++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

ความลับคับอก (๒-ตอนจบ) - เรื่องหรรษาในแวดวงที.วี



ถาวร ช่วยประสิทธิ์



            ....อีกวิธีหนึ่งที่เขาว่าได้ผลดีเหมือนกัน คือ ยอมเสียค่าโทรศัพท์ไปถามสุ่มไปตามบ้านในตำบลต่างๆ เป็นหย่อมๆทั่วกรุงเทพฯ ถามคนที่รับโทรศัพท์ว่ากำลังดูรายการอะไรของช่องไหนอยู่ หรือไม่ก็ถามรายการที่ดูเมื่อคืนก่อนหรือที่แล้วๆมาว่า ชอบดูรายการอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง เช่น
            "ที่นี่บริษัทวิจัยธุรกิจนะครับ ขอเรียนถามว่า ขณะนี้ท่านกำลังดูรายการทีวีของช่องไหนอยู่ครับ"

            "ถามตะหวักตะบวยอะไรกันคนกำลังนอน อ้อ อยากรู้ว่าบ้านนี้มีคนอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่มีจะได้เข้าขโมยของใช่ไหมล่ะ"
            หรือไม่ก็

            "จะดูรายการอะไรมันหนักกบาลหัวใครล่ะ ไอ้....."

            เขาว่ามีอักวิธีหนึ่งที่ลงทุนน้อยแต่ผลที่ได้รับเชื่อถือได้ วิธีนี้ก็คือ ส่งจดหมายไปยังเจ้าของเครื่องรับทีวีเพื่อให้กรอกแบบสอบถามว่า ชอบดูรายการอะไรของช่องไหนบ้าง และเพื่อไม่ให้เจ้าของเครื่องรับต้องลงทุนซื้อซองและแสตมป์ ก็สอดซองที่จ่าหน้าถึงบริษัทที่ทำการวิจัยอย่างเรียบร้อย พร้อมทั้งชำระค่าแสตมป์ไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่กรอกข้อความแล้วใส่ซองเอาไปหย่อนที่ตู้ไปรษณีย์ก็เสร็จกิจ

             แต่เรื่องมันไม่ง่ายยังงั้นน่ะซีครับ คนไทยเราเป็นโรคขี้เกียจตอบจดหมาย ยิ่งต้องมานั่งนึกว่าจะกรอกข้อความยังไงแล้ว จะต้องเอาไปหย่อนใส่ตู้ไปรษณีย์ ถ้าเป็นตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ริมถนนที่เขาห้ามจอดรถด้วยแล้ว ดีไม่ดีจะโดนใบสั่งเอาเสียด้วยถ้าขืนจอดรถแล้ว มัวแต่นึกว่าจะหย่อนซองลงตรงช่อง กทม. หรือที่อื่นๆ อย่ากระนั้นเลย ขยำมันทิ้งลงตะกร้าไปเลย หรือถ้าจะมีซองตอบรับส่งคืนไปให้ก็อาจมีข้อความเขียนไว้ว่า
            "ทีหลังไม่ต้องมาให้อีกหรอกนะ ตะกร้าที่นี่มันเต็ม คนขนขยะเขาก็ไม่ค่อยมาเก็บเลย"

            ถ้ามันมีข้อขัดข้องหมองใจกันยังงี้ ก็ต้องหาวิธีแก้ด้วยการให้อามิสสินจ้าง ถ้าใครกรอกข้อความส่งคืนไปให้ผู้สำรวจ เขาก็จะจับฉลากว่าใครจะได้รับรางวัลอะไรบ้าง เช่น ตู้เย็น เครื่องรับทีวีสี พัดลม เป็นต้น ถ้าลงมีรางวี่รางวัลอย่างนี้ก็ค่อยพอมีแรง กรอกแบบสอบถามกันหน่อย ยิ่งมีรางวัลรถยนต์สักคันก็จะยิ่งได้ผลมากขึ้น นึกอะไรไม่ออกก็กรอกส่งเดชไปตามเรื่องตามราว ปะเหมาะเคราะห์ดีอาจจะได้รางวัลกะเขามั่ง

            เมื่อใช้วิธีอื่นไม่ได้ผล นักปราชญ์ราชบัณฑิตทางด้านเทคโนโลยีการวัดผลท่านจึงคิดเครื่องไม้เครื่องมือชนิดพิสดาร เอาไปติดไว้ที่เครื่องรับทีวีตามบ้าน เครื่องมือชนิดนี้มันจะบันทึกโดยอัตโนมัติว่าเครื่องนี้เปิดเมื่อไหร่ รับช่องไหนแล้วเปลี่ยนไปรับช่องไหนต่อไป แต่มันคงไม่ได้บันทึกว่าตอนโรงเรียนจะเปิดเทอม เครื่องรับเครื่องนี้มันย้ายสำมะโนครัวเข้าไปอยู่ในโรงจำนำนานเท่าไหร หลงจู๊เขาตีราคาให้เท่าไร

            การที่จะเอาเครื่องสืบราชการลับแบบนี้ไปติดในเครื่องของบ้านไหนก็ไม่ใช่ว่าจะเอาไปติดดื้อๆ แต่ต้องเสียค่าป่วยการให้เขาพอสมควร ทางที่ดีแอบเอาไปติดตอนกลางวัน ตอนที่เจ้าของบ้านไปทำงานหมดแล้ว ติดสินบนให้คนใช้ในบ้านนิดหน่อย ก็สำเร็จ และตอนที่จะเข้าไปถอดเอารหัสเอาผลออกมาก็ไปตอนกลางวันนี่แหละ
   
             ถ้าไปโดนครื่องรับที่ปรับเปลี่ยนช่องด้วยรีโมทคอนโทรล ซึ่งใช้วิธีกดปุ่มเปลี่ยนช่องที่ตัวรีโมท ไม่ต้องลุกขึ้นไปหมุนที่เครื่องรับ เครื่องแบบนี้เจ้าของเขาจะกดปุ่มเปลี่ยนช่องอย่างถี่ยิบ กำลังดูอยู่เพลินๆ พอถึงโฆษณาสินค้าก็กดไปช่องอื่น พอถึงช่องอื่นกำลังโฆษณาสินค้าอยู่อีก ต้องกดต่อไปอีกช่องหนึ่ง บางทีโฆษณาพร้อมกันทั้งสี่ช่อง คนกดรีโมทต้องระบายอารมณ์ด้วยการด่าออกมาดังๆ ด่าตามลมตามแล้งมันไปยังงั้นแหละ ถ้าไม่มีโฆษณาสินค้าแล้วเขาจะเอาเงินจากที่ไหนมาจัดรายการได้ล่ะ

            เครื่องสืบความลับที่เามาติดที่เครื่องรับแบบนี้เข้า ขนาดที่มันเป็นแค่เครื่องมือที่ไม่มีหัวใจ มันก็แสดงอาการเหมือนหัวใจจะวายเสียให้ได้ เพราะมันต้องทำงานจนสับสนทนไม่ไหว ปเหมาะเคราะห์ร้าย อาจต้องส่งไปเปลี่ยนเส้นเลือดเข้าหัวใจที่อเมริกาโน่นทีเดียว

            แต่ถึงมันจะทำงานได้ดี แต่มันก็ไม่สามารถบันทึกได้ว่า ขณะที่เปิดดูช่องไหนนั้นมีคนดูกี่ค เด็กกี่คน  ผู้ใหญ่กี่คน ผู้หญิงกี่คน ผู้ชายกี่คน นักปราชญ์ท่านจึงคิดเครื่องมืออีกเครื่องหนึ่งให้มีที่กดปุ่มด้วยมือปุ่มละคน  หมายความว่า  ปุ่มของใครของมัน เช่น ปุ่มนี้ของพ่อ ปุ่มนั้นของแม่ ปุ่มโน้นของลูก ใครดูช่องไหนก็กดปุ่มของตัวเอง แสดงว่ากำลังดูอยู่ ถ้าลุกเข้าห้องน้ำหรือเผลอหลับไปไม่ได้กดปุ่ม ก็แสดงว่าไม่ได้ดูตอนนั้น  อย่างนี้ก็จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแน่นอน แต่ถามว่าใครในโลกนี้บ้างที่ขยันและซื่อสัตย์อย่างนั้น ถึงแม้จะมีอามิสสินจ้างให้ทำก็เถอะ ถ้าบังเอิญมีคนเช่นนี้อุบัติขึ้นมาในโลกสักคน ก็ควรที่จะเรี่ยรายกันสร้างรูปปั้นรูปเหมือนเอาไว้บูชาให้เกิดสิริมงคลกันทั่วไป

            พิจารณากันตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ก็ยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไร จึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า เวลาใดใครดูทีวีรายการใดบ้าง เพื่อสปอนเซอร์เขาจะได้จ้างโฆษณาสินค้าของเขาในรายการที่มีคนดูมากๆ และคนทำรายการเขาจะได้รู้ว่ามีคนดูรายการของเขามากน้อยเท่าไร เพื่อที่จะได้เอาไปปรับปรุงรายการของเขา เพื่อแข่งขันกับคนอื่น มันจนใจที่คลื่นโทรทัศน์ที่ส่งออกอากาศไปแล้ว ไปเข้าเครื่องรับของชาวบ้านนั้น ไม่สามารถติดมิเตอร์เหมือนไฟฟ้าหรือน้ำประปาว่า เปิดูรายการช่องใดนานเท่าไรได้ มันจึงกลายเป็นความลับคับอกจนกระทั่งทุกวันนี้

            ถ้าจะให้ผมเป็นคนไขความลับ ผมขอแนะนำว่า ให้ไปนิมนต์อาจารย์ท่านที่สามารถบอกเลขท้ายงวดต่อไปได้อย่างแม่นยำ ขอให้ท่านช่วยนั่งเทียนเขียนข้อมูลให้ รับรองว่าคราวนี้ได้ผลแน่ เชื่อผมเถอะ



ที่มา  ต่วยตูน เดือนมีนาคม ๒๕๓๑ ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๗  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น