++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557

วันเวลา...ของชีวิตที่เหลืออยู่


คนเราเกิดมาอาจจะไม่มีความเท่าเทียมกันในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นฐานะความเป็นอยู่ โอกาสในชีวิต ตลอดจนรูปร่างลักษณะบุคลิกภาพเฉพาะตน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้เท่าเทียมกัน คือเวลา ปัญหาอยู่ที่ว่าใครจะตระหนักถึงคุณค่า ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด

1 ปี = 365 วัน
5 ปี = 1,825 วัน
10 ปี = 3,650 วัน
20 ปี = 7,300 วัน
40 ปี = 14,600 วัน
60 ปี = 21,900 วัน
70 ปี = 25,550 วัน

ถ้าคิดอายุความสามารถของร่างกายที่ 60 ปี ซึ่งเป็นอายุที่ต้องเกษียณอายุตัวเองจากการทำงาน ถ้าเราเริ่มทำงานที่อายุ 21 ปี คนเราจะมีเวลาทำงานประมาณ 14,600 วัน หรือ 2,080 สัปดาห์ และถ้าเราใช้เวลาพักผ่อนไป 1/3 ของวัน (8 ชั่วโมง/วัน) ในระยะเวลา 40 ปี เราจะใช้เวลาพักผ่อนไปถึง 4,867 วัน เหลือเวลาทำสิ่งต่าง ๆ เพียง 9,733 วัน

คนเราไม่ได้คิดว่าสักวันหนึ่ง ชีวิตจะสิ้นสุดลง จึงปล่อยโอกาสอันดีงามให้ผ่านไปอย่างไม่แยแส ในวัยหนุ่มสาวที่แข็งแรงกลับปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ในเวลาเรียนที่มีค่าอย่างมากกับอนาคตของตนเอง กลับมองออกไปนอกหน้าต่าง สร้างวิมานในอากาศปล่อยให้คำสอนของครูอาจารย์ เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา ในช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การพักผ่อน กลับเที่ยวเตร่จนดึกดื่น หรือดื่มจนเมามาย แล้วตื่นขึ้นมาปวดหัวหรือตื่นสายในวันรุ่งขึ้นหมดแรงที่จะคิดสร้างสรรค์ผลงานจวบจนแก่ชรา อายุมากขึ้น ภาพอดีตความหลังที่ผ่านมาย้อนให้คิดคำนึงแม้จะพยายามไขว่คว้า กาลเวลาที่ผ่านไปก็ไม่อาจหวนคืน

คนเราเกิดมาทุกคนกำลังเดินทางไปสู่จุดสุดท้ายของชีวิต นั่นคือจะต้องจากโลกนี้ไปอย่างแน่นอน จะเร็วหรือช้าเท่านั้น ไม่มีใครหนีพ้นกฎของธรรมชาติข้อนี้ไปได้ คนเราเมื่อเกิดมาแล้ว ก็จะเจริญเติบโตไปตามช่วงวัยต่าง ๆ ในขณะที่อายุเริ่มจะมากขึ้น ความแข็งแรง และความสามารถทางด้านร่างกายก็เริ่มลดลง โรคภัยไข้เจ็บก็จะมาเยี่ยมเยียน ซึ่งคำภีร์อินเดียโบราณแบ่งช่วงวัยและอายุไว้ดังนี้

1.วัยแรกเกิดถึง 10 ปี เป็นวัยเดียงสา พ่อแม่ต้องฟูมฟักเลี้ยงดู
2.อายุระหว่าง 11-20 ปี เป็นวัยอยากเล่นอยากเรียนรู้ กำลังเจริญเติบโต
3.อายุระหว่าง 21-30 ปี เป็นวัยที่เรียกว่าชีวิตสวยงาม ร่างกายแข็งแรง
4.อายุระหว่าง 31-40 ปี เป็นวัยแห่งการทำงาน ยังมีเรี่ยวแรงกำลังวังชา
5.อายุระหว่าง 41-50 ปี เป็นวัยแห่งการใช้ปัญญา และเริ่มที่จะแก่
6.อายุระหว่าง 51-60 ปี เป็นวัยที่ร่างกายเสื่อมถอย
7.อายุระหว่าง 61-70 ปี เป็นวัยที่ร่างกายเสื่อมถอยมาก
8.อายุระหว่าง 71-80 ปี เป็นวัยที่ใกล้ชราภาพมากแล้ว หลังเริ่มงอ
9.อายุระหว่าง 81-90 ปี เป็นวัยหลง ๆ ลืม แสดงถึงสังขารที่เสื่อมถอยและเริ่มจะทักทายความตาย
10.อายุระหว่าง 91 ปี ขึ้นไป เป็นวัยที่หมดความรู้สึกหรือตายด้าน ทุกกรณี

ที่กล่าวมาเป็นช่วงของชีวิต ที่ทุกคนจะต้องประสบพบเจอหากมีชีวิตยืนยาวแต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่เกิดจะมีชีวิตยืนยาวเท่ากันทุกคน หลายคนต้องจากไปก่อนวัยอันควร แม้ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อก็ไม่สามารถที่จะร้องขอได้ เวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต เวลาที่ผ่านไปหรือสูญเสียไป จะสูญเสียตลอดกาล เพราะฉะนั้นจงใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น