++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กลางแดดร้อน*



ชวนชมในกระถางดินเผาต้นนั้นสูงราวสองคืบ อยู่กับผมมานานสิบกว่าปีแล้ว ตั้งแต่อยู่ในกระถางเล็กจนย้ายมาในกระถางใหญ่ ย้ายบ้านกี่ครั้งก็หอบมันมาด้วย เพราะมันขยันออกดอก แม้เจ้าของไม่เคยให้สารอาหารพิเศษใด ๆ แก่มันเลย

ผมชอบใบทรงหยดน้ำที่แตกออกจากกิ่งก้านขรุขระเป็นปุ่มปม บางส่วนหงิกงอ ดอกสีแดงชมพูของมันดูชวนชมสมชื่อ

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนกลางฤดูร้อนสุดขั้ว ชวนชมต้นนี้เฉาแห้ง ใบร่วงจนหมดต้น เหลือแต่กิ่งก้านกลางแดดร้อน

ผมไม่รู้ว่ามันตายไปตั้งแต่เมื่อไร คงเพราะยุ่งกับชีวิตส่วนตัวมากไปจนลืมดูแลเพื่อนเก่าต้นนี้ รู้แต่ว่าไม่ได้รดน้ำมานาน ในเมื่อมันรดน้ำตัวเองไม่ได้ มันก็ตายไปง่าย ๆ เช่นนี้ รู้สึกเศร้าใจในการจากไปของมัน

อย่างไรก็ตาม มันก็ตายไปแล้ว ผมได้แต่ปลง คนสัตว์ยังตายได้ นับประสาอะไรกับต้นไม้เล็ก ๆ ต้นหนึ่ง ผมปล่อยให้มันยืนคากระถางเช่นนั้น ไม่นานก็ลืมความตายของมันไป ซากของมันก็ยังอยู่กลางแดดร้อนต่อไป

หลายวันถัดมา ผมมองออกนอกหน้าต่าง สายตาหยุดที่ซากต้นชวนชม ตะลึงงันเมื่อเห็นใบอ่อนสีเขียวแตกออกจากปลายกิ่ง มันยังไม่ตาย

สองสามวันต่อมา ผมมองไปที่ต้นชวนชมอีกครั้ง คราวนี้อึ้งไปนาน ที่ปลายกิ่งหนึ่งปรากฏดอกชวนชมหลายดอกบานออกรับแสงอาทิตย์ ราวกับว่าต้องการออกดอกเพื่อยืนยันว่ามันยังสู้ต่อไป ขณะที่ผมสิ้นหวังกับมันไปแล้ว มันยังไม่ยอมแพ้

ชีวิตคนเราเต็มไปด้วยอุปสรรค หลายครั้งหลายคนสิ้นหวังกับบางสถานการณ์ในชีวิต ก้มหน้า ไหล่ตก ยอมแพ้ ปล่อยชีวิตไหลไปตามยถากรรม ทางชีวิตขรุขระก็จริง แต่ความหวังก็สามารถพาเราข้ามพ้นความเชื่อว่าเราสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว

วินทร์ เลียววาริณ, 10 เมษายน 2548
*บางบท-ข่าวหน้าหนึ่ง, www.winbookclub.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น