โดย ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย 17 สิงหาคม 2553 17:18 น.
ในทางธรรม-สอนมนุษย์ให้เชื่อว่า..มี “นรก” ที่แสนทุกข์เข็ญ-น่ากลัว ไว้สำหรับลงทัณฑ์คนทำชั่ว และมี “สวรรค์” อันสุขสำราญสำหรับคนทำดี!
นั่นคือ ธรรม..ที่ทำให้พระสงฆ์องคเจ้า พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย..รวมทั้งบรรพบุรุษไทย สั่งสอนไว้ทุกหนแห่งเสมอมาว่า
จงทำดี..อย่าทำชั่ว กระทั่งเกิดถ้อยคำที่จำจนขึ้นใจว่า..ทำดีได้ดี..ทำชั่วได้ชั่ว!
ในทางโลก-ทุก สังคมจึงต้องมีกฎหมายหรือกติกาที่ดี เป็นมาตรฐานสาธารณะสำหรับสังคมมนุษย์โดยรวม โดยบังคับใช้ผ่านตัวบทกฎหมาย-องค์กรตำรวจ-อัยการ-ศาล-เรือนจำ เรียกกันว่า..กระบวนการยุติธรรม ไว้สำหรับปกป้องคนทำดี-ลงโทษคนทำชั่ว หรือคนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง เพื่อทำให้ผู้คนในสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างมีระบบ-ระเบียบ-กฎ- กติกา-สงบ-สันติ ฯลฯ
ดังนั้น..จึงไม่ผิดหรอกที่ ทักษิณ ชินวัตร และพวก “ผี-โม่แป้ง” ในระบบชั่วๆ ของเขา จะตะโกนโกหกปาวๆ กรอกหูผู้คนว่า สังคมไทยมีการปฏิบัติกันแบบ 2 มาตรฐาน เพราะนั่นเป็นเรื่องจริงทั้งในประเทศไทยและทุกหนแห่งในโลกนี้ ที่มีการปฏิบัติต่อมนุษย์แบบ 2 มาตรฐานเสมอมา
ทักษิณและพวกพ้องนั้น..ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาเป็นคนชั่วช้าได้มาตรฐานชนิดที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้แบบสุดๆ ที่สำคัญ (จงใจ-ตั้งใจ) เห็นผิด-เป็นชอบครับ
ลองทบทวนพฤติกรรมคนอย่างทักษิณดูสิ แต่ก่อนทักษิณฐานะไม่ดี..มีหนี้สินมากมาย แต่ด้วยทักษิณมีพ่อและญาติเป็น ส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ จึงทำให้มีพรรคพวกนักการเมืองคอยเกื้อหนุน ทั้งลับและเปิดเผยเสมอมา
นั่นทำให้ทักษิณวิ่งเต้นจนได้สัมปทานของรัฐ ทั้งทีวีผ่านดาวเทียม-เคเบิลทีวี-เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ทำให้ร่ำรวยจากคนมีเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง กลายเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งของประเทศไทยในเวลาอันรวดเร็ว
แน่นอน..สำหรับเมืองไทย การได้ครอบครองสัมปทานของรัฐนั้น แทบจะไม่มีทางที่นายทุนหน้าไหนจะโชคดีได้มาแบบไม่ต้องจ่ายเงิน “บนโต๊ะ” ให้รัฐ และจ่ายเงิน“ใต้โต๊ะ” ลับๆ ให้กับข้าราชการและนักการเมืองหรอกครับ..จริงไหม?
ทักษิณใช้ความร่ำรวยในห้วงแรก ไม่ต่างไปจากเจ้าสัวทุกคนในประเทศไทย ด้วยการแจกจ่ายเงินไม่โปร่งใสของเขาช่วยเหลือทุกพรรคการเมือง เมื่อวิเคราะห์ว่า..พรรคใดจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล..ก็ให้เงินมาก พรรคใดเป็นได้แค่พรรคร่วมรัฐบาล..ก็ได้เงินปานกลาง แต่พรรคที่เป็นได้แค่ฝ่ายค้าน..จะได้เงินเพียงน้อยนิด เพื่อป้องกันมิให้อภิปรายคัดค้านผลประโยชน์ของตนไงล่ะครับ
แต่การสนับสนุนเงินลับๆ ให้กับพรรคการเมืองนั้น ทักษิณไม่สามารถทำอะไรได้ดังใจปรารถนาทุกเรื่อง ดังนั้น..ทักษิณจึงตัดสินใจทุ่มเงินลงทุนในธุรกิจการเมือง ด้วยการตั้งพรรค-ซื้อ ส.ส.-ซื้อพรรคเล็กพรรคน้อย-ซื้อเสียงในสนามเลือกตั้ง เพื่อผลักดันตนเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
ด้วยคำพูดที่ลวงหลอกผู้คนให้หลงเชื่อว่า รวยแล้ว..มีเงินมากมายแล้ว..ใช้ทั้งตระกูลอีกสิบชาติก็ไม่หมด ตอนนี้..อยากทำงานให้กับชาติบ้านเมือง
ผู้คนเลยเฮหนุนจนสมใจนึกบางลำพู พรรคทักษิณชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ทักษิณได้เป็นนายกฯ ที่ผู้คนฝากความหวังไว้อย่างเปี่ยมล้น นั่นคือ..โอกาสทองครั้งที่ 1 ในการทำความดีให้ชาติและประชาชนของทักษิณครับ
แต่แล้ว..ประชาชนคนไทยต้องอกหักดัง “เป๊าะ” กันทั้งเมือง เมื่อนายกฯ มหาเศรษฐีกลับเผยตัวตนที่แท้จริง แสดงความเห็นแก่ตัว-เห็นแก่ได้-ไม่รู้จักพอ โอ้ย..แถมยังเจ้าเล่ห์และขี้โกงอย่างเหลือเชื่ออีกต่างหาก
ทักษิณ-เลยกลายเป็นยุคที่ประเทศไทย มีการคอร์รัปชันโกงกินสารพัดโครงการอย่างโจ๋งครึ่ม จนได้ฉายารัฐบาลโครตโกงหรือโกงทั้งโครต ที่สำคัญ..คนหน้าเหลี่ยมยังหลงระเริงในอำนาจจนลืมตัว จงใจปล่อยให้เกิดขบวนการ “ล้มเจ้า” เพื่อตั้งรัฐไทยใหม่ทั้งลับและเปิดเผยอีกด้วย
ความลับไม่มีในโลก..อาชญากรรมมักเผยร่องรอยของอาชญากร ความลับเลยแตก..นายกฯ “หน้าเหลี่ยม” ถูกเปิดโปงจนประชาชนทนไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาล “หน้าเหลี่ยม” จนในที่สุด..รัฐบาล “หน้าเหลี่ยม” ก็ถูกตัดอำนาจชั่วคราว เพราะถูกคณะนายทหารทำรัฐประหาร ในวันที่ 19 กันยายน 2549
แต่ทักษิณยังคงโชคดี..ด้วยคณะรัฐประหาร ได้ตั้งนายกฯ และรัฐบาลที่หน่อมแน้มอ่อนแอแบบผิดปกติ เพราะไม่ได้ใช้กฎหมายเข้าจัดการกับบรรดาคนชั่วเท่าที่ควร
ทว่า..ยังโชคดีที่ คมช.ได้ตั้งบุคลากรที่เที่ยงธรรมโดยส่วนใหญ่ขึ้นกลุ่มหนึ่ง เป็นคณะกรรมการตรวจสอบในนาม “คตส.” เพื่อดูที่มา-ที่ไปของเงินทองและทรัพย์สิน ทักษิณและพวกพ้องว่า..ร่ำรวยเงินทองมาอย่างบริสุทธิ์หรือฉ้อฉลไงล่ะครับ
อย่างไรก็ตาม..“หน้าเหลี่ยม” ที่มีเงินไม่โปร่งใสแอบซ่อนไว้ในต่างแดน ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ..เขาใช้เงินจ้างคนชั่วโขยงใหญ่ มาให้ร้ายป้ายสีและล้มล้างคนที่เขาคิดไปเองว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหน้า-เบื้องหลังในการล้มล้างอำนาจอธรรมของพวกเขาทันที
ทักษิณและพวกดาหน้าเดินสู่เป้าหมาย มุ่งล้มล้างรัฐบาลและพวก “อำมาตย์” อีกทั้งยังจาบจ้วงทำลายสถาบันสำคัญของชาติ ทั้งลับและเปิดเผยโดยไม่เกรงกลัวตัวบทกฎหมาย
กลุ่มอันธพาลการเมืองรับจ้างหรือ “ผี-โม่แป้ง-เสื้อแดง” ได้ประสานกับ ส.ส.บางคนในพรรคทักษิณ เปิดฉากทำลายบ้านเมืองอย่างเป็นระบบ โดยมหาเศรษฐีหน้าเหลี่ยมและพรรคพวกให้การสนับสนุนทั้งทางการเงินและทุกด้าน พร้อมสรรพ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี กลายเป็นเป้าหมายโจมตีหลักแบบ “ตีวัวกระทบคราด” ซึ่งๆ หน้า
นายกฯ และรัฐบาลที่อ่อนแอของคณะทหารนั่นแหละ เป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ทักษิณสามารถใช้เงินซื้อเสียงกลับมายึดอำนาจ รัฐ-ตั้งรัฐบาลนอมินีของตนได้อีกครา เพื่อทำเรื่องชั่วๆ มาตรฐานแบบทักษิณ..ในนาม “รัฐบาลไทย” ไงล่ะครับ
ทักษิณ-ยังคงละทิ้งโอกาสทองในการทำความดี ครั้งที่ 2 อีก รัฐบาลนอมินีทั้งสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังคงกระทำเรื่องไม่โปร่งใสเป็นนิตย์ อีกทั้งยังคงปล่อยให้ขบวนการ “ล้มเจ้า” เติบโตต่อไป กระทั่ง “คนล้มเจ้า” หลายคนยังได้เป็นใหญ่ในคณะรัฐบาลนอมินีอีกด้วย
คนไทย..รักสงบ..แต่ยามรบไม่ขลาด ก็เลยออกมาไล่รัฐบาลนอมินีของทักษิณอีกยก จนตกอยู่ในสภาพง่อนแง่น..จะล้มมิล้มแหล่ คณะทหารไม่กี่คนเลยแอบกดดันให้การเมืองพลิกขั้ว จนนายกฯ หุ่นกระบอก “สมชาย” ของทักษิณ ต้อง “ตกเก้าอี้” แบบฉับพลัน และ “อภิสิทธิ์-หุ่นเชิด” ของ “เทพเทือก-เนวิน-ป้อม-ป๊อก” ก็ “ส้ม(โอ)หล่น” ใส่..ได้เป็นนายกฯ แบบไม่คาดฝัน
แต่..ทักษิณก็ยังไม่ยอมแพ้อีกตามเคย และยังคงมาตรฐานชั่วๆ แบบหน้าเหลี่ยมไว้อย่างคงเส้นคงวา ยังคงใช้เงินจ้าง “ผี-โม่แป้ง” ชั่วๆ ทั้งแกนนำคนเสื้อแดง ส.ส.อีกจำนวนหนึ่ง ระดมจ้างคนมาทำการเผาบ้านเผาเมืองในห้วง “สงกรานต์เลือด” แต่ “นายกฯมาร์ค” ก็ใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมได้ โดยไม่มีการล้มหายตายจากในเดือนเมษายน ปี 2552
ทว่า..อภิสิทธิ์ก็ดัน “เยี่ยวไม่สุด” เพราะไม่ดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายกับทักษิณและพวกอย่างจริงจัง แถมยังปล่อยปละละเลยไม่ตัดไฟเสียแต่ต้นลมอีก ทำให้ทักษิณและพวกที่ชั่วได้มาตรฐาน ตั้งหน้าตั้งตาปักหลักทำลายชาติบ้านเมืองได้อีกครั้ง และครั้งนี้หนักหนาสาหัสกว่าเดิม จนอภิสิทธิ์-เทพเทือกต้องยอมรับเสียงอ่อยๆ ว่า..คาดไม่ถึง..
ทักษิณและพรรคพวกที่ชั่วบริสุทธิ์ได้มาตรฐาน ทั้งจ้างและปลุกระดมผู้คน แต่ได้เพิ่มกองกำลังติดอาวุธสงครามหนัก-เบา ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากเขมร “ฮุนเซน” ซึ่งหวังจะให้ทักษิณกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง เพราะฮุนเซน-ทักษิณมีสัมพันธภาพลับๆ เป็นพิเศษ ในการตัดแบ่งผืนแผ่นดินไทยแถวเขาพระวิหารให้เขมร เพื่อแลกผลประโยชน์จากน้ำมันในทะเลที่ทับซ้อนของสองประเทศนั่นเอง
ทักษิณและพวกได้ก่อการร้ายจนเกิดเหตุการณ์นองเลือด จากการยึดครองพื้นที่บนถนนราชดำเนินและราชประสงค์ มีการใช้อาวุธสงครามยิงทหารของชาติ ที่ถือเพียงกระบองและโล่พลาสติก รวมทั้งนายทหารยศนายพลและนายพัน กับประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตายราวใบไม้ร่วง!
กว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์จะสลายการก่อการร้ายยืดเยื้อครั้งนี้ลงได้ ผู้คนก็ต้องบาดเจ็บล้มตายมากมาย บ้านเมืองต้องถูกเผาวอดวายไม่รู้กี่แห่งต่อกี่แห่ง ชื่อเสียงของชาติต้องเสียหายอย่างร้ายแรงไปทั้งโลก
นี่คือ ผลงานชั่วที่ได้มาตรฐานคนชั่วของ “คนหน้าเหลี่ยม” และพวก หากคนชั่วพวกนี้ไปทำชั่วแบบนี้ในประเทศไหนก็ตาม ทุกสังคมโลกจะต้องประณามและคนชั่วเหล่านี้..ต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่นอน ทว่า..รัฐบาลอภิสิทธิ์และใครบางคนในประเทศไทย..กลับอยากปรองดอง!
มาตรฐานต่อสู้-ยอมตาย เพื่อปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และต่อต้านการคอร์รัปชันของนักการเมืองขี้โกงของพันธมิตรฯ คือ ความเป็นจริงที่ต่างกันราว “ฟ้า” กับ “ดิน” หรือราว “มือ (ตบ)” กับ “ตีน (ตบ)” เลยครับ
แต่นายกฯ อภิสิทธิ์-เทพเทือกกับใครบางคน กลับแสร้งโง่-จงใจโง่..จนใครคนหนึ่งเคยหลุดปากเปรียบเปรยออกมาว่า แดง (ทักษิณ)-เหลือง (พันธมิตรฯ) เป็นผู้ก่อการร้าย หรือเป็นภัยร้ายแรงของชาติเหมือนกัน เฮ้อ..คนฉลาดแท้ๆ..ไหงแกล้งโง่ได้ใจ..บ้าได้ถ้วยได้เล่าฟ่ะ?!
ดังนั้น..ทุกสังคมในโลกใบนี้..จึงมี 2 มาตรฐานทั้งนั้น นั่นคือ มาตรฐานต่อคนดี-คนชั่ว..ต้องต่างกัน ทุกรัฐบาลจึงต้องรักษา 2 มาตรฐานนี้ไว้อย่างเคร่งครัด เพราะรัฐบาลที่ดีมีหน้าที่ทำให้..คนทำชั่ว-ได้ชั่ว และคนทำดี-ได้ดีครับ
สังคม ใด..ปล่อยให้คนทำดี-ไม่ได้ดี..มีให้เห็น และปล่อยให้คนทำชั่ว-ได้ดี..มีถมไป แสดงว่าสังคมนั้นวิกฤต คนชั่วกำลังเป็นใหญ่..คนดีกำลังถูกย่ำยี..จริงไหม..พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย ยยย....???
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น