ศูนย์ ข่าวหาดใหญ่ - พันธมิตรฯ จ.สงขลา
เร่งขับเคลื่อนกระแสการเมืองภาคประชาชนที่กำลังเติบโต
เตรียมความพร้อมเปิดเวทีสาธารณะ "ใครทำรัฐวิสาหกิจเจ๊ง" ในวันที่ 14
มี.ค.ณ ลานประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟหาดใหญ่ ด้วยความร่วมมือตามปฏิญญา 5
ข้อ ซึ่ง 5 จังหวัดชายแดนใต้ประกาศร่วมกันเพื่อพิทักษ์รัฐวิสาหกิจให้เป็นสมบัติของชาติ
โดยมีผู้คร่ำหวอดรัฐวิสาหกิจแขนงต่างๆ นำโดย สาวิทย์ แก้วหวาน แจ่มศรี
สุกโชติรัตน์ เป็นต้น มาร่วมให้ข้อมูลทั้งเรื่องรัฐวิสาหกิจการบินไทย
ซึ่งกำลังประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก รัฐวิสาหกิจรถไฟ
และการประปาที่กำลังแปลงร่างซุกซ่อนการแปรรูป
ภายหลังจากที่การเมืองภาคประชาชนในภาคใต้ตอนล่างเกิดความร่วมมือเป็น
น้ำหนึ่งใจเดียวกัน
จนนำไปสู่การรประกาศปฏิญญาร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 5
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยภารกิจสำคัญร่วมปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ขยายความคิดและทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนทุกหมู่
เหล่า เพิ่มศักยภาพเรียนรู้การเมืองภาคประชาชน
ปกป้องรัฐวิสาหกิจและคัดค้านการแปรรูปทุกรูปแบบ
รวมทั้งสานต่อเจตนารมณ์สร้างการเมืองใหม่ ภายใต้แนวคิดเสียสละ ซื่อสัตย์
และกล้าหาญ
สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่สังคมไทยกำลังถูกผู้บริหาร
กลุ่มทุน และนักการเมือง
ร่วมกันทำลายความเข็มแข็งของรัฐวิสาหกิจไทยอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นการบริหารโดยไม่โปร่งใส ซุกซ่อนรูปแบบการแปรรูป
หรือแม้แต่การไม่อุดหนุนงบประมาณในรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นบริการสาธารณะ
จนทำให้ไม่มีประสิทธิภาพและอ่อนแอลงในที่สุด
ดังเช่นกรณีของการบินไทยที่ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก
หรือการรถไฟฯที่ไร้ซึ่งการพัฒนาให้ทันยุคสมัยและรองรับความต้องการของ
ประชาชน
ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างโดยตรง
ทั้งการไม่มีสายการบินระหว่างประเทศมายังสนามบินนานาชาติหาดใหญ่
ทำให้เป็นจุดบอดที่คนในพื้นที่จะติดต่อกับโลกภายนอกได้โดยสะดวก
หรือแม้แต่เรื่องน้ำประปาหาดใหญ่ที่มีความพยายามจะให้บริษัทเอกชนเข้ามาตัด
ตอนการผลิตโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนว่า ประชาชนได้ประโยชน์อะไร
แต่ทำให้สังคมมีความเคลือบแคลง
ซึ่งคำถามเหล่านี้ล้วนเป็นเศษเสี้ยวหนึ่งที่การเมืองภาคประชาชนอยากได้รับคำ
ตอบ
ดังนั้น สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่
(สรส.หาดใหญ่) ซึ่งประกอบด้วย 12 องค์กร
ได้มีมติร่วมจัดกิจกรรมเวทีสาธารณะ "ใครทำรัฐวิสาหกิจเจ๊ง" ณ
ลานประวัติศาสตร์ สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันเสาร์ที่ 14 มีนาคม 2552
โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 5
จังหวัดชายแดนใต้ร่วมสนับสนุนการเปิดเวทีความคิด
และสร้างจิตสำนึกรักประเทศชาติในครั้งนี้
รูปแบบการจัดงานมีขึ้นอย่างเรียบง่าย เป็นกันเอง
ดำเนินรายการโดยนายสาโรจน์ รักษ์จันทร์ กรรมการ สรส.หาดใหญ่
และนางชัญญาธนันต์ ศรียะพันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานพันธมิตรฯ
และศิลปินวงคีรีธารนั่นเอง กิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น.
อุ่นเครื่องด้วยการแสดงท้องถิ่นที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของ 5
จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากนั้นเวลา 18.00 น.สรส.หาดใหญ่
ซึ่งเป็นการรวมตัวของ 12 รัฐวิสาหกิจจะร่วมพบปะกับพี่น้องพันธมิตรฯ
ตลอดจน กวีซีไรต์ นายมนตรี ศรียงค์ จะร่วมขับขานบทกวีด้วย
หลังจากนั้นเข้าสู่ไฮไลต์ คือการเสวนาเรื่อง
"ใครทำรัฐวิสาหกิจเจ๊ง" ซึ่งมีนายสาวิทย์ แก้วหวาน
เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ น.ส.แจ่มศรี สุกโชติรัตน์
ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)
และตัวแทนจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค
ร่วมเสวนาเปิดเผยอย่างหมดเปลือก
ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังกระบวนการบ่อนทำลาย
ปล้นรัฐวิสาหกิจเพื่อนำไปสู่การแปรรูป ฯลฯ โดยมีนายปิยะโชติ อินทรนิวาส
ผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อสารมวลชนเป็นผู้ดำเนินรายการ และเวลา 20.30 น.
เป็นต้นไป ศิลปินชื่อดัง หงา คาราวาน
จะขึ้นเวทีบรรเลงบทเพลงให้ความบันเทิง เป็นรายการสุดท้ายของเวทีสาธารณะ
ทั้งนี้ บรรดาพ่อยกแม่ยกทั้งใน จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง
ได้ติดต่อมายังพันธมิตรฯ สงขลา เพื่อนำเครื่องดื่ม อาหารคาวหวาน
มาบริการพี่น้องพันธมิตรฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนความพร้อมด้านสถานที่นั้น คณะทำงานฯ
ได้เตรียมเก้าอี้นับพันตัวอำนวยความสะดวก
พร้อมทั้งจัดชุดการ์ดอาสาดูแลความเรียบร้อยบริเวณการจัดงาน
ร่วมด้วยการตั้งแผงเหล็กกั้นแนวถนนเพื่อความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากพี่น้องพันธมิตรฯ 5
จังหวัดชายแดนใต้จะเดินทางมาร่วมงานนี้แล้ว
ยังได้ติดต่อประสานงานกับพันธมิตรอีก 3 จังหวัดได้แก่ พัทลุง ตรัง
และนครศรีธรรมราช
เพื่อให้พี่น้องที่ยังไม่ทราบข่าวรวมตัวกันเดินทางมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้
ด้วย ตลอดจนมีแนวโน้มว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ 8
จังหวัดภาคใต้ตอนล่างจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
เพื่อขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชนไปสู่การเมืองใหม่เท่าทันสถานการณ์ที่
เปลี่ยนแปลงไป
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000027608
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น