++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความจริงแผ่นดิน เขาพระวิหาร แก้ไข

คำตอบมันมีอยู่แล้ว ที่ผมบอกว่าฝ่ายเขมรยิงไทย ท้าไทย ประกาศสงครามกับไทย แล้วเชิญยูเอ็นเข้ามาตัดสิน โดยใช้ข้อมูลที่เราสมยอม ถึงใช้คำว่ามันแปลกดีนะ เขาทำอย่างนี้ วันรุ่งขึ้นเราประกาศเปิดพรมแดน แล้วบอกควบคุมได้ เป็นการปะทะธรรมดา แล้วคนไทยก็อพยพหัวซุกหัวซุน ชาวบ้านเขมรอยู่สบาย รัฐบาลเขมรโวยลั่นถูกรุกราน
ฝ่ายพลเมืองเขมรก็ขอเข้าฝั่งเรา ฝั่งเราก็อยากทำไปค้าขายต่อ ที่สำคัญตามประวัติศาสตร์นั่นชัดอยู่แล้วว่าอาณาเขตหลังจากเราถูกเขียนแผนที่เป็นแผนที่ประเทศไทยที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ได้ถูกเขียนและปักปันเขตแดนเมื่อร้อยปีที่แล้ว รัชกาลที่ 5 ทรงพระอุตสาหะจนสามารถหยุดความสูญเสียแผ่นดินเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว สมดังคำร้องว่า บรรพบุรุษของไทย แต่โบราณ ปกบ้านป้องเมือง คุ้มเหย้า เสียชีพเสียเนื้อไม่เบา
แต่(หน้าที่เรารักษาสืบไป)? ถึง ปี 51 เราก็ยกให้เขมรไป มันแปลกไหมละ แล้วเราก็ถอนกำลัง(ในสมัยอภิสิทธิ์ ที่อ้างว่าเราปรับเปลี่ยนกำลัง) แล้วทหารเขมรก็ทำป้ายว่า ณที่่นี้ทหารไทยเข้ามารุกราน เราได้ขับไล่พ้นไปเมื่อ ปี 255.. นี้ แล้วมันก็ยึดถือจนใช้เป็นที่มั่นยิงหมู่บ้านคนไทย โรงเรียน เสียหายอย่างมาก แล้วเขมร(ไม่ใช่เรา)ก็ฟ้องชาวโลกว่า ไทยยิงเขาพระวิหาร ส่วนไทยก็บอกไม่มีอะไร คุยกันได้(ให้มันได้อย่างนั้นซิ) อย่างที่บอกมีคนเป็นง่อยเดินเข้ามาเข็กหัวคุณ แล้วด่า คุณ เพื่อนคุณก็มาห้ามทุกครั้งว่า อย่าไปทะเลาะกับเขาเลย เดี๋ยวมันก็หยุดเอง คุณไม่สงสัยหรือว่าทำไมถึงกล้าดีนัก ไอ้ง่อยมันคิดอย่างไรมาสู้กับเรา ( เรามี เอฟ 16 มีเรือบรรทุกเครื่องบินนี้ ไปปิด เขมร หรือโจมตี ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงรู้แพ้ชนะกัน ไอ้ง่อยบ้าหรือเพื่อนเราบ้ากันแน่) เหตุการณ์กระทบกระทั่ง คุณคงทราบว่าไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียวที่เป็นอย่างนี้ คุณยังเชื่อเพื่อนคุณคนนี้อยู่หรือ ว่า มันอยู่ฝ่ายไหนกัน การที่กรรมาธิการคุณนิพนธ์ เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ แม่ทัพภาค ขอขึ้นไปบนเนื้อที่ ที่เขาบอกว่าเป็นของไทย(ยึดเขตแผนที่เดิมยึดสันปันน้ำ ไม่ใช่ตามเอ็มโอยูที่นพดลยกให้) โดยต้องใช้รถทหารของเขมรและกองกำลังเขมรเข้าไป(ไทยถูกปลดอาวุธ และไม่มีทหารขึ้นไป แล้วไปรับการต้อนรับในวัดที่อภิสิทธิ์บอกว่าเป็น
ของไทยในสภาพแวดล้อมของทหารเขมร และคนเขมร และบริเวณนี้แหละที่ใช้เป็นฐานยิงถล่มชาวบ้านฝ่ายเราซะเละ ทั้ง ๆ ที่ตามภาพประวัติศาสตร์ หลังจากศาลโลกได้ตัดสินให้เขมรเป็นเจ้าของหรือมีอำนาจอธิปไตยเหนือตัวปราสาทเท่านั้น เป็นภาพ
สีหนุต้องขึ้นมาด้วยกระเช้าชักรอกขึ้นมาทำพิธีที่ตัวประสาท ไม่สามารถเดินทางผ่านเข้ามาทางขึ้นได้อย่างปัจจุบัน
ทุกอย่างข้างต้น คือเหตุผลและมีหลักฐานเป็นภาพที่เผยแพร่ไปทั่วโลก คุณสามารถเปิดดูข่าวและภาพย้อนหลังได้
เอาเรื่อง 7 คนไทยถูกจับก็แล้วกัน นายกส่งส.ส. หรือก็คือผู้แทนชาวไทยไป ในกลุ่ม 7 คนนี้ ในวันนั้น 30
ธ.ค. 2553 นายกบอกว่า ไม่ว่าถูกจับในไทยหรือไม่ ไม่มีใครมีอาวุธ ก็ไม่ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของเขมร
เราต้องเอากลับมาเร็วที่สุด แต่มาถึงวันนี้ แม้แต่คุณวีระป่วยหรือเปล่า จะไม่ขออภัย หรือเลิกอุทธรณ์ หรือไม่ รัฐบาล
ไทยยังไม่สามารถนำหลักฐานมาให้ดูเลยเถียงกับทนายของคุณวีระว่ากันไปคนละเรื่อง รู้แต่ครั้งสุดท้ายกษิตไปเยี่ยมวีระ ข่าวที่ว่าวีระถ่มน้ำลายหรือไม่ ไม่ทราบเพราะเป็นข่าวด้านเดียว รู้แแต่วีระยืนกรานไม่รับผิดเป็นที่รู้กันแค่นั้นจากข่าวรัฐบาล ที่จะเอาวีระออกมา รัฐบาลช่วยอะไรหรือ ไม่แปลกใจหรือ รัฐบาลไม่เชื่อส.ส.ที่ส่งไปว่าไม่ได้ข้ามแดนเขมร ผมไม่เคยเห็นความเห็นที่เป็นประโยชน์กับ 7 คนนี้เลย
คงจะต้องบอกคุณว่า ถ้าคุณรู้ว่า การพบทุจริต สนามบินสุวรรณภูมิอย่างมโหฬาร การใช้ที่ของคิงส์เพาเวอร์ เป็นอย่างไร
ป่านนี้มีการทำอะไร แก้ไขหรือไม่ นอกจากการสวมตอทำต่อไป ของใคร เพราะตอนนี้ได้มีการต่อสัญญาให้คิงพอเวอร์ ออกไปอีกโดยอ้างว่าเพื่อชดเชยการถูกปิดสนามบิน(น่าฟังนะครับ) แล้วทำไมไม่มีีการเปลี่ยนแปลง เรื่องดินแดนทั้งที่อภิสิทธิ์อภิปรายเรื่องนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนเป็นฝ่ายค้าน
ที่เป็นเรื่องสวมต่อหรือไม่ ถึงตอนนี้คุณคงเข้าใจ และอยากให้ทราบด้วยว่า

กว่าร้อยปีผ่านไป จากการเสียดินแดนครั้งสุดท้าย พวกเราก็คงไม่รู้เรื่องว่า เรากำลังเสียดินแดน
ในรัชสมัยรัชการที่ 9 ในขณะการเสียดินแดนและรักษาดินแดนของสมัยรัชกาลที่ 5 มีคนไทยที่รู้เรื่องมากกว่านี้มากทั้งที่มีการศึกษาน้อยกว่าสมัยนี้มาก เสียดายที่คนสมัยนี้ อ่านออกเขียนได้ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย เพราะไม่รู้แหล่งข้อมูล เพราะพื้นที่ข่าวถูกรัฐยึดเสียหมด
บางคนว่า ต้องล้างบางคนชั่ว แล้วแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ให้คนชั่วได้มีโอกาส
แต่พอ มีการแก้รัฐธรรมนูญ เมื่อเดือนที่แล้ว แก้โดยขัดรัฐธรรมนูญ คือแก้เพือส่วนได้เสียของส.ส. แต่ก็ผ่านสภา โดยไม่มีการผ่านประชามติ หรือกระทั่งประชาพิจารณ์ เมื่อแก้ได้ คุณจะทำอีกกี่รัฐธรรมนูญเขาก็แก้ใหม่อีกนั้นแหละ เพราะไม่มีใครขัดขวางการทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มีเพียงคนหยิบมือหนึ่งที่ขวางการแก้ การชุมนุมของ
พันธมิตรเมื่อประชาธิปไตย 193 วัน ไม่สามารถให้ความรู้แก่คนไทยได้บ้างเลย ว่านี่คือการฉีกรัฐธรรมนูญ นี่คือจุดบอดของคนไทย
เมื่อมีใครเข้ามาขวาง ก็ไม่สามารถเผยแพร่ความจริงให้ทราบแล้วไปเข้าใจคนขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ เสียอีก เพราะเขาก็ไม่มีพื้นที่ที่จะเสนอข่าวให้ทราบ เราก็คงไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่รู้แหล่งข่าว ทำให้เรามัวจะหาแต่หลักฐานอยู่นั่นเอง

เขียนมา ด้วยความขอบคุณ ที่ให้ความสนใจ

สมเดช

ไม่รู้ข้อมูลถูกต้องหรือไม่

ถ้าถูกทำไมพวกทหารทั้งหลายจึงอยู่เฉย

แล้วยังมีข่าวแม่ทัพภาคสองที่มีกลิ่นไม่ดี

แล้วทำไมผู้ที่มีอำนาจ ทั้ง
หลายจึงเงียบเฉย
แล้วฝ่ายเขมรก้บอกว่าไทยโจมตีก่อนตกลงใครโจมตีใคร หวังอะไร นี่แหละที่ข้อมูลเราไม่มี

เราจะไปทำอะไรได้

ขอบคุณคะ



2011/3/2 สมเดช มากมี

thanet.tha@hotmail.com
ผมไม่ได้มีความรู้มากในเรื่องนี้ แต่เมื่อคืนโชคดีเปิดดูเอเอสทีวีที่คุณประพันธ์เล่าประวัติศาสตร์ซึ่งเคยเรียนมานานแล้ว ว่า ในช่วงที่ไทยต้องเสียทีให้กับฝรั่งเศส จนต้องเสียลาว เขมร แก่เขาในด้านตะวันออก และเสียดินแดนอีกมากทางตะวันตก และใต้แก่อังกฤษ และระหว่างที่ฝรั่งเศสพยายามจะเขียนแผนที่ใหม่ โดยกำหนดแนวเขตแดนขึ้นมาใหม่ ซึ่งไทยยังไม่มีวิธีการในการเขียนแผนที่ ฝรั่งเศสพยายามเขียนแผนที่ เข้ายึดครอง จนถึงลุ่มเจ้าพระยา ด้วยแผนที่ 1ต่อ 200000 นี้ และรอการรับรองร่วมกัน
แต่ด้วยพระปรีชาและวิริยะของรัชกา ลที่ 5 จึงพร้อมด้วยพระราชวงศ์ และข้าราชการไทย เสด็จรอนแรมไปถึงรัสเซีย (ซึ่งลำบากมาก) เพื่อเจริญพระราชไมตรีกับเขา ครั้งนั้นได้รับการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ มีการถ่ายรูปร่วมพระราชวงศ์ทั้งสองชาติอยู่ในตำแหน่งเสมอกัน เป็นมหามิตร ภาพเหล่านั้นได้รับการตีพิมพ์ทั่วโลก จากนั้นก็เสด็จฝรั่งเศส ปรากฎได้รับการต้อนรับอย่างดีผิดความคาดหมาย ผลปรากฎต่อมาว่า ฝรั่งเศสกับไทยมิได้มีการกล่าวถึงแผนที่ฉบับดังกล่าวอีก
ซึ่งก็คือไม่มีการ ปักปันเขตแดนกันใหม่ คงยึดหลักสันปันน้ำที่ได้ทำไว้แล้ว นั่นก็คือแผนที่ที่เขมรนำมาแอบอ้างมิได้เป็นการยอมรับเป็นทางการระหว่างไทยกับฝรั่งเศส แต่แผนที่ก่อนหน้าซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงได้กำหนดเขตแดนไว้หมดแล้ว หลักเขตจะมีเฉพาะทางราบที่ไม่มีขอบแดนทางธรรมชาติชัดเจน ส่วนที่เป็นมีเขตแดนธรรมชาติ เช่นภูเขา ยึดหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ ทะเลก็ยึดเขตแดนของริมน้ำเป็นต้น ไม่มีหลักฐานใดเป็นการยอมรับต่อจาก
สัญญาปักปันเขตแดน ซึ่งเกิดขึ้นมาแล้ว ร้อยกว่าปี จึงเป็นสนธิสัญญาฉบับสุดท้าย ซึ่งเป็นพระมหากรุณาของพระองค์ท่านที่ ทำให้เราสามารถหยุดการเสียดินแดนดังแต่นั้นเป็นต้นมา
แต่มาในสมัยเสนีย์ ปราโมทย์ เราขาดความอ่อนด้อยด้านหลักฐาน การฑูตที่พลาดไป ทำให้เราต้องเสียดินแดน เฉพาะตัวปราสาท ศาลโลกก็ยังไม่อาจตัดสินเรื่องดินแดนตามแผนที่ แต่คล้อยตามฝรั่งที่มีอิทธิพลขณะนั้น และไทยสงวนสิทธิในการคัดค้านโดยถนัด คอร์มัน ในทันที ซึ่งปัจจุบันเราก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า การตัดสินไม่ถูกต้อง
ไทยมิการล้อมรั้ว ซึ่งเขมรก็ไม่เคยท้วง แม้แต่สีหนุจะขึ้นไปยังต้องขึ้นทางเขาชัน ไม่สามารถขึ้นทางฝั่งไทยได้
แต่อยู่ดีๆ เราก็ไปเซ็นสัญญาให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยลำพัง มันทำได้ไง

แต่นั่นไม่สำคัญเท่า ปัจจุบันเราปล่อยให้เขมรเข้าครอบครอง เดี๋ยวนี้ เขมรตัดถนนในสมัยอภิสิทธิ์ เป็นนายกนี่แหละ ข้างตัวปราสาท ตามแผนที่ที่ฝรั่งเศสเขียนไว้ แล้วปล่อยให้พื้นที่ทั้งหมดเป็นที่ตั้งของ กองกำลังเขมร ยิงเข้ามา และท้าท้าย

เราฟังแต่โฆษณา เพลงชาติ ท่อนว่า ด้วยไทยล้วนหมาย รักสามัคคี
แต่ทุกวันนี้ เราลืมท่อน ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด "เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่"

มันแปลกดีนะ เขมรเหมือนคนขาเป๋ ท้าคนมือเท้าดี ดีหัว ด่าแม่ เราก็รักสงบ พอทหารเขมรยิงเข้ามา เราก็อพยพกัน หนีตายชาวบ้านต้องขุดหลุมหลบภัย แต่เขมรก็ท้าตีว่าไทยไม่มีทางสู้เขาได้ ขณะที่ฮุนเซนประกาศว่านี่คือส่งคราม ทางฝั่งเขมรกลับไม่มีผู้อพยพเหมาะไทยไม่เคยยิงเข้าฝั่งเขมร เพราะยิงเฉพาะฐานะที่ตั้งทหาร แล้วแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ ประกาศให้เปิดชายแดนทั่งหมดในวันรุ่งขึ้น เพื่อไม่ให้การค้าชายแดนเดือดร้อน ยุทธอุปกรณ์(เช่นน้ำมัน) ชายแดนก็ยังส่งเข้าส่งออกเป็นปกติ ไทยเราบอกไม่มีอะไร แล้วให้เขมรยึดที่ของไทย ที่อภิสิทธิ์บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเป็นของ
ไทย คอยจังหวะที่จะถล่มไทยอีกครั้งหนึ่ง ดินแดนที่เขมรปักป้ายว่า "นี่คือบริเวณที่ทหารไทยเคยเข้ามารุกรานเมื่อ ... และถูกเราขับไล่ไป แล้ว" ที่ไทยเคยไปให้เขาทุบทิ้ง แล้วที่ตรงนั้นก็คือที่เขายึดครอง แปลกดีนะ
ยิ่งไปกว่า นิพนธ์ พร้อมพันธู์ พร้อม แม่ทัพภาคที่สอง เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ และผู้ว่าชายแดน ก็นั่งรถเขมรขึ้นไป ไหว้พระ ทำบุญให้กับเจ้าที่พม่า โดยใช้ซองตราครุฑบรรจุเงินถวายวัด ท่ามกลางทหารเขมรในดินแดนไทย
เขมรถ่ายรูปเป็นหลักฐานโชว์ทั่วโลก ถึงการยอมรับอำนาจอธิปไตยของเขาแล้ว ถ้า เรายังไม่เชื่อว่าเสียดินแดน ไว้คอยดูการประชุมตัดสินของยูเนสโกก็แล้วกัน
ว่าเราเสียดินแดนครั้งใหญ่ ในรัชกาลที่ ๙ และสมัยที่เรานั่งดูายไม่รู้เรื่องอยู่นี้
เพราะผลของการรับรองแผนที่ 1ต่อ200000 จะนำไปสู่การเสียดินแดนเพิ่ม
ทั้งทางบก และน่านน้ำไทย
ผมอยากแนะนำให้เข้าไปดูคลิปของคนประพันธ์ ในเวปของผู้จัดการออนไลน์ เมื่อวาน ได้ความรู้มาก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ของรัชกาลที่ 5 มากขึ้นอีกครับ

คุณช่วย fw แนะนำคลิปที่ว่าด้วยครับ คนจำนวนมากพลาดไป เพราะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บอกว่า การปักปันเขตแดนได้ทำไว้แล้ว
เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เราถูกบังคับโดยมหาอำนาจ แต่คราวนี้ คนง่อยเปลี้ยเสียขาทำกับเราได้ และดูท่าจะสำเร็จด้วย

ขอบคุณ

สมเดช
From: thanet.tha@hotmail.com
Subject: FW: ความจริงแผ่นดิน เขาพระวิหาร
Date: Wed, 2 Mar 2011 16:03:24 +0700

http://static.ak.fbcdn.net/rsrc.php/v1/yy/r/9ExricLqH1v.swf?v=170212096353631&ev=0


Date: Tue, 1 Mar 2011 07:11:34 -0800
From: chalermchai01@yahoo.com
Subject: Fw: ความจริงแผ่นดิน เขาพระวิหาร
To:

เพื่อนส่งข้อมูลนี้มาให้ ใครมีความรู้ช่วยไขความจริงด้วย



:


เปิดฟังเสียงด้วย



เป็นคนไทยต้องดูและทำความเข้าใจให้ดี
จะได้ไม่ต้องตั้งคำถามกันอีกว่าเป็นพื้นที่ของใคร
นอกจากจะมีใจอุบาทว์สุดๆ ก็ไม่ต้องเป็นคนไทยแล้ว
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ช่วยกรุณาย้ายตัวเองไปอยู่กัมพูชากับคุณพ่อฮุนเซนซะ
นะจ๊ะ นะจ๊ะ แล้วอย่าลืมแจ้งที่อยู่ไว้ด้วย จะได้สงเคราะห์ส่งข้าว
ปลาอาหารที่ดีๆไปให้บ้าง

________________________________







ความจริงแผ่นดินฯ

http://static.ak.fbcdn.net/rsrc.php/v1/yy/r/9ExricLqH1v.swf?v=170212096353631&ev=0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น