++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ญี่ปุ่น ทึ่ง อสม.ไทยเป็นทัพหน้าเฝ้าระวังโรค

ญี่ปุ่น ทึ่ง อสม.ไทย เฝ้าระวังโรค ป้องกัน ควบคุมโรคระบาดในชุมชน
สนใจศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมทำงานกับรัฐ ขณะที่ "วิทยา"
ระบุไทยพร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตยาละเวชภัณฑ์จากประเทศเจริญเพื่อ
เป็นหลักยึดให้อาเซียน ชี้การประชุมประสบผลสำเร็จ
ฟื้นความเชื่อมั่นไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ห้องอาหารอิตาลี
โรงแรมดุสิตธานี นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
หารือนอกรอบร่วมกับนพ.ทาคาโอะ วาตานาเบ (Dr.Takao Watanabe) รัฐมนตรี
ช่วยอาวุโสกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น
ก่อนพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 นัดพิเศษ เรื่อง
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1
ซึ่งรัฐมนตรีช่วยอาวุโสกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการประเทศญี่ปุ่น
ยืนยันพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการประชุมครั้งนี้ให้ผ่านไปด้วยดี


นายวิทยา กล่าวภายหลังการหารือว่า ประเทศ
ญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่
บ้าน (อสม.) ของประเทศไทยที่มีเกือบ 1 ล้านคน
ซึ่งเป็นทัพหน้าของกระทรวงสาธารณสุขในการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ติดเชื้อได้
เร็วที่สุด โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังระบาด
นับเป็นกระบวนการที่น่าสนใจ
เพราะมีการนำภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับสาธารณสุขของประเทศในการช่วยรัฐ
ป้องกันและควบคุมโรคได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมถึงหมู่บ้าน
ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งญี่ปุ่นสนใจศึกษาตั้งแต่เริ่มดำเนินการ
ตลอดจนการทำงานของ อสม.
โดยไทยพร้อมให้การสนับสนุนและได้มอบหมายกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)
เป็นฝ่ายประสานงานอย่างเต็มที่เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะ
นี้ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมและมีขีดความสามารถที่จะรับการถ่ายทอด
เทคโนโลยีในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ เพื่อให้เป็นหลักในภูมิภาคอาเซียน
โดยประเทศที่มีขีดความสามารถสูงควรจะเสียสละถ่ายทอดให้กับประเทศที่มีความ
สามารถน้อยกว่า ส่วนการสำรองยาโอเซลทามิเวียระดับภูมิภาคอาเซียนยังไม่ได้หารือกับประเทศ
ญี่ปุ่นว่าจะดำเนินการสนับสนุนยาให้กับอาเซียนเพิ่มเติมหรือไม่

"การจัดประชุมในครั้งนี้บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี รัฐมนตรี
ทุกประเทศมีความสุข ประทับใจและมั่นใจ
รวมทั้งประหลาดใจที่ในประเทศไทยใช้ระยะเวลาในการเตรียมความพร้อมเพรียง 6
วัน ก็สามารถจัดงานได้อย่างเรียบร้อย เป็นบทสะท้อนว่าประเทศไทย
มีความพร้อมในการจัดการประชุมระดับนานาชาติ
เป็นการฟื้นความเชื่อมั่นอย่างรวดเร็ว
และบ่งบอกว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมผู้นำอา
เซียนที่ จ.ภูเก็ต" นายวิทยากล่าว

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000051527

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น