++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

มาแกว่งแขนรักษาโรคกันเถอะ

ประสบการณ์เรื่องการแกว่งแขน

ผมเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับ และความดันโลหิตสูง ผมเกือบตายเพราะเชื่อหมอสมัยใหม่ จนต้องเข้าห้องไอซียูเป็นเวลา 7 วัน หลังจากนั้นผมเสื่อมศรัทธาหมอสมัยใหม่ ผมจำเป็นต้องมีทางออก
มิ.ย. 2547 ภรรยาผมที่เป็นทัตแพทย์มาบอกผมว่ามีคนไข้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและครอเรสตรอรอลสูง ได้หายจากโรคดังกล่าวภายใน 3 เดือน โดยการแกว่งแขน 2,000 ครั้งต่อวัน ทุกวัน ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะไม่รู้ว่าแกว่งแขนอย่างไร
ก.ค. 2547 ผมได้ไปงานวันเกิดของลุงของภรรยา ลุงอายุ 83 ปี แต่สุขภาพและท่าทาง ไม่ต่างจากคนอายุ 40 ปี เคลื่อนไหวว่องไว พูดจาเสียงดังฟังชัด มิหน่ำซ้ำยังขับรถไปไหนมาไหนเอง ผมก็เลยถามลุงว่า ลุงมีเคล็ดลับในการบำรุงสุขภาพอย่างไร ? ลุงบอกว่า ลุงแกว่งแขนวันละ 1,000 ครั้ง ทุกวัน
ผมก็เริ่มสนใจว่าการแกว่งแขนเป็นอย่างไร ก็เลยเดินหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ บังเอิญโชคดี ไปเจอในร้านหนังสือเล็ก ราคา 20 บาท แล้วผมก็ฝึกการแกว่งแขนตามหนังสือช่วง 15 นาทีก่อนนอน จำนวน 1,000 ครั้ง ทุกวัน ผมนอนหลับได้สนิททุกคืน มิหน่ำซ้ำยังต้องนอนกลางวันหลังอาหารเที่ยงอีก
19 ส.ค. 2547 ผมกินอาหารกลางวัน ปรากฏว่าผมเจ็บขากรรไกรด้านขวาขณะเคี้ยวอาหาร คล้ายๆกระดูกบนล่างหลุดออกจากกันและกัน ทำให้เวลาเคี้ยวจึงเจ็บปวดมาก ผมรีบไปโรงพยาบาลศรีนครินทร์ใกล้บ้าน หมอผู้เชี่ยวชาญติดประชุม ผมต้องรอครึ่งชั่วโมง ขณะที่รอนั้น ผมโทรบอกภรรยาเกี่ยวกับอาการดังกล่าว ภรรยาผมบอกให้กลับบ้านเถอะ เพราะประเทศไทยยังไม่มีหมอผู้เชี่ยวชาญบริเวณขากรรไกร อย่างมาก หมอก็ให้ยาคลายกล้ามเนื้อและยาแก้ปวด ผมก็ไม่เชื่อ จนผมได้พบหมอ ก็เป็นจริงอย่างที่ภรรยาผมพูด หมอให้ยาคลายกล้ามเนื้อและยาแก้ปวด ตอนเย็นผมทรมานมากในการกินอาหาร แล้วก่อนนอนผมก็แกว่งแขนตามปกติ ขณะที่แกว่ง ก็เกิดความคิดว่าน่าจะเอากล้ามเนื้อไหล่ชนบริเวณหลังหู ได้ผลครับ ภายใน 3 วัน อาการเจ็บขากกรไกรหาย โดยไม่ได้กินยาสักเม็ด
6 ธ.ค. 2547 ตื่นมาตอนเช้า เป็นหวัดน้ำมูกไหลพร้อมจาม ในวันนั้นไปเล่นกอลฟ์กับลูกค้า ผมจามจนหมดแรง ขณะเล่นกอลฟ์ จนเล่นไม่ไหวจึงขอ กลับก่อนในสภาพที่แย่มาก คืนนั้นผมก็แกว่งแขนตามปกติ และก็เกิดความคิดอีกว่าการแกว่งแขนก็เหมือนทำชี่กงคือพลังงานอยู่ที่มือหลังการทำชี่กง แกว่งแขนก็น่าจะเป็นเหมือนกัน ดังนั้นพอแกว่งแขนเสร็จ ผมก็ใช้มือทั้งสองถูกันจนเกิดความร้อน แล้วเอามือทั้งสองโป๊ะที่จมูก เพื่อรักษาอาการหวัด แล้วถูใหม่ แล้วโป๊ะอีก อย่างนั้นอยู่ 5 ครั้ง
7 ธค.2547 ตื่นเช้าขึ้นมา ไม่ปรากฏอาการหวัดเหลืออยู่เลย และลูกค้าที่ผมเล่นกอล์ฟด้วยเมื่อวานมาเจอผม เขางงมากที่ผมหายภายในข้ามคืน
14 ธค 2547 ตอนบ่าย รู้สึกเจ็บคอด้านซ้ายคล้ายอาการหวัด อีกครั้ง ผมก็ทำอีกครั้ง แต่เอามือทั้งสองลูบบริเวณคอด้านซ้าย ทำอยู่ 5 ครั้ง< ในช่วง ธค 2547 ถึง มค 2548 ผมผ่านการเป็นหวัด 4 ครั้ง แล้วก็หายภายในข้ามคืนทั้งสี่ครั้ง ซึ่งโดยปกติ การเป็นหวัดครั้งหนึ่งจะใช้เวลาประมาณ 7 ถึง 10 วัน ถึงจะหาย
มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผมมีอาการเสียวฟันกรามล่างซ้าย ภรรยาผมก็ตรวจดูว่ามีฟันผุหรือหินปูนเกาะหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่ก็ยังเสียวฟันซี่นี้อยู่ ตอนช่วงแกว่งแขน ผมก็ใช้วิธีเดิมคือการให้กล้ามเนื้อไหล่กระแทกต้นคอด้านซ้าย อาการเสียวฟันดังกล่าวก็หายไป
อาการอีกอย่างคือเหนื่อยง่าย ซึ่งผมได้กลั้นหายใจในขณะแกว่งแขน ประมาณ 30 รอบของการแกว่งแขน ทุกๆการแกว่งแขน 100 ครั้ง จากนั้นก็ปล่อยลมหายใจออกมา ผมรู้สึกความร้อนวิ่งจากต้นคอขึ้นไปทั่วสมอง นี่หรือเปล่าที่ทำให้เส้นเลือดในสมองได้มีโอกาสออกกำลังกายคือให้มีการยืดหยุ่น ทำให้รักษาความดันโลหิตสูง ขณะเดียวกัน อาการเหนื่อยง่ายของผมก็หายไป
ผมได้แชร์ประสบการณ์นี้ให้คุณพิชัย ซึ่งเขาเป็นโรคปัสสวะไม่สุด และภรรยาเขาเป็นโรคนอนไม่หลับสนิทคือนอนได้ 2-3 ชั่วโมงแล้วก็ตื่น พอเขาไปแกว่งแขน 1,000 ครั้งต่อวัน อย่างสม่ำเสมอ หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ผมก็เจอคุณพิชัยอีก ผมก็ถามอาการปัสสวะไม่สุดของเขาอีก ปรากฏว่าเขาลืมปัญหานี้ไปแล้ว เพราะมันหายไปตั้งแต่สองวันแรกที่เขา
แกว่งแขน ขณะเดียวกัน ภรรยาเขาก็นอนหลับได้สนิททุกคืน ปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังคงแกว่งแขนวันละ 1,000 ครั้ง และคุณพิชัยได้ไปเหมาหนังสือนี้ทั้งหมดที่สำนักพิมพ์มีอยู่ เพื่อนำไปแจกเพื่อนๆ
อีกคนหนึ่งคือคุณธานี ซึ่งผมได้บอกเรื่องการแกว่งแขนให้เขาฟัง แล้วเขาก็เอาไปบอกให้พ่อเขาซึ่งมีอาการปวดเข่า หลังจากนั้นประมาณ 3 วัน พ่อเขาก็หายจากอาการดังกล่าว เพราะการแกว่งแขน ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ บางครั้งคนเราอาจจะอุปโลกขึ้นมาเพื่อหลอกตัวเองก็ได้
วิธีการแกว่งแขน
ยืนแยกเท้าเท่าความกว้างของไหล่ ย่อเข่าเล็กน้อย แขนทั้งสองแนบลำตัว ปลายลิ้นแตะเพดานบน จากนั้นยกแขนทั้งสองไปข้างหน้า แล้วผลักแขนทั้งสองไปข้างหลัง แล้วให้แขนกลับมาเองโดยธรรมชาติ เหมือนกับลูกตุ้มนาฬิกา ไม่ช้า ไม่เร็วเกินไป บริเวณลำคอและไหล่ควรจะผ่อนคลาย หลับตาเพ่งสมาธิไปกับการนับจำนวนครั้งในการแกว่งแขน ทุกๆ 100 ครั้งของการแกว่ง ควรจะมีการกลั้นลมหายใจ จำนวน 30 ครั้งของการแกว่ง ควรจะแกว่งแขนต่อเนื่องกันวันละ 500 ครั้งสำหรับผู้ที่ต้องการให้ร่างกายแข็งแรง และ 1,000 ครั้ง ต่อวัน สำหรับผู้มีโรคประจำตัว เวลาในการแกว่งที่ดีที่สุดคือก่อนอาบน้ำตอนเย็น หลังการแก่วงทุกครั้ง ฝ่ามือทั้งสองจะมีพลังงานสะสมอยู่ ให้เอาฝ่ามือทั้งสองถูกันให้เกิดความร้อนแล้วไปลูบบริเวณที่เราต้องการรักษา เช่น หัวใจ ท้อง หรือจมูกคอเมื่อเป็นหวัด

ที่มา : นายสามารถ ล.สกุล โทร.02-987-5843 (บ้าน) 081-173-0886 มือถือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น