++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552

จากลานวัดป่าดอยลับงา-พธม.เมืองกล้วยไข่แกนหลักร่วมสร้าง“การเมืองใหม่”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

กำแพงเพชร – เครือข่ายพันธมิตรฯเมืองกล้วยไข่-กำแพงเพชร เดินหน้าปรับโครงสร้างขยายแนวร่วมสร้างสังคมการเมืองใหม่ “หลวงพ่อนพดล” สมณะเพศ ที่ถือเป็น “ศูนย์รวม”ของ พธม.กำแพงฯ ร่วมเดินงานผ่าน 3 ทหารเสือหลักสาย “ครู – พ่อค้า – ประชาชนทั่วไป” เปิดลานวัดป่าดอยลับงาให้ถกทิศทางการขับเคลื่อน
      
       หลัง ผ่านพ้นสงครามครั้งสุดท้าย 193 วัน ที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมืองกล้วยไข่ (กำแพงเพชร) ถือเป็นเครือข่ายหนึ่งจากพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ที่หมุนเวียนส่งกำลังพล – กำลังทุน ฯลฯ เข้าร่วมการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และเนืองแน่น ภายใต้เป้าหมายล้ม “ระบอบทักษิณ” สร้างการเมืองใหม่ ล้างการเมืองน้ำเน่า
      
       มาถึงวันนี้ ! แม้สถานการณ์การชุมนุมจะยุติลง แต่เป็นที่รับรู้กันว่า “ระบอบทักษิณ” ยังไม่สิ้น ยังคงมีการดิ้นรนต่อสู้ที่แหลมคมเกิดขึ้นตลอดเวลาทุกพื้นที่ ทำให้ พธม.กำแพงเพชร ต้องปรับโครงสร้างเครือข่าย ที่มาจากหลากหลายกลุ่ม – หลายสาขาอาชีพ จูนแนวคิด/ทิศทางการเคลื่อนไหว สร้างการเมืองใหม่ให้เป็นจริงบนแผ่นดินเมืองกล้วยไข่ที่ยังเต็มไปด้วยคนใน “ระบอบแม้ว”
      
       “ASTVผู้จัดการ” ได้ลงพื้นที่กำแพงเพชรเมืองกล้วยไข่ เพื่อพูดคุยกับบรรดาเครือข่ายระดับนำของ พธม. 1 ในหัวเมืองฝ่ายเหนือแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น สุวัฒน์ วัฒนศิริ ข้าราชการครูหัวใจสีเหลือง , แตน - พงษ์ณุเดช ชุ่มใจศรีเจริญ อีก 1 แกนนำ พธม. ,สุนทร กัลยาพรพิทักษ์ หนึ่งในแกนหลักของเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านกำแพงเพชร และภาคเหนือ ที่เข้ามามีบทบาทในระดับหัวแถวของ พธม.กำแพงฯ พบว่า ทุกเครือข่ายล้วนต่อเชื่อมถึงพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ นักคิด-นักเคลื่อนไหวของเมืองกำแพงฯแห่งนี้ คือ
      
       “หลวง พ่อนพดล หรือพระครูอรรถกิจ นันทคุณ” แห่งวัดป่าดอยลับงา ต.ท่าขุนราม อ.เมืองกำแพงเพชร สมณะเพศ ที่เป็นเหมือนศูนย์รวมของพันธมิตรฯกำแพงเพชร
      
       ในโอกาสที่เข้านมัสการหลวง พ่อนพดล “ASTVผู้จัดการ” ได้รับการบอกเล่าว่า วัดป่าดอยลับงา ถือเป็นแหล่งรวม และนัดชุมนุมพบปะของมลหมู่พันธมิตรฯกำแพงฯ มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังคงใช้ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการปรึกษาหารือกัน แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครือข่าย ที่ต้องยอมรับว่า มีที่มาหลากหลาย
      
       “ล่าสุด 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแกนหลัก ๆ ของพันธมิตรฯกำแพง ก็มานั่งคุยหารือกันที่วัด เพื่อถกหาทางออกปัญหาเครือข่ายองค์กร ที่ดูเหมือนว่า บางส่วนเริ่มเอาตนเองเป็นที่ตั้ง คิดแบบการเมืองเก่าอยู่ แต่ด้วยข้อดีที่ว่า คนกำแพงฯกล้าคิด กล้าทำ ซึ่งถือเป็นพลังที่มากพอขับเคลื่อนการเมืองใหม่ จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ เพียงแต่ต้องจัดระเบียบองค์กรกันใหม่หลังเสร็จศึกเท่านั้น” หลวงพ่อนพดล ย้ำ
      
       หลวงพ่อนพดล ยังบอกอีกว่า จาก นี้ไปพันธมิตรฯในแต่ละจังหวัด น่าจะสร้างทีม-เครือข่าย โดยอาจจะเรียกแกนหลักแต่ละสายงานว่า “ผู้ประสานงาน” เช่น พันธมิตรฯกำแพงเพชร สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มพ่อค้า กลุ่มครู กลุ่มประชาชนทั่วไป การขับเคลื่อนแต่ละครั้ง ก็ต้องประชุมหารือในระดับหัวหน้ากลุ่ม เหมือนกับการทำงานของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ
      
       ในอนาคตอีกไม่นาน เมื่อพันธมิตรฯรวมตัวเป็นบึกเป็นแผ่นจริง กรณีกลุ่มพันธมิตรฯจะส่งตัวแทนเข้าไปในสภาฯ ก็คงไม่ยาก เพราะพันธมิตรฯในจังหวัดนั้นๆจะเป็นผู้คัดเลือกคุณสมบัติตัวแทนหนึ่งคน พร้อมกับทีมสนับสนุนต่อสู้ล้างการเมืองเก่า
      
       “หลังเสร็จศึก 193 วัน อาตมาเห็นข่าวความขัดแย้งทางความคิด ในเครือข่ายหลายจุด อยากบอกว่า หลายคนอาจเกิดเพราะความน้อยใจ เอาแต่ใจตนเอง แต่ ณ วันนี้ ต้องมองไปข้างหน้า นั่นคือ การเมืองใหม่”
      
       ขณะที่ “แตน -พงษ์ณุเดช ชุ่มใจศรีเจริญ” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯกำแพงเพชร กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่เกิดขึ้นจาก อาจารย์สุวัฒน์ วัฒน์ศิริ ที่ตั้งจอรับสัญญาณจาก ASTV ถ่ายทอดภาพและเสียง ให้กับผู้ที่เดินไปเดินมาที่ “ตลาดไนท์”ตัวเมืองกำแพง กลายเป็นจุดรวมและสร้างเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาและคนอื่นๆก็เข้ามาร่วมสนับสนุน เพราะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเป็นเงาตามตัว
      
       จากนั้นก็เริ่มมีการเหมารถบัสเข้าร่วมชุมนุมกับ 5 แกนนำพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ พร้อมกับเรี่ยรายเงินเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงแรก พอระยะหลังๆเริ่มมีคนสนับสนุนพร้อมเงินอัดฉีดอย่างรวดเร็ว จนถึงขั้น “เต็มออก ๆๆๆ”
      
       มาถึง ณ วันนี้ เขาเชื่อมั่นว่า การระดมทุนจากเครือข่ายพันธมิตรฯ เพื่องานหน้าหมู่ หรืองานส่วนรวม ในตัวเมืองกำแพงไม่ยากนัก เพราะทั้งพ่อค้าแม่ค้าตลาดไนท์ ตลาดศูนย์และร้านค้าในเมืองกำแพง ล้วนเป็นแฟนพันธุ์พันธมิตรฯเกือบทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นผลความเกลียดชัง ส.ส.ในเขตกำแพงฯ ที่ไปมีบทบาทโดดเด่นในกลุ่มเสื้อแดงสมัย “ทักษิณ ชินวัตร”ยังเป็นนายก และชื่นชม “สนธิ ลิ้มทองกุล”ที่รักชาติไม่กลัวตาย ก็เลยทำให้มีมวลชนจำนวนมาก
      
       “เช่นเดียวกับงานคอนเสิร์ตครั้งที่ 3 ที่พิษณุโลกแน่ คงไม่มีปัญหา มวลชนแฟนพันธุ์แท้พร้อมใจกันเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่งแน่นอน”
      
       ส่วน “สุนทร กัลยาพรพิทักษ์” อีกหนึ่งผู้ประสานงานพันธมิตรฯกำแพงเพชร ที่มีบทบาทสำคัญในช่วงกระแสพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำ ลังฮ็อตสุดขีด ด้วยความที่ผ่านการทำงานเพื่อสังคมมานาน นั่งเป็นประธานเครือข่ายเหล้าพื้นบ้าน –ประธานชมรมผู้ประกอบการานอาหารกำแพงเพชรด้วย ซึ่งหลายต่อหลายครั้งประกาศเดินหน้าท้าชนกับกลุ่มการเมืองเก่า ล่าสุดปวารณาตัวเป็นลูกศิษย์ “หลวงพ่อนพดล” ด้วยคนหนึ่ง พร้อมกับนำ “ข้าวกล้องไร้สารพิษ” ที่ผลิตจากวัดป่าดอยลับงา ต.ท่าขุนราม อ.เมืองกำแพงเพชร มาจำหน่ายที่ร้านก๋วยเตี๋ยวกำแพงเพชรโภชนาด้วย บอกว่า
      
       ที่ผ่านมาเขาได้ประสานงานแกนหลักๆของพันธมิตรฯกำแพงเพชร ระดมทุนจากกลุ่มคนในระดับหัวแถวแต่ละพื้นที่ อาทิ กำนันอ๋า มาช่วยงานพันธมิตรหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะการเหมารถบัสเข้ากรุงเทพฯ เพราะกำนันอ๋าเขาจะทุ่มทุกอย่างด้วยเหตุเกลียดคนชื่อ “ทักษิณ” และคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 ที่พิษณุโลกครั้งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนเช่นกัน
      
       ด้าน “สุวัฒน์ วัฒนศิริ” อีกหน่อหนึ่งของผู้ประสานงานแกนนำพันธมิตรฯกำแพงเพชร กล่าวว่า การทำงานของพันธมิตรแพงเพชรแต่ละคนรู้ว่าทำงานกันอย่างไร ทุกคนต้องดูแลกันเอง คงไม่สามารถตักเตือนอะไรมากว่านี้ ยอมรับว่า กลุ่มหลายคนมีความคิดความอ่านไม่เหมือนกัน มีความตื้นลึกของความคิดไม่เท่ากัน แต่ที่แน่ๆ กลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่ฐานของเอ็นจีโอนั้น จะมุ่งงานวิชาการให้ความรู้มากกว่า
      
       นอกจากนี้ เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมแกนนำพันธมิตรฯหัวเมืองฝ่ายเหนือก็มีมติชัดเจนว่า พร้อมสนับสนุนการจัดงานคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 ที่พิษณุโลก ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับงานปราศรัยที่อุดรธานี ที่กลุ่มพันธมิตรกำแพงฯก็เหมารถบัสเดินทางไปร่วมเช่นกัน


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000022530

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น