"ประเทศเราในปัจจุบันซึ่งมีระบบทักษิณเป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ ภาพที่น่าทุเรศและบัดซบที่สุดก็คือที่เราเห็นทักษิณและพวก ชวนนักการเมืองและรัฐมนตรีของเรา ไปรดน้ำดำหัวกันที่ลาวและเขมร สำหรับที่ลาวนั้นจะเห็นว่าเขาถูกจำกัดขอบเขตในการแสดงพลังความเลว ความระยำอย่างอยู่ในขอบเขต เพราะว่าผมเชื่อว่ารัฐบาลลาวก็คงอยู่ในภาวะจำยอม ถึงความรู้สึกของคนในชาติไทยส่วนใหญ่ต่อการที่จะไปแสดงอาการเช่นนั้นในประเทศของเขา แต่เขาก็อยู่ในภาวะจำยอมว่าระบบทักษิณมันเป็นรัฐบาลอยู่ จึงโอนอ่อนผ่อนตามเท่าที่เขาจะทำได้ แต่ก็แสดงความเข้มข้น จำกัดขอบเขต ความทะเล่อทะล่า ความทะลึ่ง ของทักษิณและพวกในประเทศลาว
แต่สำหรับในประเทศเขมรแล้วนี่ เราจะเห็นชัดเจนว่าระบบทักษิณและระบบเขมรโดยฮุนเซนนั้น มันกอดกันกลมสมรู้ร่วมคิด ที่จะเอาประโยชน์จากรัฐทั้งสอง ไปเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของมันทั้งทักษิณและฮุนเซน แต่ไอ้ฮุนเซนมันเอา Issue ในเรื่องของความรักชาติ มาใช้โฆษณาปิดบังความชั่วของมัน มันพยายามเอาดินแดนของเรา เป็นคดีที่คาศาลโลกอยู่ในขณะนี้ มันเอาทักษิณซึ่งเอาประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง เป็นเครื่องมือ แม้แต่ดินแดนของเรา ระบบทักษิณก็ยอม ไม่ต่อสู้ ไม่ต่อต้าน รอศาลโลกพิพากษา
เราจะเห็นว่าคนสองคนมันก็ชั่วด้วยกันทั้งคู่ แต่ความรู้สึกมันต่างกัน ฮุนเซนชูผลประโยชน์ชาติ แต่ไอ้ระบบทักษิณชูผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเป็นหลัก เราจะเห็นว่าสองคนนี้ชั่วไม่แตกต่างกัน แต่ที่มันบัดซบที่สุดก็คือคนของเรานั้นไม่รักชาติบ้านเมือง ทั้งระบบทักษิณที่ว่านี้ ไปแสดงเหิมเกริม ร้องเพลง "ช่างแม่มัน" (Let it be) สุดบัดซบที่สุด หยาบคายที่สุด นี่คือระดับผู้นำ อดีตผู้นำ ระดับรัฐมนตรีช่วย แกนนำเสื้อแดง ผมทนไม่ไหว รู้สึกว่าไอ้ระบบนี้ มันเหยียบย่ำกบาลและยังเอาตีนเขี่ยตาผมอีก ไม่ทราบพวกเราทุกคนในชาติรู้สึกอย่างผมหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้ ขอให้พวกเราทุกคนไปทบทวน เขมรนั้นมันเอาประโยชน์จากเรา แม้แต่ดินแดนมันก็เอาจากเรา เป็นปฏิปักษ์กับเรา แต่ระบบทักษิณกลับไปร่วมมือกับชาติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเรา จะเอาดินแดนและอธิปไตยของเราไป กลับไม่รู้สึกรู้สา กลับปล่อยให้ตกเป็นเหยื่อล่อของไอ้ฮุนเซน แล้วเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติของเรา เพราะฉะนั้นพฤติกรรมของระบบทักษิณที่เผาบ้านเผาเมือง ฆ่าทหาร ทำร้ายประชาชน ทำร้ายพันธมิตรฯ นี่มันเป็นบทบาทที่สอดคล้องชัดเจนกับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่บอกว่า ระบบทักษิณนั้นเป็นภัยคุกคามต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขชัดเจนอยู่แล้ว พวกเราสื่อมวลชนทั้งหลายรู้สึกกันบ้างหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นผมว่าทักษิณเขาไม่ได้รักชาติ ทรยศต่อชาติ ร่วมมือกับฮุนเซนซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับไทยอย่างชัดเจน เราจะเสียดินแดนบริเวณปราสาทพระวิหารอยู่ลอมล่ออย่างชัดเจน ก็ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะฉะนั้นจะมาเปรียบเทียบกับแกนนำพันธมิตรฯ คนหนึ่งที่พวกเราบ่นหาถึง ที่หายไปอย่างสนธิ (ลิ้มทองกุล) ผมก็สัมผัสเขามา เขามีความรักชาติบ้านเมือง ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง อย่างที่เขาพูดแล้ว ถูกยิง 200 นัด คดีก็จะ 3 ปีแล้วไม่คืบหน้า เพราะฉะนั้นคน 2 คนนี้มันคนละเรื่องเลย ข่าวลือบอกว่าสนธิรับเงินจากทักษิณจนเงียบไปนั้น ขอให้พวกเราไปไตร่ตรองดู โดยส่วนตัวแล้วผมสัมผัสกับเขามาตลอดการต่อสู้ ผมไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นเช่นนั้น เวลานี้เอเอสทีวีอยู่ได้ก็เพราะเงินจากการขายปุ๋ยของลุงจำลอง จากพันธมิตรฯ ที่ซื้อของ จากพวกเราที่บริจาค เดี๋ยวหลังจากนี้ผมก็ต้องไปให้เงินเขาอีกพันนึงเหมือนกัน มาที่นี่ผมเสีย ไม่มีได้ มีแต่เสีย แต่เสียเพื่ออะไร เสียเพื่อชาติบ้านเมือง อย่าว่าแต่เงินเลย ชีวิตผมก็ยอมได้ ขอให้ฉีกระบบทักษิณแม่งออกไปให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นชาติบ้านเมืองจะต่ำทรามลงทุกวัน ขอให้พวกเราผู้สื่อข่าวกระจายออกไป และให้สำนึกให้ดีว่าเรากำลังถูกความชั่วครองชาติบ้านเมืองอยู่ อันตรายตามคำพิพากษาของศาล ผมไม่ได้ไปใส่ร้าย คำพิพากษาของศาลเขาชัดเจน พฤติกรรมของเขาชัดเจน แล้วเรายังจะปล่อยอย่างนี้ต่อไปหรือ"
พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (อดีตนายทหารผู้ผ่านสมรภูมิการรบมากที่สุด) กล่าวในการแถลงท่าทีของพันธมิตรฯ เรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (18 เม.ย.2555)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น