++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2551

เครื่องทองชิ้นเอกของโลก


บรรดาเครื่องทองอันทำจากฝีมือช่างทองโบราณทั่วโลกนั้น ที่เหลืออยู่ จนถึงปัจจุบันโดยไม่ถูกยุบทำลายไปมีอยู่มาก ซึ่งบางชิ้นได้กลายเป็นหลักฐานบอกถึงเหตุการณ์ในยุคนั้นๆ แต่จากความมีค่าของทองเอง เครื่องทองจำนวนไม่น้อยได้ถูกยุบลงไป กลายไปเป็นของแลกเปลี่ยนทางการค้า ไทยรัฐ ซันเดย์ สเปเชียล โดยทีมงาน ต่วย\'ตูน จะนำมาโชว์และโม้ให้อ่านกันครับ ในสมัยก่อน ทองเป็นวัตถุมีค่าที่มีการเปลี่ยนมือแย่งชิงกัน ทั้งในด้านส่วนตัวและการสงครามมากที่สุด และต่อมาจากความรํ่ารวยทองของพวกอินเดียนแดงในภาคกลางของอเมริกา ตลอดจนภาคใต้ของอเมริกากลาง ซึ่งช่างโบราณอินเดียนได้ใช้ฝีมือที่เลอเลิศประดิษฐ์ ขึ้น และจากการกวาดชิงเอามาของชาวต่างชาติที่มีชัยเหนือพวกเหล่านั้น ฝีมือที่ช่างทองยุโรปได้พบเห็นเข้าก็ถ่ายทอดลักษณะ และเปลี่ยนแปลงไปตามศิลปะของตัวเข้าผสม ถ่ายทอดออกมาแก่ลูกหลาน ผ่านมาจนรุ่งเรืองในสมัยเรอเนสซองต์ในยุโรป บรรดาเครื่องทองโดยฝีมือช่างโบราณเท่าที่ค้นพบมาและหาไม่ได้แล้วนั้น ทางยุโรปได้จัดยอดของเครื่องทองหรือ Golden Master Pieces ไว้รวมเก้าชิ้น ครับ เรามาดูกันว่าเครื่องทองโบราณที่ฝรั่งยกย่องกันนักว่า มีค่าสมควรแก่คำว่า โกลเด้นมาสเตอร์พีซทั้งเก้าชิ้นนั้นมีอะไรบ้าง โดยขอให้ดูรูปนะครับ อันดับที่หนึ่ง นั้นเขายกให้แก่ รูปสลักทองเทพเจ้าโปโปโร (Poporo) อันเป็นฝีมือสลัก และทำรูปเทพเจ้า ที่ไม่ทราบว่าเป็นใคร ทราบเพียงแต่ว่าเป็นรูปแบบที่นิยม ของอินเดียนแดงที่ชอบประดิษฐ์ทอง ลักษณะดังกล่าวในกลางศตวรรษที่ผ่านมา แม้ว่ารูปสลักของเทพเจ้าชิ้นนี้ จะขาดหายหรือชำรุดไปบ้าง แต่ก็เป็นฝีมือทำทองที่ไม่เห็นรอยต่อ และบางประดุจเปลือกหอยเลยละครับ ปัจจุบันเครื่องทองชิ้นนี้ตั้งแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑ์ของกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย อันมีเครื่องทองตั้งแสดงอยู่ถึงหมื่นแปดพันชิ้น ล้วนแต่เป็นศิลปะฝีมือช่างอินเดียนแดงโบราณทั้งสิ้น แต่ถือว่าชิ้นนี้เด่นที่สุดละครับผม เครื่องทองชิ้นที่ 2 ที่ฝรั่งยกย่องก็คือ เครื่องทองรูปช้าง ที่พบที่ไอวอรี่โคสต์ (lvory Coast) เมื่อ 200 ปีที่ผ่านมา กล่าวกันว่าเครื่องทองชิ้นนี้ทำขึ้น จากนิยายเป็นรูปช้าง ประกอบด้วยทองเส้นลายละเอียด และจากฝีมือของช่างตระกูลเดียวกัน ได้ทำเครื่องทองเป็นรูปสัตว์ไว้หลายชิ้น แต่ชิ้นนี้เด่นที่สุด ปัจจุบันอยู่ ในพิพิธภัณฑ์อาฟริกันโกลด์สมิธ ของไอวอรี่โคสต์นั่นละครับ เครื่องทองชิ้นที่ 3 นั้นเป็นเครื่องทองที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และคนรู้จักกันมากที่สุด ยิ่งแฟนของ ต่วย\'ตูน เห็นแล้วก็ถึงบางอ้อละครับผม นั่นก็คือ เครื่องโต๊ะอันเป็นที่ใส่เกลือ-พริกไทย ฝีมือของเบนเวนูโต เซลลินี่ อย่างไรเล่าครับ เป็นเครื่องทองที่ถือกันว่าเลิศด้วยศิลปะ ที่เซลลินี่ทำขึ้น ถวายพระเจ้าฟรานซิสที่หนึ่ง เมื่อ ค.ศ. 1543 นับว่าเป็นฝีมือช่างอิตาลีที่งดงามที่สุด ชุดใส่เกลือ-พริกไทยนี้ทำด้วยทองสลักเป็นรูปของเนปจูนและซีเรส ราชาเจ้าทะเลและราชินีแห่งพื้นดิน กำลังทรงพระถกกันเรื่องมงกุฎที่จมอยู่ ณ ใต้ดินตามนิยายของกรีก ทางด้านข้างมีโบสถ์ไอโอนิคเป็นที่ใส่พริกไทย อีกข้างหนึ่งเป็นที่ใส่เกลือรูปเรือโรมันโบราณ ฐานด้านล่างเป็นเรื่องราวในนิยายของเทพเจ้าต่างๆโดยรอบ และแม้จะเล็กถึงอย่างนี้ เซลลินี่ก็ฝากฝีมือไว้อย่างเลิศทีเดียวละครับ ทุกสัดส่วนแสดงอารมณ์ไปเสียทุกสิ่ง แหม...ถ้าเป็นของผู้เขียนคงลืมกินไข่ลวกแน่ๆ เลยละครับ แค่นั่งดูก็อิ่มไปแล้ว เครื่องทองชิ้นที่ 4 ที่ฝรั่งยกนิ้วให้นั้นแปลกประหลาดที่สุด เลยละครับผม ฝรั่งเขายก โกลเด้นมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ ไปให้จีนครับ นั่นก็คือ ฉลององค์เต็มยศ ของพระจักรพรรดิจีน ในราชวงศ์หมิง อันเป็นฉลององค์ "ชุดใหญ่" เสื้อครับ ไม่ใช่อย่างอื่น ฉลององค์ชุดนี้ปักด้วยเส้นทองคำแท้ๆ และเงินเป็นรูปท้องฟ้า มีรูปนกยูงและสิงโต (ไม่ยักกะใช่มังกรห้าเล็บอย่างเคย อาจจะทรงพระเบื่อกระมังครับ) เส้นทองที่ปักนั้นละเอียดยิบตรึงด้วยไหมทอง ซึ่งเมื่อวัดแล้ว ฉลององค์ตัวนี้กินเนื้อที่ปักทองถึงเจ็ดพันตารางนิ้วทีเดียว ผู้เขียนก็ไม่ทราบว่านํ้าหนักจะซักเท่าใด เวลาทรงแล้วจะต้องมีคนพยุงปีกฮ่องเต้ซักกี่คนก็ไม่ทราบ เครื่องทองชิ้นที่ 5 นั้น คือ จอกสุราทองของเปอร์เซีย เป็นจอกสุราทองประกอบรูปสิงโต อันเป็นถ้วยเหล้าที่งามเลิศที่สุดของสมัยนั้น ถ้วยใบนี้พบในตอนเหนือของประเทศอิตาลี มีขนาดยาวจากหูถ้วยที่เป็นรูปสิงโตห้านิ้วครึ่งครับ สงสัยเวลาตาลายทำตกลงใส่เท้าคงจะหายเมา ก็หนักอย่างนี้นี่นา แหม...ดื่มเหล้าในถ้วยทอง ทั้งทีไม่เมาเหล้าก็คงเมาทองละครับ และขนาดเดียวกับกระป๋องเสื้อนอกพอดิบพอดีเปี๊ยบ เครื่องทองอีทรัสกัน (Etruscan) อีกชิ้นหนึ่งที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเก้าชิ้นของเครื่องทองมาสเตอร์พีซ นั่นคือชิ้นส่วนของเครื่องประดับมีขนาดเล็กไม่ถึงหนึ่งนิ้วละครับผม ชิ้นส่วนของเครื่องประดับทองบริสุทธิ์นี้เมื่อขยายดูแล้วจะเห็นว่าเลิศด้วยฝีมือของช่าง และช่างนั้นจะต้องชำนาญมากที่เดียว เขาทำได้อย่างไร แว่นขยายสมัยอีทรัสกันหรือก็ไม่มีนี่ครับ ความประณีตของ เครื่องทองชิ้นที่ 6 อันเป็นชิ้นมาสเตอร์พีซนี้อยู่ที่การทำรูปร่างดุนออกมา เป็นลายละเอียดยิบเป็นจุดเม็ดเล็กๆ มากมาย มีดอกไม้ช่อผลไม้ละเอียดดุจของจริง หลายดอกหลายช่ออยู่เบื้องล่าง โค้งบนสลักลายที่ทำได้ยังไงในเมื่อแว่นขยายยังไม่มี ถ้าท่านผู้อ่านได้เห็นภาพขยายแล้วคงเง็ง นะครับผม คนอะไรตั้งร้อยๆ พันๆ ปีฝีมือถึงได้ "เนี้ยบ" ยังงี้ น่าเสียดายจริงๆ นะครับที่ชิ้นส่วนนี้มีเพียงชิ้นเดียว ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่อิตาลี ประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า เจ้าหน้าที่ทูตอันเป็นทหาร ได้รับมาจากทหารที่ขุดพบในศตวรรษนี้ ยังสดๆ ร้อนๆ ทีเดียวเจียวครับผม ส่วนที่เหลือน่ะหายไปไหนนะเนี่ย

โกลเด้นมาสเตอร์พีซชิ้นที่ 7 ก็เป็นชิ้นที่รู้จักกันอีกละครับ นั่นก็คือ พนักทองของบัลลังก์ แห่งยุวกษัตริย์ตุตันคาเมน นั่นเองครับ โกลเด้นมาสเตอร์พีซ ที่ลือชื่อนี้เป็นทองแผ่นสลักรูป ของตุตันคาเมนกับพระนางแอนเกสเซนนาเมน ประดับด้วยแก้วและหินสี คือ ลาพิซลาซุลลี่และเทอร์คว้อย ความประณีตบรรจง ของภาพสลักทอง เมื่อสามพันกว่าปีก่อนชิ้นนี้ ก็คือกิริยาท่าทางของพระมเหสีสุดที่รัก ของตุตันคาเมน บรรจงทาเครื่องหอมให้กับกษัตริย์หนุ่ม แววตาสีหน้าท่าทางอันเป็นภาพสลักแบนๆ นี่ดูแล้วประดุจภาพปั้นทีเดียวละครับผม

เครื่องทองชิ้นเอกชิ้นที่ 8 อียิปต์ก็กวาดเอาไปรับประทานอีก และก็เป็นพระราชสมบัติ ของตุตันคาเมนเช่นเคย นั่นคือ โลงพระศพ... อย่าเชียวครับ ท่านผู้อ่านอย่าได้คิดว่าเป็นโลงโซลิดโกลด์ชั้นในสุด ที่หนาตั้งเซ็นต์ ครึ่งนั้นนะครับ ฝรั่งเขายกย่องโลงบรรจุพระศพ ของตุตันคาเมนก็จริงอยู่ แต่เขายกย่องโลงบรรจุพระศพไม้หุ้มทอง ชั้นที่สองจากภายในสุด ตังหากเล่าครับ ว่าเลิศด้วยฝีมือของช่างทอง ที่ตีแผ่ทองประกอบกับไม้ ประดับประดาสวยดุจภาพของคน จริงๆ สัดส่วนงดงามเลิศประณีตที่สุด แหม ...ถ้าช่างทองอียิปต์คนที่ตีแผ่ทองบรรจงประดิษฐ์ ให้เฉิดเฉลา ถ้าได้ยินเข้า คงอมยิ้มปากกว้างถึงหู ฝีมือของตูก็เข้าขั้นนี่หว่า

โกลเด้นมาสเตอร์พีซชิ้นสุดท้าย ตุตันคาเมนกวาดไปกินเสียเช่นเคย เครื่องทองชิ้นที่เก้านี้ก็คือ บานประตูทองของหีบศพชั้นต้น ซึ่งมีรูปแกะสลักเทวีไอซิสกางแขน เป็นยามเฝ้าพิทักษ์พระศพ ของตุตันคาเมน ลวดลาย แจ่มกระจ่างแววตาสีหน้า บอกถึงความเมตตาปรานีและเอื้ออาทรต่อยุวกษัตริย์ นี่ละครับ โกลเด้นมาสเตอร์พีซทั้งเก้าชิ้น ของโลกที่ฝรั่งยกย่อง รูปทุกรูปอาจเห็นได้ชัดบ้าง ไม่ชัดบ้างนะครับ ทีนี้ผู้เขียนก็ชักจะชาตินิยมจัดขึ้นมาบ้าง อาไร้...ช่างทองของไทยก็มีฝีมือดี๊ดี ทำไม ไม่เห็นติดอันดับกับเขาเลยซักกะชิ้น คราวหน้าถ้ามีโอกาส ผู้เขียนอาจจะค้นเรื่องเครื่องทองชิ้นแรก ของไทยมาให้อ่านกันบ้างนะครับ.

ทีมงาน ต่วย\'ตูน และปืนไทย จิตอารี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น