++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

ใจดำไปหน่อยหรือเปล่า ท่านนายกฯ (และคนไทยส่วนหนึ่ง)

ใจดำไปหน่อยหรือเปล่า ท่านนายกฯ (และคนไทยส่วนหนึ่ง)
โดย ราวี เวียงพยัคฆ์ 3 มกราคม 2554 15:53 น.
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เฉลิมฉลองศักราชใหม่ 2554 กับธรรมชาติอันสวยสดงดงามพร้อมครอบครัวที่น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก คนไทย 7 คนก็กำลังรับศักราชใหม่ในคุกกัมพูชา โทษฐานรักชาติจนป่วนอย่างที่แม่ทัพภาค 2 ของไทย เซ็งในอารมณ์

อาการรักชาติจนป่วนของพวกเขา คนไทยทั้ง 7 คนนั้น เกิดขึ้นจากชาวบ้านบ้านโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ร้องเรียนว่าที่ดินของพวกเขามีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ตั้งแต่ปี 2517 ขณะที่ยังขึ้นอยู่กับจังหวัดปราจีนบุรี ที่ดินตรงนั้นชาวบ้านใช้เป็นที่ทำกิน ทำไร่ทำนามาตลอด บัดนี้ถูกทหารกัมพูชาเข้ามายึดครอง

ข้อเรียกร้องของชาวบ้านทางการไทยไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมาถึงนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวนักต่อสู้ในเรื่องการปราบปรามคอร์รัปชัน และดินแดนพิพาทไทย-กัมพูชา นายวีระให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบให้รู้จริง เพื่อจะได้ผลักดันรัฐบาลให้ความสนใจในเรื่องนี้ต่อไป

นายวีระ สมความคิด ถูกจับในที่นาของคนไทยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2553

เมื่อถูกปล่อยตัวออกมานายวีระ ก็ไม่ได้เลิกล้มความตั้งใจ จนกระทั่งวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ได้ลงพื้นที่ไปอีกครั้ง คราวนี้เดินทางไปเป็นคณะ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เดินทางไปด้วย และพวกเขาก็ถูกทหารกัมพูชาจับกุม และนำตัวขึ้นศาลกัมพูชาที่กรุงพนมเปญ

ทันทีที่คณะคนไทย 7 คนถูกทางการกัมพูชาจับ ทางการไทยก็พยายามที่จะให้ความช่วยเหลือ โดยกองทัพภาคที่ 2 กองกำลังบูรพาพยายามเจรจากับทหารกัมพูชาที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน แต่ไม่เป็นผล นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เดินทางไปพบ ฮอร์นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แต่ก็ล้มเหลว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของเรา โทรศัพท์คุยกับฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ก็ล้มเหลวอีก แถมฮุนเซนบอกด้วยว่า เป็นเรื่องของศาลซึ่งเขาไม่มีทางที่จะแทรกแซงได้

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ ก็ดี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ก็ดี และแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดี ต่างทำตัวเป็นทนายหรือพยานให้กับฝ่ายกัมพูชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ บอกกล่าวให้ชาวโลกรู้ว่าคนไทยทั้ง 7 คนนั้นรุกล้ำดินแดนกัมพูชาเข้าไปจริงๆ ถูกจับในดินแดนของกัมพูชาจริงๆ

แม้กระทั่งอารมณ์ความรู้สึกของสื่อ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่า คณะคนไทย 7 คน รุกล้ำดินแดนกัมพูชาเข้าไปจริงๆ คนเหล่านี้ทำให้สัมพันธไมตรีอันดียิ่งระหว่างไทย-กัมพูชาเสื่อมโทรมลง คนเหล่านี้รักชาติ คลั่งชาติจนป่วน จนทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา

จนกระทั่งลืมแสวงหาข้อเท็จจริงว่า จุดที่คนไทย 7 คนถูกจับอยู่ที่ไหนกันแน่ คนไทยทั้ง 7 คนซึ่งจอดรถไว้ที่ถนนศรีเพ็ญ แล้วเดินเข้าไปในทุ่งนาจนกระทั่งถูกจับมีเจตนาอะไร มีอาวุธครบมือที่จะไปยึดครองที่ดินของกัมพูชาได้หรือไม่ (สมมติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของกัมพูชาจริง) ถ้าหากที่ดินดังกล่าวเป็นของกัมพูชาจริง ทำไมคนไทยที่บอกว่าได้ถือครองที่ดินได้เอกสารสิทธิซึ่งออกให้โดยรัฐบาลไทยมา ตั้งแต่ปี 2517 ได้มาอย่างไร?

เราไม่ได้แสวงหาข้อเท็จจริงเหล่านี้กันเลย

ในทางตรงข้าม เรากลับเกรงอกเกรงใจกัมพูชาตั้งแต่ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารที่จะต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย จนกระทั่งแม่ทัพนายกองในกรุงเทพฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ดูไม่ใจดำไปหน่อยหรือครับ คนไทย 7 คนถูกเขมรจับไปขังคุก นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยกลับไปดูน้ำตกอย่างชุ่มฉ่ำใจไม่ทุกข์ไม่ร้อนแม้สัก นิดเดียว ทั้งที่หนึ่งในเจ็ดคือคนใกล้ชิด คือคนสำคัญคนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ไว้วางใจให้ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนนายทิวา เงินยวง ที่เสียชีวิต

พรรคประชาธิปัตย์ยังงงและสับสนอยู่ว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ทะลึ่งไปให้กัมพูชาจับทำไม ทำไมไม่รอเฉลิมฉลองศักราชใหม่ที่กรุงเทพฯ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอันหรูหราอย่างชาวพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นๆ

ไปบ้าชาติ รักชาติหรือคลั่งชาติอย่างไอ้พวกบ้าทั้งหลายนั่นทำไม? สมน้ำหน้ามันที่ถูกจับ

โดยที่ไม่คิดแม้กระทั่งว่า บ้านพี่เมืองน้องหรือมิตรประเทศกัน เขาทำกันอย่างนี้หรือ คนไทยทั้ง 7 คนที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ไม่มีอาวุธติดตัวเลยสักนิด ถ้าหากทหารกัมพูชารู้หรือเข้าใจว่า คนไทยทั้ง 7 คนล่วงล้ำเข้าไปในดินแดนของเขา ก็บอกกล่าวกันดีๆ ให้ถอยออกไปเสีย หรือถ้าหากเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยไม่รู้ไม่เข้าใจ ตัวนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาก็สั่งการบอกกล่าวได้ว่า ปล่อยคนไทยทั้ง 7 คนนี้ไปเสีย ส่วนเขตแดนไทย-กัมพูชา บริเวณดังกล่าวเป็นอย่างไรกันแน่ ปล่อยให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการทั้งสองประเทศ

แค่นี้ก็จบ

แต่เรื่องไม่จบก็เพราะฮุนเซนมันรู้กึ๋นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย รู้ว่าเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว รู้ว่าทุกอย่างต้องใช้เวทีการเจรจา แม้กระทั่งที่ดินรอบเขาพระวิหารที่กัมพูชามาสร้างถนน ตลาด วัด ไทยก็ใช้วิธีเจรจา ทำหนังสือประท้วง (ดูเหมือน 11 ครั้งแล้ว)

ใจกล้า หน้าด้านเสียอย่าง ก็ชนะไทยแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น