วันที่ 4 มี.ค. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า บ้านเมืองเราวิกฤติสุดๆ มีปัญหาทุกด้าน เพราะมีนักเลือกตั้งที่ขาดความรับผิดชอบ หากจะหวังพึ่งรัฐสภาแก้ไขปัญหาก็ยากเต็มที วันนี้สื่อตีข่าวจะยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ด้วยมุกเดิม "คืนอำนาจให้ประชาชน" วาทกรรมแบบนี้สะท้อนถึงจิตสำนึกแบบแผด็จการ เหมือนกับให้ประชาชนหลับหูหลับตาเลือกตั้งเพื่อให้จบหน้าที่ เลือกตั้งแล้ว ส.ส.จะเข้าไปปู้ยี้ปู้ยำอย่างไรประชาชนไม่มีอำนาจอะไรทั้งสิ้น ซึ่งที่จริงตามรัฐธรรมนูญประชาชนมีอำนาจ มีสิทธิตรวจสอบนักการเมือง อยู่ตลอดเวลา
“สื่อมวลชนที่เป็นสื่อจริงๆ จะทำให้บ้านเมืองพัฒนาขึ้น สื่อต้องตรวจสอบไม่ใช่เขียนไปเรื่อย ใครให้เงินก็เชียร์ อย่านี้ไม่ได้เรียกว่าสื่อมวลชน เขาเรียกว่าสื่อหากิน”
ทั้งนี้ปัญหาของบ้านเมืองที่ร้ายแรงที่สุด คือนักเลือกตั้ง รากฐานของคำว่านักการเมืองคือนักปฏิบัติธรรม ทำตามที่พูด หากพูดอย่างทำอย่างเขาเรียกว่านักหลอกลวงทางการเมือง พี่น้องต้องตรวจสอบ อย่าไปยึดติดกับพรรค หน้าตาหรือนามสกุล เมื่อนักกรรเมืองโกง พี่น้องทุกคนก็ถูกโกงโดยเสมอหน้ากัน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่านายอภิสิทธิ์ ช่วงเข้ามาเป็นนายกใหม่ๆ แถลงนโยบาย "จะเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศ ความพร้อมในการรักษาเอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้งการคุ้มครองผลประโยชน์แห่งประเทศชาติ" ด้วยพฤติรรมยกอำนาจอธิปไตย เขตแดนชายแดนให้กัมพูชา เราเรียกร้องทางแก้ไข 3 แนวทางไปแล้ว เมื่อเขาลอยหน้าลอยตาไม่ทำหน้าที่ เราจึงต้องมาทำหน้าที่พลเมืองดีของประเทศตามรัฐธรรมนูญ
และที่พูด "จะน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปฎิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด" รัฐธรรมนูญมาตรา77 ระบุไว้ชัด รัฐต้องปกป้องสถาบัน รักษาเอกราช อำนาจอธิปไตย และโครงการเมกะโปรเจกต์ เช่น ถนนปลอดฝุ่น รถเมล์เอ็นจีวี ซุปเปอร์สกายวอร์ค ของพวกนี้เกินความจำเป็นแล้วจะบอกเป็นเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างไร
ส่วนที่บอกว่า "สร้างความเชื่อมันการท่องเที่ยวให้ต่างชาติ" ภาพที่ปรากฏการประชุมที่พัทยา ปล่อยให้เสื้อแดงเข้าไปทำลายการประชุมระดับผู้นำประเทศ และที่บอกว่า "รัฐจะกำกับดูแลราคาสินค้า ค่าครองชีพให้กับประชาชน " ทุกวันนี้มองไปทางไหนข้าวของแพงหมด ที่ไม่ควรแพงก็แพง
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงฝ่ายค้าน ว่า ยื่นอภิปรายด้วยความแค้น ยกประเด็นละเมิดสิทธิ ที่สี่แยกคอกวัว เสียชีวิต 91 ศพ แต่ไม่ได้พูดถึงทหารเสียชีวิต ไม่ได้พูดถึงผลประโยชน์ประชาชน พูดเพราะแค้น ดังนั้นจึงไม่ใช่พรรคฝ่ายค้านกลายเป็นพรรคฝ่ายแค้น ประเด็นที่สมควรพูดอย่าง ไม่รักษาอำนาจอธิปไตย ทำให้เสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร การทุจริตคอร์รัปชั่น ก็ไม่มีใครพูดถึง
ส่วนที่นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง พูด "เดี๋ยวจะโกงกันมากมาย ใครจะโกงก็โกง ใครจะยึดอำนาจก็ยึด" หากรู้ว่ามีการโกงเลือกตั้งก็ต้องให้ใบแดงกำจัดให้สูญพันธ์ ไม่ใช่ให้ใบเหลืองเพื่อรอเวลากลับมาอีก ทำให้เปลืองภาษีประชาชนเลือกแล้วเลือกอีก ทางออกต้องแก้กฎหมายเลือกตั้งหากโกงต้องเว้นวรรคตลอดชีวิต ไม่ใช่ 5 ปี เมื่อทุจริตต้องให้ประชาชนฟ้องดำเนินคดีได้ ศาลตัดสินคดีทุจริตแล้วควรนำเงิน 20-30 เปอร์เซนต์ ที่ยึดให้ประชาชนที่ยื่นฟ้อง ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือจะได้กวาดพวกนี้ให้หมดไปจาก แผ่นดิน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องควบคุมกำกับให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ดังนั้นมาตรการให้การเลือกตั้ง ต้องคลุมการใช้เงินหาเสียงแต่ละคนไม่เกิน 2-3 แสนบาท เพื่อเปิดโอกาสให้คนดีๆ ได้มีโอกาสบ้าง คนไม่มีเงินส่วนมากไม่โกงไม่กิน
“พี่น้องข้าราชการทหาร นับตั้งแต่ออกจากโรงเรียนนายร้อยจนกระทั่งเป็นพลเอก ได้รับเงินเดือนปุ๊บเก็บใส่กระปุกไม่ต้องกินต้องใช้ ตนคำนาณแล้วมีเงินไม่เกิน 10 ล้าน ขณะที่พลเอก ปัจจุบันบางคนมีเงินเป็นร้อยเป็นพันล้าน อธิบายได้หรือไม่ว่าเอามาจากไหน เงินส่วนเกินนี้ควรยึดเข้าแผ่นดินให้หมด”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าการต่อสู้ถึงแม้มันจะเหน็ดเหนือยยาวนาน แต่เราดินทางมาถูกแล้ว สุดท้ายนักการเมืองเลวจะอยู่ไม่ได้ เราชุมนุมอย่างน้อยผู้คนก็รู้ความจริงมากขึ้น ทำให้นักการเมืองกลัวติดคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต เขาก็เลยหาทางยื้ออำนาจหาทาง นิรโทษกรรมตัวเอง ขอให้พี่น้องช่วยกันพาบ้านเมืองไปสู้ประชาธิปไตยที่แท้จริง รักษาสุขภาพ มีสติ อย่าเครียดอย่าสับสน ทำจิตให้สบายต่อสู้ไปเรื่อยๆ คนรวยก็ตายจนก็ตายไม่มีรอดสักคน คุณค่าของชีวิตอยู่ที่ ก่อนตายทำอะไรไว้บ้าง เมื่อเราทำหน้าที่ถูกต้องเดินตามรอยบรรพชนที่สร้างชาติไว้ ถ้าเป็นลูกก็เป็นบุตรที่ดีต่อแผ่นดิน เราควรภูมิใจ ขอให้มีกำลังใจ ยืนหยัดแน่วแน่ สู้อย่างสงบ สันติ ต่อไป แล้วประเทศไทยจะก้าวไปสู่สิ่งที่ดีงามอย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น