เขาลองโทรไปหาเธอตอนเที่ยง ในวันสิ้นเดือน
ไม่น่าเชื่อ หยุดตั้ง 4 วัน ไม่ได้เจอหน้าเธอเลย
แต่คุยโทรศัพท์ ยังไม่ได้คุยมากนัก
ตอนเที่ยง โทรติด แต่ไม่มีคนรับ
สักพัก เธอส่ง SMS มาว่า กำลังยุ่งอยู่
เห็นข้อความแล้ว ต้องถอนหายใจอย่างแรง
ช่วงบ่ายโมง เธอโทรมาทักทาย
รายงานว่า พึ่งพาคุณย่าออกจากโรงพยาบาล
คุยได้สักพักก็แจ้งว่า กำลังจะทานข้าว จึงขอวางสาย
ตอนเย็นจะโทรมาใหม่
6 โมงเย็น เธอก็โทรมา
ขอโทษที่ผิดนัด ไม่ได้ไปห้วยผึ้งด้วย
แต่เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
เธอรู้ว่า เขาจะต้องน้อยใจ ไม่พอใจ
แต่เขาไม่ได้พูดอะไรมากนัก
เพราะไม่รู้จะพูดอะไร
เธอจึงย้อนถาม โกรธเพราะเธอต้องดูแลคนในครอบครัวของเธอที่ป่วยพร้อมกันงั้นหรือ
โกรธที่เธอผิดนัดเขางั้นหรือ
แล้วเขาจะพาเธอไปห้วยผึ้งอีกไหม
เธอจะไปหาเขาที่บ้านในวันเสาร์หน้านะ โอเคไหม
เขาตอบว่า ไม่ทุกข้อ
ไม่อยากที่จะนัดเธอ พาเธอไปไหนอีกแล้ว
อยากให้เธอเผื่อเวลาไว้ดูแลคนในครอบครัวจะดีกว่า เพราะอาจจะมีใครป่วยอีกก็ได้
ป่วย หรือมีอาการเจ็บโดยไม่รู้ล่วงหน้าว่า วันนั้นจะป่วยจะเจ็บนะ
ถ้าจะนัดอีก แล้วเธอไปไม่ได้ เดี๋ยวเธอก็จะต้องลำบากใจมาขอโทษอีก
ทั้งๆที่เธอไม่ผิดสักนิด
ทำถูกต้องแล้วที่ดูแลคนในครอบครัวที่ไม่สบาย
แต่เขารู้สึกไม่พอใจ ตรงที่เธอปิดโทรศัพท์เมื่อคืนนี่แหละ
เวลาที่วิกฤติ มีใครไม่สบาย เธอต้องคอยดูแล
เธอดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ผิด
แต่เมื่อโทรมาบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น ระบายความอึดอัด เครียดในตอนบ่ายแล้ว
ตอนกลางคืนก็หายไปเฉยๆ
เธอบอกว่า เมื่อวาน เธอเหนื่อยมากๆ
กลับมานอนตอนเย็น ก็ชาร์ทแบตเตอรี่ไว้ แล้วหลับไปเลย
เช้ามาเปิดเครื่อง ถึงรู้ว่า เขาโทรมา 7-8 สาย
ในสถานการณ์กลับกัน เมื่อเกิดความคับข้องใจ เธอเพียรพยายามกดโทรหาเขาหลายต่อหลายครั้ง
เธอยังอยากรู้ อยากคุย อยากเคลียร์
แต่นี่เป็นเรื่องราวที่หนักกว่า เรื่องการป่วยไข้ของคนในครอบครัว
และเธอก็เครียด เหนื่อย
แต่เขาไม่มีโอกาสได้รับฟังรับรู้ในห้วงเวลาวันนั้น คืนนั้น
ต้องรอถึงเที่ยง ถึงเย็นของอีกวัน
รอจนพูดไม่ออก รอจนเหนื่อย.................
ไม่รู้จะว่าอย่างไรต่อไป
เครียด...
เสาร์อาทิตย์หน้า และเสาร์ - อาทิตย์ต่อไป ขออยู่เงียบๆดีกว่า
ไม่อยากเจอหน้าเธอ
นึกถึงคำเตือนของเพื่อน ชีวิตรักของเพื่อน
นึกถึงคำที่เธอพูดเล่นๆ
"ถ้าทนไม่ได้ จะเลิกก็ได้นะ"
เขาไม่เคยคิด แต่เธอคิด เอามาพูดเล่นๆ
บางที สักวัน เธออาจจะเอ่ยขึ้นมาเอง
เพื่อนบอกให้เตรียมทำใจไว้บ้าง
จริงสินะ เธอมักจะถามบ่อยๆ
ถ้าเกิดเราไม่ได้อยู่ด้วยกันละ...
มักจะถามเรื่อยๆ
เมื่อวานตอนที่เธอโทรมา บอกเล่าบางแง่มุมของญาติๆ
บอกเล่าด้วยอารมณ์ร้อน รุนแรง ในร้อน
เอะอะ โวยวาย
เฮ้อ
เมื่อคืนก่อน เขาต้องหยิบพระราชดำรัสของในหลวงมาอ่านเพื่อให้ใจเย็นลง
เตรียมใจไว้
เขามักจะบอกเธอว่า จะอยู่กับเธอตลอดไป
แต่เธอมักจะถามเขาว่า
ถ้าเกิดเราไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะ
ดูเหมือนว่า เธอก็ไม่ได้มั่นใจในตัวเขามากนัก
อือม ....
ดูๆแล้ว เขาแทบไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอมั่นใจได้เลยสักนิด
นอกจากตัวกับหัวใจ
แต่ในสายตาของคนทั่วๆไป ความมั่นใจในบุคคลหนึ่งมองกันที่
เงิน หน้าที่การงาน เกียรติยศ
เขาไม่ค่อยมีเสียเลย
น่าคิด เมื่อถึงเวลาที่จำเป็น
เวลาที่เดือดร้อน ทุกข์กาย ทุกข์ใจ
เธอก็ย่อมต้องเลือกในสิ่งที่จะทำให้ทุกข์นั้น หายไป หรือลดน้อยลง
เหมือนสิ่งที่เพื่อนที่ห้วยผึ้งเจอมาเลย
+ + +
ความเคยชินนั้น ยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาอันสั้น
เขาอยากให้เธอไปออกกำลังกายบ่อยๆ
นอกจากจะทำให้หุ่นดีแล้ว
เธอจะกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น
แต่เธอก็กลัวว่า เดี๋ยวกล้ามจะขึ้น กลัวไม่สวย
เลยไปออกกำลังกายบ้าง ไม่ไปบ้าง
แต่เธอคงจะลืมนึกไปอีกอย่าง
การออกกำลังกาย ทำให้เธอมีความอึด อดทนมากขึ้น
ไม่เหนื่อยง่าย เพราะออกกำลังจนอยู่ตัว
ถ้าเธอออกกำลังกายทุกวัน เธอจะมีพละกำลังมาก
ไม่เหนื่อยง่าย
วันที่ 30 เธอคงไม่เหนื่อยขนาดนั้น จนหลับง่ายๆแบบนั้น
ถ้าเธอออกกำลังกายทุกวัน เธอจะกินมากเท่าไหร่ กินทั้ง 3 มื้อ ก็จะไม่อ้วนมากมาย
เพราะร่างกายเผาผลาญพลังงานส่วนเกินไป
ทำให้มีความอึดเพิ่มขึ้น
เห็นพยาบาลทานเยอะ ทำงานหนักได้มากกว่าเธอตั้งหลายเท่า
แต่เธอ ทานก็น้อย เหนื่อยก็ง่าย ง่วงก็ง่าย
เวลาทุกข์ร้อนอย่างวันที่ 30 ก.ค. ก็นอนหลับไปเลย
แทนที่จะให้เขาโทรมาพูดคุย ถามไถ่เพื่อความสบายใจสักนิด
แต่ไม่เลย
สิ่งที่เขาห่วงใยและอยากให้ทำ แค่การออกกำลังกาย
ยังไม่ค่อยจะเอาใจใส่
สุขภาพของเธอก็ใช่ว่าจะดีนัก
ในเมื่อคนในครอบครัว ไม่สบาย เธอก็ควรที่จะดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีขึ้น
เพื่อให้สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง อึดกว่าเดิม
จะได้ดูแลคนอื่นได้มากขึ้น
และอย่างน้อย
จะได้มีเวลาโทรบอกเขาสักนิด ให้เขาหายห่วง
ไอ้ที่น้อยใจน่ะ ตรงนี้
คงต้องขอไม่เจอหน้าเธอสักระยะหนึ่ง
เพื่อนึกดูว่าจะทำอย่างไรให้เธอสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์มากกว่านี้
ไปออกกำลังกายบ่อยๆยิ่งกว่านี้
แล้วทำให้เธอเลิกถามว่า ถ้าเกิดเราไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะ
เพราะกลัวว่า เธอจะทำให้สิ่งที่เธอถามนั้นเป็นจริงขึ้นมาน่ะสิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น