++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2551

วิกฤติครอบครัวไทยเน้นเก่งเมินความดี


จากการสัมมนาครอบครัวสากล 2547 เรื่อง "สถาบันครอบครัวกับความมั่นคงของประเทศและสันติภาพโลก" จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก (ประเทศไทย) และคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ สำหรับเอเชียและแปซิฟิก น.พ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้กล่าวว่า สถาบันหลักของประเทศคือ พระมหากษัตริย์, ศาสนาและครอบครัว ทั้ง 3 สถาบันเป็นกระดูกของสังคมไทยที่มีความเกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักในยามสงบสุข และเป็นหลักชัยในยามสงครามและวิกฤติต่างๆ ไม่ว่าเศรษฐกิจ หรือการเมือง โดยเฉพาะพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน มีแง่คิดเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็ก ผู้สูงอายุและความสัมพันธ์ในครอบครัวมากมาย ปัญหาในขณะนี้ คือครอบครัวสมัยใหม่ยัดเยียดความรู้ ไม่สอนความดีและไม่มีการสอนการทำงาน ให้เด็กเรียนกวดวิชา 7 วัน โดยไม่ต้องทำงานบ้าน ไม่มีการทำประโยชน์ เพื่อสังคม พ่อแม่เน้นให้ลูกเรียนแต่ไม่เคยพาไปวัด สอนความดีน้อยเกินไปจนเกิดวิกฤติศีลธรรมในสังคมไทย เด็กที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยดังแต่พร้อมที่จะโกงให้ตัวเองได้คะแนนสูง เก่งแต่โกงก็ไม่เอา ยึดเอาแต่ เปลือกภายนอกของสังคม บูชาคนรวย ไม่บูชาความเป็นคนของคนทุกคน ยุทธศาสตร์ในการแก้วิกฤติครอบครัวไทย คือ เร่งพัฒนาทำให้ครอบครัวไทยอบอุ่นเป็นที่ถ่ายทอดสิ่งดีงามทำให้ครอบครัวมีความเข้มแข็ง และต้องรีบแก้ไขผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของวิกฤติครอบครัวไทย ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง และผู้สูงอายุ และอยากจะฝากให้มีการรวบรวมองค์ทางด้านความรู้ เทคโนโลยีพัฒนาครอบครัว หรือที่เรียกว่า คฤหศาสตร์ ไปพัฒนาครอบครัว


ทางด้าน น.พ.ประเวศ วะสี ได้กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดที่กระทบสถาบันครอบครัวคือ การพัฒนาของประเทศที่เน้นค่าทาง จีดีพี หรือรายได้ของประชากร ซึ่งถ้าพ่อแม่อยู่บ้านเลี้ยงลูกค่าจีดีพีจะไม่ขึ้น ดังนั้น อยากจะให้สร้างดัชนีใหม่ วัดครอบครัวอบอุ่นความสุขในครอบครัว จีเอ็นเอช ประจำทุกปีแทน.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น