ทำไมใช้วิธีสัมภาษณ์ตัวเองอีกแล้ว เลียนแบบอาจารย์แก้วสรร อติโพธิเหรอ?
- ไม่เกี่ยว สิบยี่สิบปีก่อนก็เคยใช้วิธีการนี้ ไม่มีอะไรหรอก
แบบนี้แหละดิบๆ ตรงไปตรงมา นานๆ ใช้แบบนี้ที
งั้นเข้าเรื่อง คุณคิดว่าสุดยอดแล้วบทเรียนของเมษา-พฤษภาเลือด 53
คืออะไร แบบชัดๆ น่ะ อย่าเล่นลิ้น?
- ไม่เล่นลิ้นนะ สุดยอดของบทเรียนเหตุการณ์เมษา-พฤษภาเลือด 53
ก็คือการไม่รู้จักสรุปบทเรียนจากเหตุการณ์เมษาเลือด 52
ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ไง
วันนี้ถ้าไม่รู้จักสรุปบทเรียนอีกประวัติศาสตร์มันก็จะซ้ำรอยอีก
เอาแบบเป็นกรณีศึกษาหน่อยสิ
- ก็ได้ 1) รัฐบาลไม่รู้จักสรุปบทเรียน 2) คิดแคบวิธีคิดผิด
คิดว่าประเทศนี้ตัวปัญหาคือพวกเหลือง พวกแดง ตัวเองไม่เกี่ยว
ข้อมูลข่าวสารก็ไม่เพียงพอ 3) อำนาจรัฐอ่อนแอล้มเหลว โดยเฉพาะตำรวจ 4)
นายกฯ และรองนายกฯ ด้านความมั่นคงอ่อนด้อยประสบการณ์
ไม่รู้จักปรึกษาผู้ใหญ่ทั้งในพรรค (ประชาธิปัตย์) และนอกพรรค
5)กองทัพไม่เป็นเอกภาพหน่อมแน้มไปหน่อย 6) ขบวนการ
องค์กรสันติวิธีของบ้านเรามีปัญหา โอ๊ยยยย..อีกหลายข้อ
ข้อมูลเบื้องต้นตั้งแต่ 12 มี.ค. 53 จนถึงวันนี้มีคนตาย 88 คน
บาดเจ็บอีกประมาณ 1,900 คน แต่นายกฯ
อภิสิทธิ์ยังได้รับแรงสนับสนุนอย่างแข็งขันนะ
- ไม่ได้ว่าอะไรนะ ส่วนตัวผมก็เห็นใจ สงสารท่าน
แต่เรื่องบ้านเมืองต้องแยกออก
ใช่หรือไม่ว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้บกพร่อง
ผิดพลาดอย่างที่คุณกำลังกล่าวหา วิพากษ์วิจารณ์
- ผมยังยืนยันว่าแม้ท่านนายกฯ จะทำดีที่สุดแล้ว แต่ 2 เดือนเศษ
รัฐบาล กองทัพก็ทำพลาดเยอะ แต่อย่าให้พูดตอนนี้เลย ตอนนี้ที่รัฐบาล นายกฯ
ได้รับความเห็นใจ เพราะต้นทุนท่านนายกฯ อภิสิทธิ์สูงมาก
ที่สำคัญที่สุดผมอยากจะบอกว่า
ความชั่วช้าเลวร้ายของคนเสื้อแดงที่ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง
ก่อการจลาจล ปล้นบ้านปล้นเมืองมันได้กลบเกลื่อนความผิดพลาดของรัฐบาลซะจนมองแทบไม่เห็น
แต่ก่อนถ้าเกิดเหตุประท้วงเผาเบ้านเผาเมือง คนตายแค่ 10-20 คน
ผู้นำรัฐบาลต้องไปแล้ว
ดังนั้นครั้งนี้น่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ของสังคมหรือเปล่า?
- ผมยังไม่เชื่อขนาดนั้นนะ ไม่ใช่นวัตกรรมอะไรทั้งนั้น
แต่น่าจะเป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและชะตากรรมบ้านเมืองมากกว่า...เป็นเรื่องของจังหวะบ้านเมืองที่ต้องเป็นอย่างนี้
กองทัพแหยงคำว่าปฏิวัติรัฐประหาร
ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่มีใครกล้าคิดกล้าทำนอกกรอบ
มีแต่แอบคิดแอบฝันแอบจินตนาการ บวกกับตัวนายกฯ
อภิสิทธิ์ท่านมีต้นทุนเหลือพอที่พอจะประคับประคองสถานการณ์บ้านเมืองได้...
ดังนั้นตอนนี้คนที่คิดว่าบ้านเมืองจะพลิกโฉมไปสู่การผ่าตัดใหญ่
สุดท้ายก็กินแห้ว บ้านเมืองฝีแตกจริงแต่เลือดกับหนองปนกันมั่วไปหมด นายกฯ
อภิสิทธิ์ก็ได้แต่ให้เรากินยาแก้ปวดไปเรื่อยๆ...
ฟังคุณพูดมานี่ รู้สึกวังเวงนะ...
- ไม่ทราบครับ แต่ผมรู้สึกคล้ายๆ
ว่าอยากจะไปบวชซักเดือนครึ่งเดือน สงบสติอารมณ์
ผมว่าสุดท้ายมันต้องธรรมาธิปไตย...
เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไปบวช ขออีก 2 เรื่องสำคัญ เรื่องเสธ.แดงก่อน
คุณคิดว่าใครสั่งปลิดชีวิตเสธ.แดง พวกเหลือง พวกแดง พวกน้ำเงิน...
อย่าไปแยกสีให้ปวดหัวเลยครับ กรณีเสธ.แดงผมว่ารัฐบาล กองทัพ รู้ดี
แต่ประสาชาวบ้านอย่างเราก็วิเคราะห์กันไป สรุปว่ามี 2 ทฤษฎี ทฤษฎีแรก
เชื่อว่าสีเขียวสั่งเก็บเพื่อปิดปากเสธ.แดงที่รู้ความลับหลายเรื่องของกองทัพ
ผู้นำกองทัพ ทฤษฎีที่สอง ฝ่ายเสื้อแดง หรือแดงตัวพ่อสั่งเก็บ
เพราะเห็นว่าเสธ.แดงโอเวอร์ รีแอ็กเกินไปแล้ว มากเกินไปแล้ว คุมยากแล้ว
เสือกรู้ความลับกูอีก..
วันนี้ผมเชื่อตามทฤษฎีหลังนะ แม่ทัพเสื้อแดงสั่งเก็บเสธ.แดง
รายละเอียดวางแผนอย่างไร...คุณย้อนไปดูวันเกิดเหตุ จุดเกิดเหตุ
ต้นเหตุการสัมภาษณ์เอาเอง
แล้วเรื่องขบวนการลอบสังหารผู้นำฝ่ายบริหาร ฝ่ายต่างๆ ล่ะ จริงไหม
ปล่อยข่าวสร้างราคากันรึเปล่าเห็นพรรคคุณก็ผสมโรงกับเขาด้วย?
- พวกผมพูดเรื่องเผาบ้านเผาเมือง การวินาศกรรม การลอบสังหารก่อน
ศอฉ. ก่อนรัฐบาลพูดตั้งหลายเดือน เขามาผสมโรงกับเราต่างหาก (555)
การลอบสังหารนี่เป็นแผนการหนึ่งของปฏิบัติการแดงสยองหนนี้...หลายฝ่ายเชื่อว่าตอนนี้แผนการลอบสังหารยังไม่ถูกยกเลิกนะ
งั้นใครบ้างที่ตกเป็นเป้าสังหาร
- ข่าวผมตอนแรกนี่มี 2 อ. ครับ อภิสิทธิ์กับอนุพงษ์
วันก่อนคุยโทรศัพท์กับอาจารย์ปราโมทย์ (ขอปิดนามสกุล)
อาจารย์ปราโมทย์บอกว่าข้อมูลของท่านมี 4 คนคือ 1) อภิสิทธิ์ 2) สุเทพ 3)
กษิต 4) เนวิน
ถ้าจริงอย่างคุณว่า แสดงว่าทุกอย่างถูกวางแผนมาอย่างดี..
- โธ่คุณ
ผมพูดไปหลายครั้งแล้วว่าเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเมื่อ19-20
พ.ค.น่ะไม่ใช่อาฟเตอร์ช็อก แต่เขาเตรียมการไว้แล้ว
เอาเป็นว่าฝ่ายกองทัพแดงน่ะเขา เตรียมการทำศึกทำสงครามหนนี้มาเป็นปีๆ
เขามีมากกว่าแก้ว 3 ประการ แก้ว 3 ประการตามทฤษฎีของเหมาเจ๋อตงคือ พรรค,
มวลชน หรือแนวร่วมและกองกำลัง แต่กองทัพแม้วมีแก้วอีก 2
ประการคืออะไรรู้มั้ย เงินกับสื่อไง สรุปว่าเขามีแก้ว 5 ประการนะ 1) พรรค
2) มวลชน 3) กองกำลัง 4) เงินและ 5) สื่อ..ทั้งในประเทศต่างประเทศ..
ตกลงบ้านเมืองเราจะไปทางไหนกัน
- ไปข้างหน้าสิครับ แต่ข้างหน้ามันมีทางหลายแพร่งให้เลือก
จะไปทางไหนก็แล้วแต่พี่น้องคนไทย บ้านเมืองมันขนาดนี้แล้ว..
แล้วคุณเห็นว่าควรจะไปแพร่งไหน...
- แพร่งที่ต้องผ่าตัดใหญ่น่ะต้องมากกว่าปฏิรูปปรองดองธรรมดาๆ
แพร่งไหนก็แพร่งนั้นล่ะ แต่พูดก็พูดเถอะวันก่อนโน้น (14 พ.ค.) คุณสนธิ
ลิ้มทองกุล พูดถึงทางออกประเทศไทยว่านักการเมืองต้องถวายคืนพระราชอำนาจ
ประเทศไทยต้องปฏิวัติ ไม่ใช่รัฐประหารนะ ต่อมาคุณเปลว สีเงิน
พูดว่าถึงเวลาต้องงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ล่าสุดเมื่อวันที่ 23
พ.ค.อาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ เขียนบทความเรื่อง
"จดหมายถึงนายกรัฐมนตรีและพี่น้องชาวไทย" เสนอให้นายกฯ ยุบสภา ลาออก
เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง
ทั้งสามท่านคิดไปในแนวทางเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่าสังคมไทยยังแบ๊ะๆ
ทำไงได้ ผมไม่โกหกตัวเองเลยว่า ผมเสียดายที่.....
คุณถึงอยากไปบวช..
แหม! ใจคอคุณจะให้ผมไปบวชจริงๆ หรือ...!?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น