บางครั้ง โลกก็เผชิญกับศัตรูที่ "ไร้ยางอาย" และ "ไร้ศักดิ์ศรี"
สหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับการก่อการร้ายโดยเอาเครื่องบินชนตึก
"เป้านิ่ง" ทำร้ายประชาชนบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง
และไม่มีทางต่อสู้มากมาย
อังกฤษต้องเผชิญกับการก่อการร้ายโดยการวางระเบิดรถไฟใต้ดินหลายจุด
ขนาดประเทศที่เป็นผู้นำเช่นนั้น ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น กลับถูกถล่มขนาดนั้น
หากคิดกันแบบตื้นๆ คิดกันแบบเห็นแก่ตัว คิดกันแบบมักง่าย
ก็อาจจะรู้สึกว่า "ทำไมผู้นำของเราจึงอ่อนแออย่างนี้?"
"ไม่มีแผนป้องกันเลยหรือ ?" "ทำไมไม่จัดการบินลาเดน หรือ อัฟกานิสถาน
ก่อนหน้านี้ ?"
แต่สิ่งที่ชาวอเมริกันได้ทำกันในทันทีคือ การสนับสนุนผู้นำของเขา
สื่อทุกสื่อ ประชาชนทุกคนที่มีหัวใจ "อเมริกัน"
เขาก็ยืนหยัดสนับสนุนผู้นำทันที
เพราะในยามที่ชาติมีศัตรู...สิ่งที่คนในชาติไม่อยากเห็นที่สุด คือ
การแตกความสามัคคี การไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และ
การไม่เดินหน้าด้วยกันไปกับผู้นำ
สถานการณ์บ้านเรา เผชิญกับสงครามที่ผู้ทำการรบ และนำการรบ เป็นคน
"ไร้ยางอาย"
... ทักษิณอ้างเป็นนักธุรกิจที่เก่งที่สุด ทั้งๆ ที่จริงๆแล้ว คือ
นักธุรกิจที่ "โกงเก่งที่สุด" มากกว่า ลองนึกดูครับว่า
มีธุรกิจแข่งขันอะไรบ้าง ที่ทักษิณทำแล้วประสบความสำเร็จ?? พีโอเอส
บัสซาวด์ ชินอินเตอร์ฯ ไปลงต่างประเทศก็เจ๊ง ลงทุนอสังหาฯ
ที่ดูไบก็ช่วงก่อนลูกโป่งแตก เหมืองเพชรก็ปลอมเอาไว้แค่ฟอกเงิน
ทำธุรกิจก็ต้องอาศัยเงินซื้ออำนาจรัฐ
เอื้อให้ได้สัมปทานผูกขาดที่ได้เปรียบ
แต่ถ้าแข่งเสรีแบบเป็นธรรมก็สู้เขาไม่ได้
... เมื่อทักษิณเป็นนักการเมืองก็โกง ซื้อเสียง ดูด ส.ส. เข้าไป
... เป็น รมต. ต่างประเทศ แต่ส่วนตัวก็เริ่มตั้ง "วินมาร์ค" ปี
2537 ปี 2540 ทำงานใกล้ชิดกับ บิ๊กจิ๋ว
(ดังความสนิทสนมที่เราได้เห็นกันในช่วงหลังนี้) ส่ง นายทนง
มือการเงินในกลุ่มชินฯ เป็น รมต. กระทรวงการคลังช่วงลอยตัวค่าเงินบาท
แต่ตัวเองก็ส่งเงินไปทำกำไรค่าเงินบาทนับหมื่นๆ ล้านบาท
ช่วงเศรษฐกิจทรุดที่สุดที่ไทยต้องรับการช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ
ก็คือช่วงที่ทักษิณเป็นรองนายกฯ เมื่อจบตำแหน่ง
เงินสำรองระหว่างประเทศก็เหลือเพียง 7 พันล้านเหรียญ
จนเมื่อรัฐบาลชวนเข้ามาแก้จนทุนสำรองสูงขึ้นมากหลายเท่า
เศรษฐกิจเริ่มอยู่ได้ หนี้ลดลงแล้ว ก็เอาเงินที่โกงค่าเงินบาท
ซึ่งเก็บไว้ที่วินมาร์คนั้นมาซื้ออำนาจ ยึดประเทศ ใช้เงินรัฐ ก็
"ปล้นด้วยปาก" ว่าเป็นบุญคุณส่วนตัว
เมื่อได้พิจารณาดูดีๆ
จะเห็นตรงกับสื่อต่างประเทศที่เคยเปรียบเทียบว่า รัฐบาลทักษิณ เป็น
รัฐบาลตั๊กแตน แต่รัฐบาล ปชป. เป็นรัฐบาลมด ... มดขยันขันแข็ง
ทำงานทั้งวัน เพื่อสะสมอาหาร ... แต่ตั๊กแตนวางอำนาจ
ไม่สร้างหรือสะสมอาหารเอง แต่แย่งอาหารจากมดที่ทำงาน จะเห็นว่า
หลังจากเอาสัมปทานโทรคมนาคมทั้งกิจการโทรศัพท์ และดาวเทียมมาใส่หีบห่อ
แล้วขายให้สิงคโปร์ แล้ว ภารกิจต่อไป คือการเอาพื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร
ไปค้าขายกับสหายฮุนเซน เสียทั้งเอกราชบนแผ่นดิน เสียทั้งทรัพยากรทางทะเล
ปีที่ผ่านมา นายกฯอภิสิทธิ์ได้ทุ่มเทเต็มที่ในการทำงาน
ไม่เน้นการเมืองที่จะต้องล้มคู่แข่งทางการเมือง
แต่ต้องทุ่มเทกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
ซึ่งถือว่าหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี จนเราก็ผ่านมาได้จนแทบไม่รู้สึก
ยอดคนว่างงานเหลือเพียง 1% ขณะที่อเมริกายังว่างงานประมาณ 10%
เมื่อฟื้นแล้ว เศรษฐกิจไทยโตประมาณ 9% คิดเป็นประมาณอันดับ 4 ของโลก
ก็หวังจะกลับมายึดครอง
... เมื่อทักษิณนำม็อบประชาชน ก็ใช้วิธีเลวร้าย คือ
การโจมตีประเทศ ด้วยการสร้าง "ลัทธิไพร่" ทำให้คนไทยหลายคนเข้าใจผิดว่า
คนอื่นดูถูกตนเป็นไพร่ จนเกิดความโกรธเกลียชิงชังกันมากมาย ด้วยความเท็จ
แล้วก็ปลุกให้ประชาชนเกลียดชังทหาร หวังสู้ทหารด้วยมือเปล่า ทั้งๆที่
ทหารไม่เคยเห็นประชาชนเป็นศัตรูเลย ปลอมคลิปเสียงนายกฯอภิสิทธิ์ ว่า
"สั่งฆ่าประชาชน"
แต่ประชาชนก็คงจะเห็นถึงความรักและความอดทนของนายกฯอภิสิทธิ์
รัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร
ก็ไม่เคยลงมือทำร้ายประชาชนมือเปล่าอย่างที่วาดภาพไว้ หากเป็นเช่นนั้น
เมื่อแกนนำมอบตัว ประชาชนก็คงถูกยิงมากมายนับพันๆคน
แต่รัฐบาลก็ต้องจริงจังในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่สร้างความเดือดร้อน
ให้กับประชาชนกลุ่มอื่นอย่างกว้างขวาง
... ทักษิณประกาศสงครามก่อการร้าย โดยส่งสัญญาณว่า
"เกรงว่าหลังสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ จะนำไปสู่สงครามใต้ดิน" นั่น
"ไม่ใช่วิเคราะห์" (เพราะจะเห็นว่า ทหารและเจ้าหน้าที่
ไม่ได้เข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าเลย เมื่อไม่มีผู้ก่อการร้ายแฝงตัว
ทหารก็ไม่มีเหตุให้ใช้อาวุธกับประชาชนดังที่วาดภาพไว้) แต่
"เป็นคำสั่งกดปุ่มระเบิดเวลา" ให้เริ่มสงครามใต้ดิน
ซึ่งก็เป็นช่วงที่ประเทศไทย ยังไม่อยากให้เป็นสงคราม ถือว่าเป็นการ
"เล่นทีเผลอ" (การเผาที่ต่างๆ คุมยังไงๆ ก็คุมได้ไม่หมด
ถ้าคนไทยไม่ช่วยกัน) และ "รังแกประชาชนผู้บริสุทธิ์" อย่างเลวร้ายที่สุด
เผาตึกต่างๆมากมาย กว้างขวาง
เมื่อมองภาพรวมถึงวันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เราถูกกระทำร่วมกัน
อาจเคยมีคำถามมากมายต่อนายกฯอภิสิทธิ์ น่าจะได้เข้าใจตรงกันแล้วว่า
ท่านมองความยากออก และได้ยืนหยัดสู้ต่อปัญหาที่ยากเพียงใด ?
สงครามครั้งนี้มีหลายมิติ เป้าหมายทักษิณ คือ (1)
ทำให้เกิดสงครามประชาชน หวังให้ประชาชนต่อสู้กัน
เพื่อให้เกิดความวุ่นวายเป็นเงื่อนไขให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐ (2)
ให้นานาชาติเห็นว่า หากรัฐบาลลงมือรุนแรง ก็สร้างภาพโหดร้ายกับประชาชน
แต่หากรัฐอดทน เพื่อให้เห็นความเมตตา และความรักสามัคคี
ก็ให้มวลชนข่มเหงชาว กทม. ต่อไป ให้เกิดภาพ "รัฐล้มเหลว"
ซึ่งนั่นก็คือการเสียเอกราชของไทยเสียแล้ว
และยังใช้วิธีที่โหดเหี้ยมเกินมนุษย์
หลอกคนบริสุทธิ์มาใส่เสื้อแดงเป็นโล่มนุษย์ จัดทีมก่อการร้าย
ใช้ทั้งระเบิด เผายาง เผาตึก แล้วหนีกลับไปซ่อนหลังโล่มนุษย์
ใช้เด็กกำบัง ฯลฯ
จึงเป็นศึกที่ยาก ที่ไม่ใช่ใครจะแก้ไขได้ง่ายๆ
หลายคนอาจจะเคยถามมากมาย
คล้ายๆกับที่บางคนอาจจะถามผู้นำประเทศอื่นที่เสียหายจากการก่อการร้ายเช่น
กัน เช่น
"ทำไมนายกฯไม่ทำอะไรเลย ?" หรือ "ทำไมไม่ทำเสียที ?" หรือ
"รัฐบาลน่าจะทำตั้งแต่ตอนต้นๆ ยังไม่มีม็อบมากมายที่ราชประสงค์"
ก็น่าจะคิดได้ว่า หากรีบทำ จะจบจริงหรือ ? จะถือว่า ลุแก่อำนาจหรือไม่ ?
จะทำให้ชาวไทยที่ถูกหลอกให้สวมเสื้อแดงยิ่งปักใจว่ากลุ่มตนไม่ได้รับความ
เป็นธรรมหรือไม่ ? เราคงเห็นแล้วว่า ราชประสงค์เป็นดังเหยื่อเล็กๆ
(ที่น่าสงสาร) ซึ่งเมื่อรัฐบาลดำเนินการสลายก่อนหน้านี้
เราจะเห็นภาพความปั่นป่วนวุ่นวายเร็วกว่านี้หรือไม่ ?
เพราะกองกำลังที่ฝ่ายทักษิณมี ก็จำนวนเดิมนั่นแหละ แต่การตัดสินใจเร็ว
ก็จะอธิบายเรื่องความชอบธรรมเพื่อความเข้าใจกับชาวไทยแดงทั้งแผ่นดินได้
ยากกว่านี้ และโอกาสปรองดองจะน้อยกว่านี้
นี่เราชาวไทยได้เห็นแบบอย่าง ความเข้มแข็งและความอดทนของนายกฯ
ด้วยจิตใจที่สูงส่ง แม้ท่านจะถูกกระทบส่วนตัวถึงบ้านพัก
ได้ช่วยให้คนไทยเรียนรู้ที่จะมีความอดทนต่อกัน
เราได้เห็นความจริงใจในแผนปรองดองแห่งชาติ ...
โดยในยามที่สังคมเริ่มรับไม่ได้กับการข่มเหงคน กทม.
และถึงขั้นมีการบุกรุกโรงพยาบาล นายกฯ อภิสิทธิ์ก็มีน้ำใจเสนอแผนปรองดอง
5 องค์ประกอบ เพื่อหันมาปรองดองกันโดยไม่ต้องรู้สึกไม่ดีต่อกัน
ด้วยความจริงใจ ก็หวังจะช่วยให้ชาวไทยแดงทั้งแผ่นดินจะเห็นความจริงว่า
รัฐบาลเห็นคุณค่าของเขาและรับฟังเขาอยู่เสมอ
ให้โอกาสกลับมาปรองดองโดยไม่สูญเสีย ไม่เสียหน้า ไม่มีใครเป็น
"ชนชั้นไพร่" อีกแล้วในสังคมไทย
และก็น่าจะเป็นหนทางที่จะรักษาชาติไทยให้เป็นหนึ่งเดียวไว้ให้กับลูกหลานของ
เราเหมือนที่บรรพชนได้รักษาสืบๆกันมาด้วยชีวิต
และนานาชาติก็น่าจะได้เห็นภาพของความเมตตา เป็นอารยประเทศ
เป็นรัฐบาลที่เคารพสิทธิมนุษยชน
สหประชาชาติจึงไม่ต้องเข้ามาแทรกแซงการบริหารประเทศของเรา
ศึกครั้งนี้ ทักษิณได้ซุ่มซ่อนทัพ
เพื่อเตรียมเปลี่ยนเป็นกองกำลังข่มเหงชาติมายาวนาน และกว้างขวาง
ภารกิจที่จะรักษาชาติเป็นหนึ่งเดียว
คืนความรักสามัคคีในหมู่พวกพ้องน้องพี่ชาวไทย พยายาม
"รบในสงครามที่ไม่ต้องรบ" เป็นเรื่องใหญ่ของเราชาวไทยทุกคน
และหากเราทุกคนใคร่ครวญให้ดี ไม่คิดขั้นเดียว คิดโดยต้องรู้ว่า
ทักษิณ "ศัตรูของชาติ" วางหมากล้อมทำร้ายประเทศไทยอย่างไรบ้าง
เตรียมรุกแผนขั้นต่อไปอย่างไรบ้าง เราก็จะเข้าใจว่า
ไม่ใช่โจทย์ง่ายหรอกครับ ?
โดยเฉพาะการก่อการร้ายที่ "ไร้ยางอาย" นั้น ป้องกันยากมาก
คนไม่กี่คน สามารถถล่มตึกเวิรลด์เทรดเซ็นเตอร์
ชาวอเมริกันบริสุทธิ์ต้องตายกว่า 3,000 คน หลังจากนั้น
ชาวโลกกี่ล้านคนที่ต้องลำบากมากขึ้นในการเดินทาง แม้กระทั่งที่อังกฤษ
ก็ป้องกันการวางระเบิดรถไฟใต้ดินได้ยากมาก พวกก่อการร้ายไร้ศักดิ์ศรี
ทางเดียวคือ ผู้บริสุทธิ์ต้องสามัคคี ร่วมมือกัน
สงคราม มาถึงยุคของเราแล้ว
เป็นหน้าที่ของรุ่นเราแล้วกระมังที่จะรักษาแผ่นดินไทย พี่น้องไทย
ให้เป็นปึกแผ่น ร่มเย็นเป็นสุขให้ถึงรุ่นลูกหลานของเรา
กับคนไทยร่วมชาติ ไม่มีใครเป็นศัตรูของเรา ต้องรู้กันว่า
"เราต้องรักกัน ร่วมป้องกันศัตรูของแผ่นดิน"
กับศัตรูผู้จงใจก่อการร้ายทำลายประเทศ
เราคงต้องช่วยกันสอดส่องดูแล และแจ้งภัยต่อภาครัฐ
ในสงครามนี้
...ไทยทนขอเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่จะต้อง "สู้" เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย
...ไทยทนขอเป็นคนไทยคนหนึ่ง ขอ "สนับสนุน นายกฯอภิสิทธิ์"
ผู้นำคนดีผู้เข้มแข็งของเราครับ
ไทยทน (รักชาติไทยด้วยใจอดทน)
เป็นกำลังใจอย่างเดียวยังไม่พอ ให้ทุกคนร่วมช่วย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กันอย่างพร้อมเพรียง ด้วย ....http://www.ainews1.com/modules.php?name=Web_Board&file=view&No=239
ตอบลบ