"ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" อดีตมือเศรษฐกิจไทยรักไทย หลังจากเว้นวรรคการเมือง ได้รับเชิญเป็นที่ปรึกษาธุรกิจยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ข้อมูลต่างๆ จึงเป็นประเภท "ของจริง"
สามสี่วันก่อนได้ปาฐกถาหัวข้อ "ก้าวใหม่ประเทศไทย เดินหน้าสู่โหมดปฏิรูป สู่การปฏิรูปที่ปฏิบัติได้จริง" ได้ให้มุมมองเศรษฐกิจไว้อย่างน่าสนใจ
เรื่องนี้อาจจะพูดกันมาบ้างแต่คนระดับ "ดร.สมคิด" พูดแล้วยังไงก็ต้องฟัง
ดร.สมคิดบอกว่า ขณะที่คนกำลังถกเถียงกันว่าเศรษฐกิจไทยกำลัง "ถดถอยหรือเปล่า" ผมบอกว่า ไม่เพียงถดถอยแต่กำลังทรุด เพราะเสาหลักค้ำจุนเศรษฐกิจทั้ง 4 เสาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นส่งออก ใช้จ่ายภาครัฐ บริโภคของประชาชน หรือลงทุนมันเริ่มผุกร่อน
ในเดือนม.ค.และก.พ. เศรษฐกิจไทยกำลังหดตัวลึกไปกว่านั้น ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูผลประกอบการของบริษัท และยอดขายทางธุรกิจประมาณ 2-3 เดือนนี้
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ประการแรกชาวนาเป็นเรื่องใหญ่ ชาวนาเมืองไทยมีอย่างน้อย 30-40 ล้านคน เวลาเขาไม่มีเงินใช้จ่าย Multiplier effect มันทวีคูณมหาศาล ในปี 2540 เรารอดมาได้เพราะภาคเกษตร ชาวนาไม่ได้รับผลกระทบเลย
มีคำกล่าวว่า "ชาวนาตาย 1 คน พ่อค้าตาย 100 คน" มันเป็นเรื่องจริง เพราะชาวนาไม่มีรายได้ อำนาจซื้อทรุดหายไปในทันที
เวลาเศรษฐกิจไม่ดี สินค้าที่ขายดีก็คือ พวกบะหมี่ ยาชูกำลัง แต่เวลานี้ยอดขายสินค้าหมวดนี้ก็ยังทรุด หมายความว่า ความเดือดร้อนไม่ใช่แค่ชั้นบน กลาง แต่ลงมาถึงชั้นล่าง ที่พยายามกระเสือกกระสนให้ดำรงชีวิตอยู่รอดได้
เมื่อภาวะเป็นเช่นนี้อารมณ์การจับจ่ายของคนชั้นกลางก็หายไป ตรงนี้ทำให้พลังขับเคลื่อนที่อ่อนอยู่แล้วก็อ่อนลงไปอีก ไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากลงทุนเพิ่ม ปฏิกิริยาลูกโซ่ของปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจจมดิ่งและลงลึก
ก่อนตบท้ายว่า ภาพความรุนแรงที่ปรากฏ ประชาชนที่แตกแยก สภาพต่างๆ เหล่านี้เวลาออกไปสู่สายตาชาวโลกมันมีผลกระทบอย่างแรงต่อสิ่งที่เรียกว่า "ความเชื่อมั่นระดับสากล" การเซ็นสัญญาต่างๆ จะไม่มีใครเชื่อเครดิตของไทยอีกต่อไป
ฟังดร.สมคิดแล้ว อย่าเพิ่งสิ้นหวัง แต่เอาไว้เตือนใจตัวเอง
เมืองไทย 25 น./ทวี มีเงิน
ข่าวสดออนไลน์, 28 ก.พ.2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น