เรียบเรียงโดย ณัฐฏ์ รัตนกานต์
ต.หาดทนง จ.อุทัยธานี มีหมู่บ้านในความรับผิดชอบ 6 หมู่บ้าน ประชากร 2,071 คนรวมมี 531 ครัวเรือน จัดเป็นพื้นที่ อบต.ขนาดเล็ก แล้วได้ปรับเป็น อบต.ขนาดกลางเมื่อไม่นานมานี้ ประวัติในชุมชนหาดทนง อาจฟังดูน่าเกรงขาม กล่าวคือ ในอดีตเป็นชุมชนที่ผลิตปืนเถื่อนที่มีคุณภาพแห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันได้พัฒนาจากการผลิตปืนมาเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเหล็กกล้า เช่น มีด หรือกรรไกรต่างๆ ที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย
นายก อบต. หาดทนงคนปัจจุบัน เคยเป็นอสม. ผู้ใหญ่บ้าน และ กำนันมาก่อน เป็นบุคคลที่ประชาชนศรัทธาและให้ความเชื่อถือ สามารถทำงานในท้องที่และท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี จน อบต.หาดทนงได้รับรางวัลธรรมาภิบาลในปี 2549 และ 2550 สองปีซ้อน
อบต.หาดทนง กำลังดำเนินการประเมินความพร้อม เพื่อรับโอนสถานีอนามัยหาดทนง มาอยู่ในความรับผิดชอบของ อบต. ตามแนวคิดที่ว่าจะทำให้ อบต.หาดทนงมีงบประมาณในการสร้างหลักประกันสุขภาพให้ประชาชนในพื้นที่ได้มากขึ้น
การดูแลสุขภาพของประชาชนของ อบต.หาดทนง นั้นใช้วิธีแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็นกลุ่มๆ ตามอายุและสภาพร่างกายของประชาชน เช่น กลุ่มแม่และเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มมผู้ประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยง
การทำงานในแต่ละกลุ่ม ก็จะมีโครงการต่างๆ เข้ามาสนับสนุนให้ความช่วยเหลือและดูแล เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพผู้พิการ โครงการตรวจสุขภาพ หรือ การรับวัคซีนต่างๆ จะเห็นได้ว่า การดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ มีสถานีอนามัยหาดทนงเป็นแกนหลัก ในการประสานงานและดำเนินการต่างๆ ซึ่งก่อนที่จะเกิดการทำงานในรูปแบบนี้ ก็ได้มีการวางแผนโครงการตามขั้นตอน ตามข้อมูลปัญหา ซึ่งมาจากการทำประชาคมในพื้นที่นั่นเอง
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งซึ่งสังเกตได้จากการใช้ภาษาของชาวชุมชน กล่าวคือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นั้น คนในชุมชนจะเรียกว่า "ท้องที่" ส่วน อบต.จะเรียกว่า "ท้องถิ่น" เพราะขั้นตอนการทำงานหลังจากที่ได้ทำประชาคมในพื้นที่แต่ละหมู่บ้านแล้วนั้น ท้องที่และท้องถิ่นต้องร่วมกันประมวลผลว่า จะจัดทำโครงการอะไร ดีหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ ท้องที่เป้นผู้จัดทำแผนงานโครงการ แล้วเสนอให้ท้องถิ่นพิจารณาอนุมัติ หลังจากนั้น นายก อบต.ก็จะทำการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อควบคุมการดำเนินงาน แล้วประชาชนก็สามารถตรวจสอบการทำงานได้จากการประชุมที่เกิดขึ้น
ส่วนผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจของคณะกรรมการกองทุนฯ ที่เกิดขึ้น คือ กิจกรรมการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังในโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดน้ำตาลในเลือด การตรวจไขมันในเส้นเลือด กิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นโดยการช่วยเหลือกันเองในหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนหันมาสนใจดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น มีความรู้เรื่องการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับโรคมากขึ้น ซึ่งเกิดจากการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
"หมออนามัยเค้าสอนการใช้เครื่องตรวจน้ำตาล และไขมันในเลือดให้กับผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. " สิ่งเหล่านี้ เป็นผลทำให้ลดเวลาที่ต้องไปโรงพยาบาล เพื่อรอตรวจเลือด รอฉีดยา รอรับยา กิจกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สถานีอนามัย อสม. และ อบต.
"ท้องที่กับท้องถิ่นต้องไปด้วยกัน"
"เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง"
" ที่ทำงานไม่สำคัญ ประชาชนต้องมาก่อน"
แนวคิดเหล่านี้ ที่ตรงกันกับนายก อบต.ในการทำงานเป็นทีม และผู้นำต้องใจกว้างยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" นั่นแหละเป้นที่มาของ "ประชาชนเชื่อผู้นำ"
การทำงานคือ การแก้ไขปัญหา
มีคำกล่าวเช่นนั้น แล้วชาวหาดทนงทำงานกองทุนฯ ด้วยกันมามีปัญหาบ้างหรือไม่
ชาวบ้านกล่าวว่า ที่หาดทนงก็ไม่ต่างจากที่อื่นๆ เกิดปัญหาบ้างเล็กน้อย ความไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของงาน วิธีการดำเนินการ หรือ ปัญหางบประมาณล่าช้า หรือ ระเบียบการเบิกจ่ายเงิน แต่ปัญหาเหล่านี้ก็สามารถผ่านพ้นไปได้เมื่อคนที่ทำงานยึดเอาสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก งานก็สามารถเดินหน้าสู่ความสำเร็จได้
นั่นแสดงให้เห็นว่าชุมชนมีผู้นำที่ดี ประชาชนศรัทธาและให้ความเชื่อถือ รวมไปถึงการร่วมมือร่วมใจในการทำงานทั้งท้องที่และท้องถิ่น ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือ ประชาชน ทำให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการดำเนินการ และประเมินผลจนได้แผนแม่บทชุมชนที่ส่งผลต่อการสร้างหลักประกันสุขภาพที่ดีให้กับคนในชุมชนได้อย่างแท้จริง
ข้อมูลพื้นฐานประกอบการเขียนโดย
สุชาดา อินทรกำแหง ณ ราชสีมา
วพบ.สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์
ที่มา ถอดบทเรียน การดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
(กองทุนหลักประกันสุขภาพ อบต. และเทศบาล) ในพื้นที่ต้นแบบทั่วประเทศ กรณีศึกษา ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง
เลข ISBN : 978-974-379-047-8
ธันวาคม 2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น