วันที่ 4 มี.ค.2554 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษพันธมิตรฯ และนายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตร ร่วมแถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังศาลแพ่งมีคำสั่งยกคำร้องกรณีที่พันธมิตรฯยื่นคำ ร้องขอให้ศาลคุ้มครองการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงชั่วคราว โดย พล.ต.จำลอง เปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการปกป้องราชอาณาจักรไทย ได้มีการทบทวนเป้าหมายของการชุมนุมนอกจากการกดดันให้รัฐบาลออกมาทำหน้าที่ปก ป้องแผ่นดิน โดยทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของพันธมิตรฯแล้วนั้น ยังเพิ่มเติมเรื่องความทุกข์ร้อนของประชาชน และระบบการเมืองที่มีการซื้อเสียงเพื่อเข้าไปถอนทุนโดยใช้อำนาจรัฐหา ประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ใช้การชุมนุมนี้เพื่อถ่ายทอดข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้ รู้บนเวทีปราศรัย เพิ่มเปลี่ยนแปลงการการเมืองไม่ให้เป็นอย่างในปัจจุบัน
“บ้านเมืองเราขณะนี้ เหมือนคนเป็นโรคร้ายแรง เราคงไม่เกี่ยงคนที่มาเป็นหมอว่าเป็นแผนปัจจุบัน หรือแผนโบราณ ขอให้มารักษาโรคให้หายเท่านั้นเป็นใช้ได้ และเราจะเริ่มเอาวิธีการรักษามาเสนอแนะต่อผู้ฟังในที่ชุมนุม ซึ่งเราจะเริ่มพูดไปเรื่อยๆ เหมือนที่พูดเรื่องการโกงกินของรัฐบาลมาเปิดโปง” พล.ต.จำลองก ล่าว
ด้าน นายสุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีศาลแพ่งมีคำสั่งยกคำร้องคดีที่พันธมิตรฯเป็นโจทก์ยื่น ฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิดจากการออกประกาศและข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศและข้อกำหนดทุกฉบับ และขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อระงับการดำเนินการใดๆตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า ศาลแพ่งมิได้ยกคำร้องในประเด็นที่พันธมิตรฯ ฟ้องรัฐบาลตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยเป็นเพียงยกคำร้องในส่วนการขอให้มีการไต่สวนเท่านั้น เนื่องจากศาลมองว่ากรณีดังกล่าวพยานหลักฐานยังไม่ปรากฎถึงพฤติกรรมอันเป็น เหตุฉุกเฉิน และจำเป็นต้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
นายสุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในประเด็นที่พันธมิตรฯฟ้องรัฐบาล ฐานประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น พันธมิตรฯได้ร้องให้ศาลแพ่ง ส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความ ทั้งนี้เมื่อศาลยังไม่ได้วินิจฉัยว่า การออกประกาศไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ดังนั้นโจทก์ก็ยังต้องปฏิบัติตามประกาศของจำเลยต่อไป ทั้งนี้ศาลมีคำสั่งยกคำร้อง และเลื่อนการนัดชี้ขาด ออกไปเป็นวันที่ 9 พ.ค.
ขณะที่ นายปานเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศาลแพ่งยังเห็นว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ฉุกเฉิน ในเรื่องของข้อกฎหมายว่ารัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงถูกหรือผิดนั้น ยังไม่ถึงที่สุดในชั้นนี้ แต่ต้องพิจารณาคดีต่อไป และจะต้องนัดสืบพยานครั้งแรกวันที่ 9 พ.ค.นี้ และตนได้ยืนคำร้องเพิ่มเติมต่อศาลแพ่ง เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯนั้นขัดต่อบทบัญญัติต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงกรณีการมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ชุมนุมที่ร่วมทำหน้าที่ปกป้อง แผ่นดิน ว่า จะมีการมอบประกาศนียบัตรการป้องกันราชอาณาจักรไทย ให้กับผู้ชุมนุมทุกคนที่มาเข้าร่วมชุมนุม โดยขณะนี้ได้มอบไปแล้วกว่า 3,000 ใบ และจะมีเข้ามาเพิ่มเติมอีก 5,000 ใบ ในวัน 7 มี.ค.นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น