++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

สุขสันต์วันเกิด

สุขสันต์วันเกิด

วันเกิดเป็นวันที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความขลังและศักดิ์สิทธิ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวันสำคัญใดๆในชีวิต เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่ตั้งต้นชีวิตกันในวันนี้ พอถึงเวลาครบรอบหรือครบรอบวันคล้ายวันเกิดคราวใด ก็มักจะมีการแสดงความยินดี เลี้ยงฉลองกัน บางคนถึงกับปิดถนนเลี้ยงงานวันเกิดก็มี แล้วแต่อำนาจวาสนาของท่านในตอนนั้น ว่ามีมากน้อยเพียงใด
แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยมักนิยมทำกันก็คือใส่บาตรในวันเช่นนี้ เพื่อให้อานิสงส์ผลบุญจากการใส่บาตรเป็นศิริมงคลแก่ตัวเอง แต่บางคนก็คิดเลยเถิดไปถึงครอบครัวพี่น้องและวงศาคณาญาติเท่าที่จะมีเพื่อให้ผลบุญไปทั่วถึง ดูแล้วออกจะเป็นการค้ากำไรเกินควรมากไปหน่อย จากการใส่บาตรให้แก่พระสงฆ์ในตอนเช้าตรู่ของวันคล้ายวันเกิด
ผู้เขียนก็มีวันคล้ายวันเกิดเหมือนกัน โดยจะรู้กันสองคนกับคุณแม่ วันนั้นคุณแม่มักจะทำอาหารสุดอร่อยที่ลูกชายคนนี้โปรดมาก ก็คือปลากระบอกนึ่งเกี่ยมบ้วย ผัดถั่วลันเตากับข้าวโพดอ่อนและกุ้ง และอาจจะมีหมูบะช่อสับนึ่ง รวมทั้งมีขนมอร่อยๆให้ชิ้นหนึ่ง แค่นี้ก็เป็นการบอกคำว่า "แสนรัก"จากคุณแม่เหลือล้นแล้ว เพราะผู้เขียนก็รักคุณแม่ล้นเหลือ...แม้เราจะเคยลำบากยากเข็ญกันเช่นไร แต่มืได้ขวางกั้นความสุขของเราสองคนแม่ลูกเลย
ออกจะเป็นสิ่งที่แปลกในเดือนกันยายนสำหรับผู้เขียน ที่มีวันคล้ายวันเกิดในเดือนกันยายน เดือนเดียวกันกับวันคล้ายวันเกิดคุณแม่ ลูกชาย และหลานชายฝาแฝดอีกสองคน และมีวันครบรอบการแต่งงาน สมัครสมานกับภรรยาที่แสนรักในเดือนเดียวกันอีกด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นเดือนที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดๆกับผู้เขียนเสมอๆเกือบทั้งชีวิต คือเป็นเดือนที่คิดอะไรแล้วมักจะสมหวัง( ที่ไม่ได้แปลว่าแห้ว )แทบทุกครั้งไป เช่นของที่หายไปมักจะได้คืน มีโชคลาภก้อนใหญ่ มีอะไรดีๆเพิ่มขึ้นในชีวิตทุกปี อย่างน้อยในปีนี้จิตใจเข้มแข็งขึ้นมากจนประหลาดใจ
ผู้เขียนอาจจะไม่ได้ใส่บาตรในวันเกิดเหมือนคนอื่นในปีนี้ และไม่ได้ขอพรพระเป็นเรือ พ่วงแบบคนอื่น คงไม่ผิดหรอกนะที่ผู้เขียนตั้งหน้าตั้งตาสวดมนต์ เดินจงกรม และกำหนดลมหายใจของตนเอง เท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย
จากนั้นก็ฟังหลวงปู่หลวงพ่อเทศน์ให้ฟังแทบทั้งวันและทั้งคืน อิ่มใจจนบอกไม่ถูก แค่นี้ก็เป็นพรเหลือล้นแล้วจากคุณพระรัตนตรัยที่เป็นที่พึ่งของเรา และนอกจากตัวเราที่จะพึ่งตนเอง
ท่านว.วชิรเมธีเคยพูดว่าพระพุทธเป็นที่พึ่งทางใจ พระธรรมเป็นแผนที่และพระสงฆ์เป็น ที่ปรึกษา แต่ต้องแยกแยะให้ออกนะว่าพระสงฆ์ท่านเป็นสงฆ์แท้หรือสงฆ์เทียม ควรค่าแก่การนับถือหรือไม่ ให้ดูตรงที่ว่าท่านวางตัวได้น่านับถือกว่าตัวเราเองหรือไม่ แต่ถ้าหากไม่ ก็ไม่ต้องไปไหวผ้าเหลืองหรอก ไม่งั้นผ่านเสาชิงช้าคงต้องยกมือไหว้ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ตลอดถนนทั้งสาย เพราะผ้าเหลืองเต็มร้านไปหมด
อันหลังนี้ หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ท่านสอนไว้ หลวงพ่อผู้เป็นต้นแบบในการสอนวิปัสสนากรรมฐานในแบบรู้ตัวและน่าศึกษามาก ท่านเมตตาต่อศิษย์ทั้งหลาย แม้กระทั่งเวลาที่ใกล้จะละสังขาร ใครอยากรู้จักวิธีการฝึกหรือรู้จักหลวงพ่อหาอ่านและฝึกกันนะครับหรือหาดูได้จาก youtube.com ครับ ถ้าจำไม่ผิดเกี่ยวกับประวัติครูบาอาจารย์และอริยสงฆ์
ผู้เขียนใคร่ขอบคุณท่านทั้งหลาย ที่เป็นภรรยา บุตร หลาน พี่น้องผองเพื่อนที่ร่วมกัน อวยพรในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ ก็เลยขอขอบคุณและอวยพรให้แก่ท่านให้มีสติปัญญาที่คมชัดและเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นเช่นเดียวกันกับคำอวยพรที่ท่านได้ให้แก่ผู้เขียน
ตามหาแก่นธรรมตอนนี้มาไกลจริงๆ จากที่ผู้เขียนคิดจะจบทั้งหมดในตอนที่30 กลับเดินทางมาเกือบหรือถึงตอนที่200 แล้ว แถมยังมีท่านผู้อ่านหลายท่านติดตามงานอย่างใกล้ชิดและจดจ่อ จนผู้เขียนทั้งหลายเขียนให้อ่านกันไม่ทัน
ขอขอบคุณที่ติดตาม แต่ถ้ารอล่าช้ากว่าใจที่อยากจะอ่าน โปรดพิจารณาใจตัวเองให้สว่างไสวเถิดครับ ตอนนี้ใจมันมีกำลังดีที่อยากเสวยธรรม
มีหลายท่านที่อ่านตามหาแก่นธรรมแล้วบอกว่ามันโดนใจได้คิดจังเลย หายกลุ้มและหายหมกมุ่นกับความทุกข์ไปเลยก็มี ก็ขออนุโมทนากับท่านด้วยครับ ตามหาแก่นธรรมก็ยังคงเป็ น บทความรายสะดวกออนไลน์เหมือนเช่นเคย ท่านผู้ใดไม่มีเวลาอ่านหรือรกเมล์ท่าน โปรดแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จะดำเนินการแก้ปัญหาให้ครับ
มีท่านผู้อ่านหลายท่านที่ยังคงอยากจะรวมเล่มพิมพ์แจกตามหาแก่นธรรมเป็นรูปหนังสือ แต่ผู้เขียนยังไม่คล้อยตามนัก เพราะที่เผยแผ่ออนไลน์ในขณะนี้ก็อยู่ในวงกว้างพอสมควร การทำหนังสิอแจกเป็นเรื่องใหญ่ต้องขออนุญาตและให้ผู้รู้หลักสารบัญดำเนินการ อีกทั้งผู้เขียนไม่มีเวลาคัดสอบและตรวจทาน นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกันท่านว.วชิรเมธี ว่าธรรมะออนไลน์มันไปไกลและกว้างมาก เพราะจริงๆแล้วตามหาแก่นธรรมของเราเดินทางไปหลายประเทศทั่วโลกแล้ว ตามตัวผู้เขียนและผู้อ่านไปจนเป็นชุมชนแก่นธรรมที่ใหญ่พอสมควร แล้วแต่กรณีไหน แต่หากท่านใดมีความประสงค์จะจัดพิมพ์จริงๆเป็นธรรมทาน ก็ดำเนินการได้เลยครับ เพียงแต่ผู้เขียนขอตรวจปรู๊ฟและให้ทีมช่วยจะดีสำหรับทุกฝ่ายครับ
หลายๆคนคงสงสัยว่าตามหาแก่นธรรมตอนนี้มาในรูปแปลกๆต้องแปลกันว่าผู้เขียนมีเจตนาเช่นไร ในบทความตอนนี้ บางท่านอาจจะคิดลึกไปถีึงธรรมะแบบเซ็นอีกก็ได้ แต่ก็ล้วนแล้วไม่ผิด
เพราะการเกิดมาเป็นคนได้นั้นแสนยาก ชีวิต(อายุ)มันแสนสั้น พ่อแม่ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอด เรามิได้อยู่คนเดียวในโลก ชีวิตของเราขึ้นอยู่กับคนอื่นเสมอ ชีวิตนี้ไม่ใช่ของเรา ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ชีวิตเป็นทุกข์ ชีวิตมิใช่ของของเรา วันหนึ่งเราจะแก่ วันหนึ่งเราจะเจ็บ วันหนึ่งเราจะตาย วันหนึ่งเราจะพลัดพราก เรามีกรรมเป็นสมบัติของตน สรรพสิ่งเป็นไปตามเหตุปัจจัย ตนต้องเป็นที่พึ่งของตน สันติสุขส่วนบุคคลคือสันติสุขสากลของโลก เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ทุกข์-ไม่โง่ เราสามารถนิพพานที่นี่และเดียวนี้ เวลาไม่อาจะรีไซเคิล
โปรดอย่าลืม..... ( คัดลอกมาจากท่านว.วชิรเมธี )
ท้ายบทความนี้ผู้เขียนคิดถึงคุณแม่ ผู้เป็นต้นแบบแห่งความดีที่ไม่สามารถจะเทียบเท่าได้ ท่านเป็นทุกอย่างของผู้เขียน แต่ผู้เขียนไม่สามารถจะเป็นทุกอย่างได้ดังท่าน ความเพียรในการเขียนธรรมะออนไลน์ก็ได้มาจากท่าน วันคล้ายวันเกิดทำให้คิดถึงวันที่ท่านให้กำเนิดผู้เขียนด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เพื่อให้เราลืมตาดูโลก ระลึกถึงท่านตราบลมหายใจเข้าออกในวันคล้ายวันเกิดนี้และระลึกถึงความรักสากลที่ท่านมีต่อลูกคนนี้อย่างยากจะลืมเลือน แม้ในชาตินี้ถึงจะตายไปตอนนี้ ก็จะคิดถึงแม่จนตาย ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นเพราะจะตามไปอยู่กับแม่ทุกภพทุกชาติที่มีพุทธศาสนาอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ยังจะเห็นเส้นทางแห่งพุทธะแห่งลมหายใจ เอวัง

ธรรมะสวัสดี

สะมะชัยโย

ใบโพธ์แก่นธรรม หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ

คนทั่วไปย่อมยึดถือพระไตรปิฎกเป็นตำราในการศึกษาพุทธศาสนา
แต่เวลาหลวงพ่อสอนไม่ค่อยเห็นพูดถึงเลย ท่านให้ความเห็นว่า
"พระไตรปิฎกนั้นจารึกหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานหลายร้อยปีและคัดลอกต่อกันมานับพันปี
คนเขียนคงเขียนดีแล้ว แต่คนอ่านจะเข้าใจเหมือนคนเขียนหรือไม่ ยังสงสัย
ถ้าจะเอาแต่อ้างตำรา
ก็เหมือนกับว่าเราต้องรับรองคำพูดของคนอื่นซึ่งหลวงพ่อไม่แน่ใจ
แต่สิ่งที่เล่าให้ฟังนั้นขอรับรองคำพูดของตัวเองเพราะจากประสบการณ์จริงๆ"
"ตำราเปรียบเสมือนแผนที่
เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ทางไปหรือยังไปไม่ถึงจุดหมาย
ผู้ที่ไปถึงแล้วแผนที่ก็หมดความหมาย"
"พระไตรปิฎกเขียนด้วยภาษาอินเดีย
เหมาะสำหรับคนอินเดียหรือคนเรียนภาษาอินเดียอ่าน
แต่ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ใช่เรื่องผูกขาดของคนใดคนหนึ่ง
เป็นเรื่องอยู่เหนือภาษา เชื้อชาติ เพศและเวลา
ถ้าเรารู้ธรรมะที่แท้จริงแล้วจะต้องรู้ และเข้าใจในภาษาของเราได้"
"การศึกษาพระไตรปิฎกนั้นดี แต่อย่าให้ติดและเมาในตัวหนังสือ
มะม่วงมีชื่อเรียกหลายอย่างหลายภาษา อย่ามัวแต่ถกเถียง ตีความ
หรือยึดถือว่าจะต้องเรียกอย่างไร แล้วปล่อยให้มันเน่า
ใครที่ได้กินมะม่วงก็ย่อมรู้ว่ารสมะม่วงเป็นอย่างนั้นเอง
ไม่ว่าจะเรียกชื่ออะไรหรือไม่มีชื่อเลยก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น