++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

หายนะต่อไปเพราะไทยมีแต่ลิงหลอกเจ้า

โดย ดร.ป. เพชรอริยะ


ณ วันนี้ น่าเสียดายที่ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ท่านยังมองไม่เห็นว่าอะไรคือเหตุวิกฤตทางการเมือง
อันเป็นเหตุวิกฤตชาติมายาวนาน
สภาพการณ์ของประเทศยุ่งเหยิงเกินกว่าที่จะกู้ กู้
กู้แปดแสนล้านมาเพื่อแก้ปัญหา เรามองเห็นชัดว่ารัฐบาลนี้กำลังไปไม่รอด
ทั้งนี้เพราะขาดปัญญาในการคิดแก้ปัญหา แนะนำให้ท่านก็มองไม่เห็น
ถ้าท่านมองเห็น ท่านก็จะต้องมีนโยบายก่อนอื่นใดทั้งสิ้นก็คือเสนอ
ให้มีการสถาปนาหลักการโดยธรรม โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ประมุขแห่งรัฐ จากนั้นรัฐบาลจึงไปดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับหลักการปกครองเพียงเท่านี้
ความถูกต้องทางการเมืองก็เกิดขึ้นทันที

หลักการปกครองจะกลายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของปวงชนในชาติ
ประชาชนก็จะฉลาดทางการเมือง จะไม่ตกเป็นเครื่องมือของบุคคล
คณะบุคคลที่ชั่วช้าทางการเมือง ขอย้ำบอกจำไว้เลยว่า
การเมืองการปกครองที่ปราศจากหลักการปกครองโดยธรรม
จะนำมาซึ่งความวิบัติหายนะมาสู่ประเทศชาติและประชาชนอย่างไม่มีวันจบสิ้น

ในอดีตการปกครองบ้านปกครองเมืองขึ้นอยู่กับบุคคล
พระมหากษัตริย์นอกจากจะเป็นประมุขแห่งรัฐแล้ว ยังทรงเป็นองค์รัฐาธิปัตย์
มีอำนาจสิทธิขาดสมบูรณ์โดยพระองค์เดียว แต่ก็มีจุดเด่นอยู่หลายประการ
โดยเฉพาะพระมหากษัตริย์ไทย พระมหากษัตริย์ จะดำรงไว้ซึ่งอำนาจโดยธรรม
ตามหลักทศพิธราชธรรม 10 ประการ อันเป็นหลักธรรมสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
หรือหรือนักปกครองอันยิ่งใหญ่ ได้แก่

1. ทาน คือการให้ทั้งวัตถุทาน ธรรมทาน และอภัยทานแก่พสกนิกร

2. ศีล การละเว้นจากความประพฤติที่ผิดทั้งปวง

3. ปริจจาคะ การบริจาคคือ เสียสละความสุขสำราญ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชน

4. อาชชวะ ความซื่อตรงและเข้มแข็ง ที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง มีความจริงใจ

5. มัททวะ ความอ่อนโยน คือมีอัธยาศัยสุภาพต่อคนทั้งปวง

6. ตปะ ความเพียรพยายาม ที่จะเผาผลาญกิเลสที่อาจเกิดขึ้น

7. อักโกธะ ความไม่โกรธ คือ ไม่กริ้วกราด
ไม่กระทำสิ่งใดด้วยอำนาจของความโกรธ

8. อวิหิงสา ไม่เบียดเบียนผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม

9. ขันติ ความอดทน อดกลั้นต่อสิ่งยั่วโลภะ โทสะ โมหะทั้งปวง

10. อวิโรธนัง ความไม่คลาดธรรม คือ วางองค์เป็นหลักแน่นในธรรม

และข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ องค์พระมหากษัตริย์
ส่วนใหญ่จะขอคำปรึกษาจากพระผู้ใหญ่ผู้ทรงธรรม ผู้มีปัญญา
และในขณะเดียวกัน พระเจ้าอยู่หัว หรือข้าราชการผู้ใหญ่ กระทำการใดๆ
ที่ไม่สมควร ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน พระสงฆ์องค์เจ้าผู้มีปัญญา
ก็สามารถแนะนำทักท้วงเปลี่ยนให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ โดยไม่ยากนัก
ทั้งนี้เพราะ ยังไม่มีรัฐธรรมนูญเป็นตัวยึดมั่นถือมั่น นั่นเอง

ผู้มีปัญญา ย่อมมองเห็นแนวคิด พฤติกรรมของพวกขบวนการรัฐธรรมนูญ
พวกเขามีแนวคิดอันเลวร้ายทำลายชาติคือมรรควิธียกร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นระบอบ
ประชาธิปไตย แต่ในท้ายที่สุดก็เป็นเผด็จการซ้ำรอยเดิมทุกครั้งไป ณ
วันนี้พวกเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญได้ขัดแย้งแบ่งเป็น 2 ขั้ว
เราจะเห็นความขัดแย้งแย่งอำนาจกันอย่างหนักเป็นมิคสัญญีกลียุคซ้ำแล้วซ้ำอีก
เพราะต่างก็ยึดมั่นถือมั่นอย่างแรงกล้าระหว่างรัฐธรรมนูญเผด็จการฉบับปี
2540 ฝ่ายหนึ่ง กับรัฐธรรมนูญเผด็จการฉบับปี 2550
จุดมุ่งหมายสูงสุดของผู้เขียนก็คือการให้สติ
ให้ปัญญาโดยธรรมแก่ท่านผู้อ่านทั้งหลาย
และหวังให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรม โดยมีธรรมเป็นศูนย์กลาง
ทั้งนี้ก็เพื่อความมั่นคงแห่งชาติเป็นสำคัญ โดยมิได้หวังอำนาจทางการเมือง

ทำให้ระลึกนึกถึงนิทานดึกดำบรรพ์ เรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
มีเรื่องเล่าว่า พระมหากษัตริย์หนุ่ม พระองค์หนึ่ง
ได้ทรงเถลิงถวัลย์ขึ้นครองราชสมบัติแทนพระราชบิดาผู้เป็นกษัตริย์ที่มี
คุณธรรมอันสูงส่ง และเป็นที่จงรักภักดีของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นอันมาก

พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระเยาว์
ก็ได้ทรงอาศัยพระราชชนนีเป็นที่ปรึกษาราชกิจเกี่ยวกับการแต่งตั้ง
(นักการเมือง) ข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ พระราชชนนีได้เปรยว่า
จากประสบการณ์ในรัชสมัยพระบิดาที่ผ่านมาผลจากการแต่งตั้งข้าราชการชั้น
ผู้ใหญ่ (นักการเมือง) ตำแหน่งที่สำคัญๆ ส่วนใหญ่แล้วล้มเหลวตลอดรัชกาล
เพราะนักการเมืองจะกี่รุ่นๆ และข้าราชการส่วนใหญ่ต่างก็ร่วมมือกันโกงชาติ
ฉ้อราษฎร์บังหลวง พวกเขาถือเอาแต่ประโยชน์ตนและพรรคพวกเป็นใหญ่
บ้างก็ปัญญาอ่อน ดื้อตาใส จนทำให้ประเทศชาติยากจนและล้าหลังลงเป็นอันมาก

วันหนึ่งพระราชชนนีก็รับสั่งกับพระมหากษัตริย์หนุ่มว่า
"ลูกอย่าได้ประมาท เราต้องดูให้ละเอียดรอบคอบเลือกแต่งตั้งนักการเมือง
ข้าราชการที่เป็นมนุษย์ที่มีคุณธรรมจริงๆ
อย่าไปเลือกเอาลิงให้มาทำหน้าที่สูงๆ สำคัญๆ ก็แล้วกัน"

พระราชชนนีทรงอธิบายเพิ่มเติมว่า
"อันสัตว์ป่าที่เรียกว่าลิงนั้นมันเป็นเดรัจฉาน เลวร้ายนานาประการ
มีสันดานหน้าไหว้หลังหลอก กลับกลอกปลิ้นปล้อนตลบตะแลง
เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงทุจริตไม่ซื่อต่อมิตร คิดคดทรยศต่อชาติ
มีโอกาสก็กบฏล้างกษัตริย์ สารพัดที่มันจะเลวร้าย
เหลือที่จะอธิบายได้หมดสิ้น"

ส่วนในยุคปัจจุบันมี การปกครองแบบสมัยใหม่
ต้องสร้างหรือสถาปนาหลักการปกครองหรือระบอบขึ้นมาก่อน
หลังจากที่พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนและระหว่างประชาชนด้วยกันเองเป็นไปในทางที่ดี
ประเทศชาติมั่นคงดีแล้ว จากนั้นจึงได้ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาระบอบนั้นๆ
ไว้ ดังกล่าวนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา อินเดีย มาเลเซีย
หลังจากสร้างประชาธิปไตยตามเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ
จะเห็นว่าประเทศดังกล่าวนี้ไม่เคยมีรัฐประหารเลยสักครั้งเดียว
หรือแม้แต่ประเทศลาว

หลังจากพรรคคอมมิวนิสต์ลาวได้รับชัยชนะในสงครามขับไล่ฝรั่งเศส
และสหรัฐอเมริกาเมื่อ พ. ศ. 2518
จากนั้นก็ลงมือสร้างระบอบคอมมิวนิสต์ที่เหมาะสมกับประชาชนลาว
ใช้เวลานานถึง 16 ปี จากนั่นรัฐบาลลาวก็ได้ร่างรัฐธรรมนูญใน พ.ศ. 2534
เพื่อรักษาระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ลาวนั้นไว้ นับแต่ปี 2518 เป็นต้นมา
ประเทศลาวไม่เคยมีรัฐประหาร นี่ก็แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองไทยมันขาดปัญญา
สู้ไม่ได้แม้กระทั่งประเทศลาว

นักการเมืองลิงหลอกเจ้า โกหกหลอกลวง บิดเบือน
หรือว่าเพราะโง่เขลาเบาปัญญา
ประเทศไทยจึงไม่สามารถข้ามพ้นแนวคิดการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยของพวกผู้ปกครองสันดานลิง
77 ปี นักวิชาการ นักการเมือง สื่อมวลผู้ขาดการศึกษาสันดานลิง
จะได้เห็นได้ยินอยู่บ่อยมากต่างก็พร่ำเพ้อว่า "77 ระบอบประชาธิปไตยไทย"
แต่มันก็น่าขำจริงๆ ให้ดิ้นตาย เราจะเห็นได้ว่าไม่ว่ากลุ่มมวลชนไหนๆ
ต่างก็เรียกร้องประชาธิปไตยกันแทบทั้งนั้น

ประเทศที่เขาสร้างระบอบประชาธิปไตยได้สำเร็จจริงๆ เช่น อังกฤษ
สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น เป็นต้น สังเกตง่ายๆ
กลุ่มมวลชนประเทศเหล่านั้นไม่เคยลุกขึ้นมาเรียกร้องประชาธิปไตยเลย
เพราะพวกเขาแก้ปัญหาประชาธิปไตยตกไปนานแล้วนั่นเอง

แต่สำหรับผู้ปกครองไทยนอกจากสันดานลิงแล้ว
ยังเป็นทายาทอสูรรับมรดกแนวทางมิจฉาทิฐิ
คือร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นระบอบประชาธิปไตย
และอวดอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุด ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 40
ถูกฉีกไปแล้ว และรัฐธรรมนูญปี 50 ต่างก็บัญญัติบังคับให้ "ผู้สมัคร ส.ส.
ต้องสังกัดพรรคอย่างน้อย 90 วัน" แค่นี้มันก็บ่งบอกให้เราทราบว่า
แท้จริงมันเป็นระบอบเผด็จการ หมายความว่า
"อำนาจอธิปไตยที่แท้จริงเป็นของปวงชน แต่ในทางปฏิบัติมันได้กลายเป็นว่า
อำนาจอธิปไตยเป็นของพรรคการเมือง" ส. ส. กลายเป็นทาสของนายทุนพรรค
ต้องทำตามมติพรรค ใครไม่ทำตามถูกไล่ออกจากพรรค
แล้วจะทำหน้าที่เพื่อปวงชนได้อย่างไร

ข้อคิดสำคัญ จากเหตุปัจจัยง่ายๆ ดังต่อไปนี้ ดวงอาทิตย์ต้องมาก่อน
ดาวเคราะห์, ยุทธศาสตร์ต้องมาก่อน ยุทธวิธี, รัฐศาสตร์ต้องมาก่อน
นิติศาสตร์, หลักการปกครองต้องมาก่อน วิธีการปกครอง,
จุดมุ่งหมายต้องมาก่อน มรรควิธี, ระบอบต้องมาก่อน รัฐธรรมนูญ,
อำนาจอธิปไตยต้องมาก่อน อำนาจการปกครอง, หลักนิติธรรมต้องมาก่อน
การออกกฎหมาย, ระบอบการเมืองต้องมาก่อน ระบบเศรษฐกิจ,
หลักนโยบายต้องมาก่อน นโยบาย, นโยบายต้องมาก่อน การดำเนินการและปฏิบัติ,
พระราชอำนาจต้องมาก่อน อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลากร,
หลักสัจธรรมต้องมาก่อน หลักปรัชญา วิทยาศาสตร์ ตรรกศาสตร์ ดังกล่าวนี้
ฉันใด

การสร้างการเมืองการปกครองอย่างถูกต้องโดยธรรม หลักการปกครอง
(ระบอบ) ต้องมาก่อน การยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นดังเช่นผู้ปกครองไทยชุดไหนๆ ใน 77
ปี ที่ผ่านมาหรือไม่
พวกเขาล้วนยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นระบอบประชาธิปไตย
ดุจเอาหัวเดินต่างเท้า หายนะซ้ำรอยเดิม ย่ำอยู่กับที่ก้าวหน้าไม่ได้เลย
อย่า ได้หลงเข้าใจว่าพวกเขาเป็นผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ แท้จริงพวกเขาเป็นเพียงสายพันธุ์ลิงหลอกเจ้า
เพื่อประโยชน์ตนเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น