จากอดีตถึงปัจจุบัน นโยบายส่งเสริมการลงทุนมีการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการดำเนินธุรกิจ และสภาพแวดล้อมทางสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนที่สร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อประเทศไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษาสิ่งแวดล้อมหลายมาตรการ ได้แก่ การส่งเสริมกิจการนำวัสดุที่ไม่ต้องการใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ โดยจะต้องมีกระบวนการผลิตโดยนำวัสดุกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) การแปรรูปวัสดุเพื่อใช้ใหม่ (Recycling) และการสกัดวัสดุเพื่อนำมาใช้ใหม่ (Recovery) โดยมีกิจการที่ขอรับการส่งเสริมในกลุ่มดังกล่าว รวมประมาณ 40 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 4,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ บีโอไอยังมีมาตรการส่งเสริมกิจการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Eco - Friendly Products เช่น การผลิตเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีกิจการที่ขอรับการส่งเสริมในกลุ่มดังกล่าว รวมประมาณ 6 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 4,750 ล้านบาท
สำหรับทิศทางส่งเสริมการลงทุน ซึ่งบีโอไอได้กำหนดนโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเริ่มในปีที่ผ่านมา 2553-2555 ก็มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมโดยตรงด้วย ได้แก่ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อจูงใจให้โครงการต่างๆ ลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อให้สามารถประหยัดพลังงาน เปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทน และลดปริมาณของเสียทางอากาศและน้ำด้วย
และในช่วงปลายปีนี้ จะเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของไทย จะได้จัดแสดงศักยภาพทั้งด้านเทคโนโลยี และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ประชาชนคนไทยได้สัมผัสและเชื่อมั่นในศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย ในงาน บีโอไอแฟร์ 2011 “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 25 พฤศจิกายน 2554 ที่อิมแพค เมืองทองธานี
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การจัดแสดงศาลานิทรรศการของเจ้าภาพ คือ บีโอไอ สอดคล้องกับชื่องาน ดังนั้น ไทยแลนด์ พาวิลเลียน และ บีโอไอ พาวิลเลียน จึงได้รับการออกแบบและเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากร และนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งจะช่วยประหยัดพลังงานที่ใช้ตลอด 16 วันของการจัดแสดง
วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำมาใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งไทยแลนด์ พาวิลเลียน ได้แก่ กระจกเขียวตัดแสง มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสี UV และดูดกลืนพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ส่องมากระทบผิวกระจกได้ถึงร้อยละ 35-50 จึงช่วยประหยัดค่าไฟในส่วนของเครื่องปรับอากาศ
ภาพพิมพ์ที่ใช้ตกแต่ง จะใช้หมึกพิมพ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นน้ำหมึกชนิดอาบรังสีอัลตราไวโอเลต ไม่มีส่วนผสมสารละลายทางเคมี (Solvent) ที่เป็นตัวทำลายสภาวะสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
“บีโอไอ พาวิลเลียน ถูกก่อสร้างด้วยโครงสร้างอาคารที่ไม่ใช่คอนกรีตเสริมแรงที่หลังเสร็จงานต้องทุบทำลาย ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรส่วนโครงอาคารหลักเป็น Rooftop base ที่ไม่ต้องขึ้นโครงสร้างใหม่ รวมทั้งจะนำผนังมีชีวิต Vertical garden มาใช้เพื่อช่วยลดความร้อนจากภายนอก และลดโหลดการใช้งานเครื่องปรับอากาศ และใช้ผ้าใบทนไฟ สะท้อนแสงอาทิตย์และความร้อนได้มากกว่าร้อยละ 90”
แผ่นกรีนบอร์ด เป็นวัสดุทดแทนไม้ ที่มีคุณสมบัติคล้ายไม้เนื้อแข็ง ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงได้ดี สามารถรับน้ำหนักและกันน้ำได้ดี นอกจากนี้ยังจะใช้ไม้อัดจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น เปลือกข้าว แกลบ เปลือกผลไม้ต่างๆ สำหรับการตกแต่งภายในอาคาร ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานสามารถกันน้ำได้
ในขณะที่ บีโอไอ พาวิลเลียน จะถูกก่อสร้างด้วยโครงสร้างอาคารที่ไม่ใช่คอนกรีตเสริมแรง ที่หลังเสร็จงานต้องทุบทำลาย ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากร ส่วนโครงอาคารหลักก็เป็น Rooftop base ที่ไม่ต้องขึ้นโครงสร้างใหม่ ลดการใช้ทรัพยากร รวมทั้งจะนำผนังมีชีวิต Vertical garden มาใช้ เพื่อช่วยลดความร้อนจากภายนอก และลดโหลดการใช้งานเครื่องปรับอากาศ และใช้ผ้าใบทนไฟ สะท้อนแสงอาทิตย์และความร้อนได้มากกว่าร้อยละ 90
นอกจากนี้ อาคารศูนย์ประสานงานบีโอไอแฟร์ 2011 หรือออร์กาไนเซอร์ ออฟฟิศ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าการจัดแสดงศาลากลางแจ้ง ริมทะเลสาบ ก็จะก่อสร้างด้วยไม้ไผ่ล้อมรอบห้องที่ทำการด้วย เพื่อลดการใช้ทรัพยากรในการก่อสร้างอาคาร
ด้านภาคเอกชนชั้นนำที่จะร่วมแสดงในงานบีโอไอแฟร์ 2011 ปลายปีนี้ ต่างก็เริ่มประกาศแนวคิดในการสร้างพาวิลเลียนกันบ้างแล้ว โดยนอกจากจะจัดแสดงเทคโนโลยี และนวัตกรรมแล้ว ยังจะจัดแสดงภายใต้แนวคิด เทคโนโลยีสีเขียว ดังนั้น ประชาชนคนไทยไม่เพียงจะได้ชมเทคโนโลยีใหม่ๆ เท่านั้น แต่จะได้เห็นถึงนวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ติดต่อขอข้อมูล ติชม และเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่ศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 0-2553-8111 หรือที่ head@boi.go.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น