ในเชิงเศรษฐศาสตร์ คนที่ทำมาหากิน โดยสุจริตเนี่ยนะ จะมีรายได้เข้ากระเป๋า มาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกเรียก รายได้ที่ต้องออกแรง หรือภาษาปะกิตใช้ให้เท่ๆเข้าไว้ว่า Earned Income คือ รายได้ทั้งหลายแหล่ที่พวกเรา ต้องลงทุนลงแรง ทั้งแรงกายและแรงสมอง ให้ได้มาซึ่งรายได้ ก้อนนี้ เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน อาชีพที่ทำให้ได้ "รายได้ที่ต้องออกแรง" เช่น เป็นข้าราชการก็ดี เป็นนักกีฬาก็ใช่ หรือเป็น พนักงาน ซึ่งกว่าจะหาเงินได้ "เลือดตาแทบกระเด็น" ไม่ใช่ กระดิกทีนเฉยๆแล้วมีคนเอาเงินมาประเคนให้ที่ไหนล่ะ
และถ้าใครฉลาดล่ะก็ ยาม มีรายได้เข้ามาควรรู้จักเก็บหอมรอมริบและเก็บเล็กผสมน้อย เพราะเงินออมที่เก็บไว้จะทำให้ท่านมีรายได้ส่วนที่ 2 ซึ่งเรียกว่า รายได้ที่ไม่ต้องออกแรง หรือ Unearned Income ได้แก่ ค่าเช่าจากบ้านช่องห้องหอที่ซื้อไว้แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ ก็เลยปล่อยให้เช่าอะไรเงียะ, หรือรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลจากเงินสะสมในบัญชี ธนาคาร, เอาเงินไปซื้อสลากออมสิน หรือซื้อพันธบัตรเก็บไว้
เหตุนี้ คนมองการณ์ไกลจะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน แม้ต้องทำงานตัวเป็นเกลียว แต่ถ้าทำงาน ไปเก็บเงินไป เราก็มีความสุขที่มั่นใจได้ว่า มีหลักประกันในอนาคตตามสมควรไง ดังนั้น พอมีรายได้ก็ไม่ควรเอาแต่ใช้ ใช้ ใช้ จนลืมเก็บ ถ้าเกิดชะล่าใจในเรื่องนี้เมื่อไร "โอกาสในการเก็บเงิน" อาจหลุดลอยไปก็ได้
พูดเรื่องรายได้และการออมทรัพย์แล้ว ก็ต้องพูดถึงแรงบันดาลใจที่ช่วยทำให้เราเป็น คนประหยัดด้วยเลยแล้วกัน เพราะแรงบันดาลใจเนี่ยนะ มีแต่จะสร้างเสริมให้พวกเรา มีหลักประกันชีวิตในภายภาคหน้า ใน วิธีสร้างแรงบันดาลใจ (9 Ways To Stay Motivated) บอกว่า หนึ่งในอุปสรรคของความสำเร็จ คือขาดแรงบันดาลใจที่จะทำนั่นทำนี่ หรือทำงานทำการให้ได้ผลตามที่ปรารถนานั่นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อไรก็ตามที่คุณเริ่มไฟมอด อ่อนล้า งั้น มองหาวิธีสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง กันดีกว่า เริ่มจาก...
1. หากรู้สึกเหนื่อยหน่ายหรือเบื่อขึ้นมา เมื่อไหร่ ก็หาหนังสือมาอ่านเพื่อสร้าง แรงบันดาลใจกันเหอะ หนังสือหนังหาหรือแม้แต่ ข่าวสารจากโทรทัศน์และวิทยุเนี่ย ถ้าเราไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ตั้งใจอ่าน, ดู และฟังแต่รายการที่บอกถึงช่องทาง ทำกินหรือช่องทางสร้างเงิน รับรองเดี๋ยวไอเดียบรรเจิดเองแหละตัว
2. เปิดหูเปิดตาและเปิดใจคุยกับคนที่สามารถช่วยเป็นแรงบันดาลใจ ให้คุณได้ จะดีมากๆ การได้พูดคุยกับคนที่ผ่านประสบการณ์ด้านต่างๆมามากๆน่ะคุ้ม (กับเวลาที่ต้องเสียไป) จะตาย แล้วอย่าลืมเก็บประสบการณ์ที่ดีๆของคนอื่นมาเป็นบันได ในการก้าวไปให้ถึงจุดหมาย ของคุณด้วยนะ
3. เขียนถึงสิ่งที่คุณอยากทำหรืออยากมี ในอนาคต แล้วหาข้อมูลว่า ทำอย่างไร ถึงจะได้สิ่งนั้น เช่น อยากมีบ้าน เพราะถือว่าบ้านคือสัญลักษณ์ของ ความสำเร็จ ก็เริ่มวางแผนซะ ตั้งแต่วันนี้เลยว่า ทำอย่างไรถึงจะมีบ้านได้ เขียนเป็นบันทึกช่วยจำก็ได้ว่า ข้อ 1, 2, 3 ทำไงถึงจะมีบ้านเป็นของตัวเอง แล้วก็ทำตามนั้น เชื่อดิ ความสำเร็จ ย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม บ๋าย บาย.
"คนสมถะ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น