จาก The Book of Goals
ถ้าคุณริเริ่มกิจกรรมอาสาสมัครในขณะที่คุณมีงานประจำอยู่ จะทำให้คุณมีอะไรทำหลังจากที่คุณเกษียณแล้ว เพราะคุณได้สร้างอาชขีพที่ 2 ให้กับตัวเองไว้แล้ว ซึ่งมันอาจจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับในยุคปัจจุบันซึ่งมีการลดจำนวนคนงานและมีการเกษียณอายุเร็วขึ้น คนไข้ของผมคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้จัดการโรงพยาบาลเล่าให้ผมฟังถึงชายคนหนึ่ง ชื่อ เฟรด บาร์นส เป็นผู้บริหารที่ใกล้เกษียณอายุ ขณะที่เขาไปเข้ารับการผ่าตัดหัวใจในโรงพยาบาล เขาได้ร่วมงานอาสาสมัครในโรงพยาบาล ได้แก่ ให้บริการน้ำดื่มหรือรองเท้าแตะ ดึงผ้าปูเตียงให้กับคนไข้ พาคนไข้ไปอ่านหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร และพยายามขอร้องไม่ให้มีการขายขนมขบเคี้ยวในโรงพยาบาล ซึ่งไม่เป็นผลสำเร็จ ตลอดเวลาเขาได้รับรู้ถึงคุณค่าที่ได้รับจากการช่วยเหลือผู้อื่น เขาตั้งปณิธานไว้ว่า เขาจะกลับมาทำงานอาสาสมัครอีก ต่อมา เฟรด ก็ได้ทำตามที่เขาตั้งไว้ เมื่อเขากลับไปทำงานแล้ว แม้ว่าเขาจะได้รับความกดดันจากธุรกิจ แต่เขาก็ได้กลับมาทำงานอาสาสมัครเป็นงานพิเศษที่โรงพยาบาลและตั้งใจว่า จะทำได้มากขึ้นเมื่อเขาเกษียณแล้ว
กิจกรรมอาสาสมัครจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น เพราะคุณจะมีความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเองดีขึ้น และคุณจะพบว่า คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จอห์น สุลีแวน ซึ่งเป็นนัดจัดหางานชั้นนำคนหนึ่งในบอสตัน ซึ่งมีธุรกิจและความรับผิดชอบทางครอบครัวมากมาย แต่เขาก็ยังหาเวลาว่างไปร่วมกับกลุ่มผู้ช่วยเหลือผู้ไม่มีงานทำ ผมเคยถามว่าเขาทำได้อย่างไร เขายักไหล่และพูดว่า "ใช่ ผมเหนื่อยมากเมื่อไปร่วมงานที่นั่น เมื่อผมกลับจากที่นั่นมาผมก็ยังเหนื่อยอยู่ แต่ผมรู้สึกดีขึ้น"
การบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ อาจช่วยชีวิตคุณได้ คนจำนวนมากได้พูดถึง ความสดชื่นอย่างประหลาด เมื่อเขาได้รับหลังจากได้ช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน คนแปลกหน้าที่ต้องการความช่วยเหลือ จากการศึกษาพบว่า ความสดชื่น ดังกล่าว อาจมีผลทางกายภาพได้ บุคคลที่ทำงานอาสาสมัครมักมีอัตราการเจ็บป่วยจากการอัมพฤกษ์และโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ไม่ทำงานอาสาสมัคร และผู้ที่เป็นโรคอัมพฤกษ์และโรคหัวใจอยู่แล้วจะหายได้เร็วขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น