++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

หน้าที่พื้นฐาน 3 ประการที่พนักงานต้องทำ


หน้าที่พื้นฐาน 3 ประการที่พนักงานต้องทำ
พระพุทธเจ้าตรัสว่ามนุษย์เราเกิดมาเพื่อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามแนวทางที่ทรงสอนไว้ในโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งมีอยู่ 3 ข้อ ได้แก่ ไม่ทำชั่ว ให้ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์ ทีนี้ถ้าเราจะหยิบเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาประยุกต์ใช้กับการทำงานในองค์กร ก็สามารถนำมาใช้ได้ดังนี้ การทำงานของพนักงานโดยทั่วไปจะทำหน้าที่สนับสนุนความสำเร็จตามเป้าหมายกลยุทธ์ขององค์กร และมีส่วนร่วมในการส่งมอบคุณค่าของผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ลูกค้าไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แต่หน้าที่ความรับผิดชอบ 3 อย่างของการเป็นพนักงานที่ดี ก็คือ
1.ทำสิ่งที่ต้องทำให้ดี – ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายให้ครบถ้วนสมบูรณ์สมกับตำแหน่งและบทบาทในองค์กร
2. ทำสิ่งที่แย่ให้เป็นปกติ- แก้ปัญหาในงาน และช่วยเหลือให้ผู้อื่นสามารถทำผลงานได้ดี กำจัดข้อบกพร่องในกระบวนการ
3. ทำสิ่งดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น – พัฒนาต่อยอดความก้าวหน้าในงาน คิดค้นสิ่งใหม่ สร้างโนว์ฮาวที่ยกระดับการทำงาน

ตามปกติพนักงานจะทำหน้าที่ข้อ 1 ได้ดี เพราะเป็นงานประจำที่ทำตามปกติ ตามกระบวนการมาตรฐาน และถูกระบุไว้ใน job description ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เข้าใจร่วมกันอยู่แล้วว่าใครทำงานอะไร ส่วนข้อ2 เป็นธรรมชาติของการทำงานย่อมมีปัญหาข้อจำกัดและอุปสรรคความท้าทายมาเป็นบททดสอบอยู่เสมอ แต่ข้อ 3 เป็นสิ่งที่องค์กรคาดหวังจากผู้บริหารมากกว่าพนักงานปฏิบัติการ เพราะแค่ให้คนทำงานได้ตามกรอบการทำงาน ตามระบบที่วางไว้ ก็ยากแล้ว ดังนั้น หาได้น้อยมากที่คนทำงานจะทำหน้าที่ได้ครบ 3 ประการ แม้จะเป็นหลักปฏิบัติที่ฟังดูเข้าใจง่ายก็ตาม
ฉะนั้น ถ้าหากองค์กรไหนสามารถปลูกฝังพนักงานให้มีจิตสำนึกในหน้าที่ 3 อย่างนี้ได้ ย่อมจะทำให้องค์กรมีความได้เปรียบอย่างยั่งยืน เพราะคนทำงานทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง สืบสานความสำเร็จของงานได้อย่างต่อเนื่อง ต่อจากนี้ไปพนักงานจะมี contribution ให้แก่องค์กรได้อย่างคุ้มค่าจ้างเงินเดือน และใครก็ตามที่ปฏิบัติตามหน้าที่ 3 ประการได้อย่างครบถ้วนก็น่าจะเรียกได้่ว่าเป็นคนทำงานมืออาชีพที่ทุกองค์กรปรารถนาไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหรือสถานะอะไร และย่อมจะส่งผลให้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างมีนัยสำคัญ
http://humanrevod.wordpress.com/2013/02/15/business-leaders-survey-2012/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น