ขี้ลืม
ตามหาแก่นธรรมตอนนี้ ผู้เขียนจะเขียนในหัวข้อว่า"ขี้ลืม"ข้างต้น พอดีเจอบทความที่หัวข้อสอดคล้องกันและน่าอ่านก็เลยคัดลอกมาให้อ่านกันด้านล่างตรงหมายเหตุ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านกันตามสมควรนะคะ
เรื่องลืมนี้มีหลายประเด็นชวนให้คิดเหมือนกัน เช่นบางคนอยากลืมดันไม่ลืม บางคนไม่อยากลืมดันลืม
บางคนก็แกล้งลืมเพราะจำไม่ได้ว่าไปรับปากอะไรใครไว้บ้าง ขืนทำเป็นจำได้ก็จะต้องมาตามชดใช้กันอีกมาก ก็เลยลืมมันเสียอย่างนั้นแหละ ไม่ได้ลืมเพราะ ขาดสมาธิในการฟัง ที่เรียกว่าฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่ได้ลืมเพราะป่วยและมีอาการไม่สบาย เครียด กังวลกับการเจ็บป่วย หรือเป็นโรคทางสมอง อุบัติเหตุ และ...แก่เพราะอยู่นาน
หากลืมบ่อยๆก็ใส่คำว่าขี้เข้าไปข้างหน้าแล้วอ่านว่าขี้ลืม การลืมอาจจะเป็นการลืมชั่วครั้งชั่วคราวแล้วจำขึ้นมาได้ หรืออาจจะเป็นเรื่องที่ลืมจนจำไม่ได้เลยก็มี เพราะเหตุการณ์ผ่านมานานแล้ว ตามกฎอนิจจลักษณะ หรือไม่เที่ยง เกิดขี้น ตั้งอยู่ ดับไป
มีหลายๆคน( ส่วนน้อย )ที่ลืมอดีตชาติที่ขวนขวายกันมากที่อยากจะรู้ว่าในอดีตชาติตัวเองเป็นใครเป็นมาอย่างไร เพียงแต่ลืมสนใจว่าอดีตในชาตินี้ตน เองทำดีหรือทำชั่วอะไรมาบ้าง
บางคนเสาะแสวงหาแต่อดีตในชาติก่อนจนบ้านช่องแตกกระเจิงก็มี เพราะทิ้งลูกทิ้งเมีย จนหนีหายกันไปหมด
เรื่องอดีตชาติเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระสำหรับปัจจุบันเลย แต่พอเปิดหัวข้อคุยกันเรื่องเหล่านี้ผู้คนมักจะนั่งเม้าท์กันตรึม
จนมีคนหลายคนเอาอดีตชาติมาอ้างว่าเเคยกิดเป็นเจ้าคนนายคนในสมัยก่อน เอามาหากินกับคนโง่กว่าและที่หลอกได้ ก็มีไม่น้อย
เพราะมักจะอ้างเรื่องกรรมที่ตนสามารถแก้ให้คนอื่นได้ มาเป็นหัวข้อล้วงเงินในกระเป๋าผู้อื่น ที่น่าแปลกก็คือหลอกเอาเงินได้สำเร็จเป็นส่วนใหญ่ของคนที่ ถูกหลอก
การอ้างอดีตชาติที่ทุกคนจำไม่ได้เป็นเรื่องพ้นวิสัยที่จะรู้ นอก จากพระพุทธองค์ แต่ก็ยังมีผู้คนงมงายกันทั่วโลกที่อยากรู้เรื่องราวในอดีตชาติของตน จากที่เราได้ยินได้ฟังข่าวสารจากนานาประเทศ
แม้กระทั่งมีการตรวจสอบเรื่องคนระลึกชาติที่มีที่อยู่เป็นตัวเป็นตนหรือเป็นหลักฐานของคนทั่วโลกมากมาย ที่ตามตรวจสอบและค้นหาความจริงกันได้ชนิดจับต้นมาชนปลายกัน แล้วสรุปเป็นเอกสารรายงานทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมาอีกด้วย
เรื่องระลึกชาตินี้ ถ้าดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีหลักฐานนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าการเวียนว่ายตายเกิดนั้นมีจริง ไม่ได้ตายแล้วดับสูญไปไหนในวัฎสงสาร และสอดคล้องกับเรื่องกรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้
การลืมกับการจำได้หมายรู้หรือสัญญา เป็นธรรมะฝ่ายตรงกันข้ามกัน
บางคนลืมแม้กระทั่งการขี้หรือการถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา จนท้องผูกและเป็นปัญหาในเวลาต่อมา นอกจากจะลืมการขี้ที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังลืมกองขี้อีกหลายกองนับแต่ขี้เกียจ ขี้อิจฉา ขี้โอ่ ขี้อวด ขี้โกง ขี้หึง ขี้ระแวงฯลฯ ล้วแต่นนำทุกข์มาให้ทั้งสิ้น
ลืมแม้กระทั่งชีวิตที่เกิดมาจากดิน น้ำ ลมไฟ มาประชุมกับใจจนเป็นกายและใจหรือชีวิตนี้ ลืมแม้กระทั่งใจเป็นนายกายเป็นบ่าว จึงมัวแต่ใช้กายนี้เบียดเบียนผู้อื่นเพื่อให้ตนได้เสพวัตถุเท่านั้น
สุดท้ายก็จมบนกองทุกข์และหาทางออกไม่ได้มีแต่อบายภูมิที่แปลว่าที่ๆหาความเจริญไม่ได้ตั้งแต่ เดรัจฉาน นรก เปรต และอสูรกายภูมิเป็นที่เกิด
ลืมแม้กระทั่งร่างกายเที่ปรียบดั่งกองขี้ กองคูถและกองมูตร ตั้งแต่ผมสวยก็มีขี้รังแค ตาสวยก็มีขึ้ตา หูสวยก็มีขี้หู จมูกสวยก็มีขี้มูก ฟันสวยก็มีขี้ฟัน ร่างกายสวยงามก็เต็มไปด้วยขี้ไคล ขี้และเชื้อโรคมากมายซึ่งอยู่ในร่างกายเดียวกันกับที่ชวนให้ผู้คนหลงใหลและเพ้อหา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลืมแล้วนำมาให้เกิดทุกข์ทั้งสิ้น เพราะไม่รู้ความจริงแท้ของชีวิต และการลืมในขี้ต่างๆดังกล่าวข้างต้น ที่ตนเองเป็นผู้ยึดมั่นถือมั่นในกายและใจนี้รวมทั้งขี้นั้นเป็นของตน
และเพื่อที่จะหาทางออกจากการเป็นผู้ขี้ลืมความเจริงแท้โปรด......อย่าลืม ( ว.วชิรเมธี )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น