศะ
การเปิดเผยถึงความชอบที่คุณมีต่ออาหารชาตินั้นชาติโน้นแล้ว ก็ปล่อยทีเด็ดชวนเค้าไปทานข้าวด้วยกันน่ะเป็นสิ่งดี แต่ไม่ควรมัดมือชกยื่นคำขาดให้เค้าไปพบให้ได้ในวันที่เค้าติดธุระหรือไม่อยาก ไปเชียวนะ การบีบคั้นใจน่ะ ไม่ให้ผลดีหรอกย่ะ รู้งี้ก็อย่าทำ
8. ชวนออกเดทกันไหม?
แต่ควรแน่ใจตัวเองก่อนว่าอยากนัดเค้าไปเที่ยวจริงอ่ะ ถ้ามั่นใจก็จงยกหูโทรศัพท์นัดเค้าเลย หากเผอิญเค้าจับได้ไล่ทันขึ้นมาว่า กำลังถูกจีบก็ช่างเซ่ รู้ก็รู้ไป รู้ก็ดีแล้ว เค้าจะได้พิจารณาเราสักที ไม่งั้นก็มองไม่ออกอยู่นั่นว่าอยากเป็นแค่เพื่อนหรือคบเป็นแฟน หวังว่าเค้าจะรับเราไว้พิจารณานะ ถ้าเค้ายังไม่มีแฟน แถมเราก็ไม่ได้เลวชาติ ก็น่าจะลงเอยด้วยดีนี่นา
9. วางหูเมื่อมั่นใจว่ามีการรับนัดแล้ว จะได้ไม่พูดมากจนเสียท่าปล่อยไก่ออกไปน่ะเซ่
อย่ารู้สึกว่า อยากให้การสนทนาดำเนินต่อไปอีกเรื่อยๆแม้เค้าตอบตกลงรับนัดแล้ว เพราะคุณยังมีเวลาอีกเหลือเฟือที่จะศึกษากัน ฉะนั้นเมื่อคุยกับเค้าทางโทรศัพท์และได้คำตอบที่ต้องการแล้วก็จงวางหูซะ การใช้ เวลานิดหน่อย ในการคุยทางโทรศัพท์ย่อมช่วยให้เรา ปล่อยโง่ น้อยลงไปด้วย จริงป่าว
10. อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์เหลือแค่เพื่อน
เมื่อมั่นใจแต่แรกว่าจะจีบเค้าให้ได้ งั้นตัดความ เป็นเพื่อนออกไปเลย อย่าทำเป็นกระแดะอยากเป็นแฟนแต่ปากบอกว่าเป็นเพื่อนหน่อยเลย...นั่นน่ะปล่อยให้ ดารานักร้องเค้าเป็นกันเหอะ สำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆควรตรงไปตรงมาและจริงใจสิถึงจะถูก เอ้า...มีโทรศัพท์ทั้งทีควรใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการจะจีบใครมาเป็นกิ๊กหรือเป็นแฟนก็ทำเข้าเร้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น