++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557

อำนาจสวดมนต์กับเวทย์มนตร์คุณไสย




อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ด้วยตัวอาตมาเอง
ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ

ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร
ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูติผีวิญญาณ
ตลอดจนชาวบ้านที่มีเวทมนต์คาถา

และเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น
อาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพัง
ในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนตร์คาถาอาคมใดเลย

นอกจากคำว่า

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใด
ก็จะกล่าวเพียงคำนี้ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมา
อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยาม ในดงพญาไฟขณะนั้น
ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย
อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน
มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้
เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น

อาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี และ ณ ที่แห่งนั้น
อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์

มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว
ชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล
นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทมนตร์คาถาอาคม
เล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้า
และมักจะทดสอบเวทมนตร์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด
ณ บริเวณนี้เป็นประจำ เขาเล่าให้อาตมาฟังว่า
เขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน
แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย
เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น
จะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถที่จะต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่
นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วัน เต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนู
หรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบ

ตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมา
ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย

วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา
อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทมนตร์คาถา หรือคุณไสยใด
นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก
ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา
จึงกลับมายังเขาซึ่งเป็นผู้กระทำ
ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า
อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ ทำให้นายผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมา
จึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนตร์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำร้ายได้

อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า
พุทธังสะระณัง คัจฉามิ
ธัมมังสะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลยอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ

นายผล เมื่อได้ฟังดังนี้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า ข้าแต่ท่านอาจารย์
ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้ ก่อนที่ท่านจะจำวัด
จงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่
ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนตร์ของท่านเช่นนี้
จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนตร์คาถาในภูติผีปิศาจ
ของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าขอรับรองว่า
จะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด
เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์
นายผลจึงได้ลากลับไป
ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนตร์ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ
เมื่ออาตมานอนหลับไป อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก กุกกัก ดังขึ้นมา
จึงได้จุดเที่ยนและพบตะขาบใหญ่ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัว
ของอาตมามาก อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี
และด้วยสัญชาติญาณจึ่งกล่าวคำสวดมนตร์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้
เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป
จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ

ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า
เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพักพำนักอยู่
อาตมาบอกว่าอาตมาได้ตื่นมาและตกใจ
จึงได้สวดมนตร์ภาวนา ตะขาบตัวนั้น ก็อันตรธานหายไป

นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า
อำนาจเวทมนตร์คาถา และคุณไสยใดๆ ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้
ก็เพราะอำนาจแก่การสวดมนตร์ภาวนาของท่าน
เป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ ได้

ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน
เพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ว่า
เหล่าพรหมเทพได้มาฟังการสวดมนตร์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้
เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้
ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย
ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน

ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก อุบาสิกา ในที่นั้น

เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้วต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า
อานิสงส์ของการสวดมนตร์มีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก

จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น