ปุจฉา - กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ สามีของลูกแอบแชทคุยกับเพื่อนผู้หญิงสมัยวัยเรียนทุกคืนก่อนนอน ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะแยกกันอยู่กับสามีมาได้ไม่กี่ปี ด้วย Social Media ทำให้เขาทั้งสองกับมาเจอผ่าน facebook โดยที่ผู้หญิงคนนี้ทำงานอยู่ต่างจังหวัด
ตอนแรกๆ ที่สามีของลูกและผู้หญิงคนนั้นคุยกัน ลูกยังยินดีที่เค้าได้คุยกับเพื่อนเก่าสมัยวัยเด็ก ไม่เคยคิดระแวงสงสัยในตัวสามี แต่นานวันเข้าเขาทั้งสองกับคุยกันมากขึ้นทุกวัน ทุกเวลา
หลังๆ มานี้ สามีหงุดหงิด แสดงอารมณ์ไม่พอใจกับลูกมากขึ้นทุกวัน พูดอะไรออกไปก็เป็นผิดหู หาเรื่องออกนอกบ้านเป็นประจำ แม้ข้าวปลาอาหารที่เคยชอบ ก็บ่นทานไม่ลง ต้องขับรถออกไปกินที่ปั๊มน้ำมันข้างบ้าน
ลูกรู้มาว่าสามีบอกกับเพื่อนๆ facebook ว่าเขาอยู่กับลูกในฐานะเพื่อน ดูแลกันเหมือนพี่เหมือนน้องเท่านั้น ไม่ได้นอนด้วยกัน แยกห้องกันนอนตั้งแต่แต่งงานกัน ลูกถามเค้าไปตรงๆ แต่เค้ากลับโวยวาย ตะคอกใส่ลูก หาว่าลูกไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเค้ามากเกินไป ทำให้เค้าเบื่อและขอแยกห้องนอน โดยให้เหตุผลว่านอนไม่หลับ อยากมีความเป็นส่วนตัว
สามีบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อนเก่า เพื่อนเค้าขี้เหงา น่าสงสาร มีปัญหาครอบครัว ผู้หญิงคนนั้นนอนดึกๆ ไม่มีเพื่อนคุย ไม่มีเพื่อนคอยให้คำปรึกษา สามีบอกให้ลูกอยู่เฉยๆ ไม่ต้องไปคิดมาก สักวันที่เขาเบื่อที่จะคุยกับผู้หญิงคนนี้แล้ว เขาก็จะกลับมารักลูกเหมือนเดิม
ลูกเสียใจจังคะ ที่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากสามีผู้เป็นที่รัก จากปากของคนที่ลูกไว้ใจเขามาตลอด ลูกเจ็บจริงๆ ค่ะ ลูกเสียใจที่วันนี้สามีเลือกให้ความสำคัญ เลือกที่จะใช้คำพูดดีๆ มอบความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้หญิงคนหนึ่งผ่านตัวหนังสือ เลือกที่ยิ้มผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ให้กับคนอื่นที่อยู่ไกลตัว มากกว่าที่ยิ้ม หัวเราะ พูดคุย กับคนที่อยู่ข้างกายมาตลอด
ลูกจะต้องทำตัวอย่างไรต่อไปดีคะ ถ้าลูกห้ามสามีไม่ได้ ลูกจะต้องไปเตือนไปบอกผู้หญิงคนนั้นไหมคะว่าผู้ชายที่เธอคุยด้วยทุกคืนเขามีภรรยาแล้ว ถ้าลูกอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย ลูกจะบาปไหมคะ ที่ปล่อยให้สามีตัวเองไปพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น โดยที่ผู้หญิงคนนั้นเค้าไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดคุยกับสามีคนอื่นอยู่
พระอาจารย์มีหลักธรรมคำสอน เกี่ยวกับการใช้ Social Media เพื่อเตือนใจให้ผู้ใช้สมัยนี้ได้นำแง่คิดดีๆ นำไปปฏิบัติใช้ควบคู่ไปกับการใช้งานของ Social Media ในปัจจุบันบ้างไหมค่ะ ลูกเชื่อว่าหลายๆ บ้าน หลายๆ ครอบครัวคงประสบปัญหาอย่างนี้อยู่เช่นกัน
พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา - ยามรักกันเขาอยากอยู่ใกล้ชิดคุณ แต่เมื่อความรักจืดจาง เขาก็อยากเหินห่าง กลายเป็นคนละคนไป ในความเห็นของอาตมา คุณควรพูดคุยกับเขาอย่างตรงไปตรงมาว่า ต้องการมีความสัมพันธ์กับคุณแบบไหน ถ้าไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา แต่ต้องการสัมพันธ์กันอย่างเพื่อน คุณก็ควรพิจารณาว่ามีทางใดหรือไม่ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ นั้นกลับมาเป็นแบบเดิม
เพราะชีวิตคู่จะยั่งยืนและเป็นสุขได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่าย ยินดีที่จะสัมพันธ์กันฉันคู่รัก หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินดีหรือเปลี่ยนใจ ชีวิตคู่นั้นก็เป็นไปไม่ได้ ถึงอยู่ด้วยกันก็มีแต่จะทุกข์ทั้งสองฝ่าย หากคุณพยายามแล้วเขายังยืนยันที่จะมีความสัมพันธ์กับคุณฉัน เพื่อนหรือแม่ของลูก คุณควรถอยออกมาจากชีวิตเขา หรือสลัดเขาไปจากจิตใจของคุณ เพราะหากคุณยังยึดในตัวเขา คุณจะเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
แต่ละคนย่อมมีชีวิตของตนเอง คุณไม่สามารถห้ามใครได้หรอก ถ้าคิดจะห้าม ห้ามใจตัวเองดีกว่า ว่าอย่ายึดติดถือมั่นในตัวเขา และอย่าเอาความสุขและคุณค่าของคุณไปผูกไว้กับเขา คุณจะผิดหวังเปล่า ๆ คุณควร เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความสุขโดยไม่มีเขา
admin - คำถามได้ถูกแก้ไขให้สั้นลง เพื่อความกระชับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น