ฟังแล้วเหมือนกำลังก้าวข้ามปัญหาในปัจจุบันและก้าวสู่อนาคตที่ดีของสังคมไทย
การ ปฏิรูปหรือการปฏิวัติดังกล่าว
จะเกิดขึ้นได้ก็เนื่องจากทุกภาคส่วนในสังคม เห็นพ้องต้องกัน
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และมีภาครัฐ
ผู้ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฏหมาย
เป็นผู้ดำเนินการรวบรวมความคิดเห็นและนำเสนอต่อประชาชนทุกภาคส่วน
และนำข้อสรุปดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมได้
ดังนั้นรัฐบาลและรัฐสภา จึงยังคงเป็นหัวใจหลักในการดำเนินการดังกล่าว
**แล้วเรายังคงพึ่งพา รัฐบาลปัจจุบันได้หรือไม่ **
นายกรัฐมนตรี ที่ดีเพียงคนเดียว ไม่สามารถขับเคลื่อนรัฐบาลไปข้างหน้าได้
ถ้าไม่ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรีและสส. ที่ดีด้วย
ดังเห็นได้จากปัญหาในปัจจุบัน
สส. ในสภาปัจจุบัน ถ้าไม่ใช่ญาติ พี่น้อง ก็คนสนิท ของ สส.
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อสิทธิขายเสียง
และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี เครือข่ายเหล่านี้
ได้ครอบครองตำแหน่งมาเป็นระยะเวลานาน
และได้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้ดำรงตำแหน่งเพื่อประโยชน์ของคนส่วนรวมและ
กำหนดทิศทางที่ถุกต้องต่อการพัฒนาประเทศ
สส.เหล่านี้ทำได้เพียงเพื่อกำหนดทิศทางเพื่อประชานิยม
โดยการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาท้องถิ่น
และเพื่อให้ตอบแทนโดยการเป็นฐานเสียงต่อไปในอนาคต
ดังนั้นไม่ว่าการ ปฏิรูปหรือการปฏิวัติดังกล่าว
จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องเริ่มจาก 2 ส่วนหลักคือ
ภาค ประชาชนที่เข้มแข็ง มีผู้นำที่ทำเพื่อประชาชนและเข้าใจโครงสร้างสังคม
, การเมือง และเศรษฐกิจ
ภาครัฐฯ ที่มีนายกฯ และคณะรัฐมนตรี ที่สังคมยอมรับ ไม่ได้เป็นตัวแทนฯ
จากพรรคการเมืองใด
สุดท้ายแล้วเราจะได้ภาครัฐ ดังหวัง มาได้อย่างไรในภาวะที่ไม่ปกติ
ก็คงคาดหวังในใจให้ได้ภาครัฐ ดังหวัง มาได้ด้วยวิธีไม่ปกติ
แต่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
บ,ใบไม้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น