++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เลือกใช้ภาชนะอย่างไรให้ปลอดภัย/เอมอร คชเสนี

เพื่อสุขภาพที่ดี
นอกจากจะต้องใส่ใจคัดสรรวัตถุดิบที่จะนำมาปรุงอาหารแล้ว
ยังต้องพิถีพิถันกับการเลือกภาชนะให้ดี และใช้อย่างถูกวิธีด้วย
วันนี้มารู้จักภาชนะชนิดต่างๆ กันค่ะ

อะลูมิเนียม

ชาวบ้านส่วนใหญ่มักนิยมใช้ภาชนะที่ทำจากอะลูมิเนียม
เนื่องจากคงทนและราคาถูก
แต่มีคำเตือนจากนักวิจัยว่าหากนำอะลูมิเนียมไปใช้กับของเปรี้ยว
หรือของที่มีความเป็นกรดสูง เช่น แกงส้มในหม้ออะลูมิเนียม
อาจมีอะลูมิเนียมละลายออกมาปนเปื้อนในอาหาร
ซึ่งหากได้รับสารอะลูมิเนียมเข้าไปจำนวนมาก
เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งที่อาจทำให้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลการวิจัยที่แย้งว่าอะลูมิเนียมที่ละลายออกมาปนในอาหารมีปริมาณเพียง
เล็กน้อย ไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ แต่หากไม่อยากเสี่ยง
ก็อาจจะเลี่ยงการใช้อะลูมิเนียมกับอาหารรสเปรี้ยวหรืออาหารที่มีความเป็นกรด

สเตนเลส

ภาชนะที่ทำจากสเตนเลสเป็นภาชนะอีกชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กัน
เนื่องจากทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม ทนความร้อน ความเย็น
และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลันได้ดี
สเตนเลสเป็นเหล็กที่มีส่วนผสมของโลหะหลายชนิด
หากเป็นสเตนเลสที่มีส่วนผสมของโครเมียม
เมื่อนำมาใช้หุงต้มก็จะมีธาตุเหล็กและโครเมียมปะปนในอาหารเล็กน้อย
ถือเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายจึงไม่เป็นอันตราย
แต่หากเป็นสเตนเลสที่มีส่วนผสมของนิกเกิล
อาจทำให้ผู้ที่แพ้นิกเกิลเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ อย่างไรก็ตาม
นิกเกิลจะละลายออกมาในอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชู
ผู้ที่แพ้นิกเกิลอาจเลือกใช้ภาชนะสเตนเลสที่เคลือบสารอีนาเมล
ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากับอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด

ทองแดง

ภาชนะที่ทำมาจากทองแดง
หากนำมาปรุงอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดจะสามารถละลายทองแดงออกมาได้
ทองแดงเป็นธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย
การได้รับทองแดงในปริมาณเล็กน้อยจึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ
แต่หากร่างกายสะสมทองแดงในปริมาณมากเกินไป
จะทำให้เกิดอาการท้องเสียและอาเจียนจากทองแดงเป็นพิษได้
เพื่อป้องกันปัญหานี้ จึงมีการนำภาชนะทองแดงมาเคลือบด้วยดีบุก
แต่ดีบุกที่เคลือบไว้ก็จะเสื่อมไปตามอายุการใช้งาน ฉะนั้นเมื่อใช้ไปนาน ๆ
ก็ควรจะเปลี่ยนใหม่

ทองเหลือง

ทองเหลืองเป็นโลหะผสมระหว่างทองแดงกับสังกะสี
มีความต้านทานต่อการเกิดสนิมได้ดีพอสมควร
นิยมทำขนมในกระทะทองเหลือง เช่น ผลไม้กวน เพราะมักจะไม่ติดกระทะ
และไม่ทำให้สีของอาหารเปลี่ยนไป

เซรามิก

ภาชนะเซรามิกที่เคลือบด้วยสีสันลวดลายสวยงาม
อาจมีส่วนผสมของสารตะกั่วอยู่ หากมีปริมาณมากเกินไปจะเป็นอันตรายได้
โดยเฉพาะเมื่อนำไปใส่อาหารร้อนจัด เช่น กาแฟร้อน ชาร้อน
และอาหารรสเปรี้ยวหรืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น ซอสมะเขือเทศ น้ำผลไม้
เพราะจะทำให้สารตะกั่วในสีละลายออกมาปนเปื้อนในอาหารได้

แก้ว

ภาชนะที่ทำจากแก้ว ส่วนใหญ่จะมีความปลอดภัย ยกเว้นแก้วเนื้อบาง
ไม่ควรใส่น้ำเดือดหรือนำเข้าเตาไมโครเวฟ เพราะอาจแตกได้
แต่หากเป็นแก้วคุณภาพดีก็จัดว่าเป็นภาชนะที่ใช้กับเตาไมโครเวฟได้อย่าง
ปลอดภัยที่สุด ถ้าเป็นแก้วที่มีฝาปิดก็สามารถทนต่อความดันที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับความร้อน
โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย
แต่ต้องไม่ตกแต่งขอบหรือลวดลายด้วยสีทองหรือเงิน
เพราะจะมีสารตะกั่วออกมาปนเปื้อนกับอาหารได้ นอกจากนี้
ภาชนะที่ทำจากแก้วยังเหมาะสำหรับการเก็บอาหารที่รับประทานไม่หมดอีกด้วย

เมลามีน

เมลามีนผลิตจากอะมิโนเรซินที่เป็นโพลีเมอร์ของเมลามีนกับฟอร์มาลดีไฮ
ด์ ซึ่งหากนำไปใช้ไม่ถูกต้อง เช่น ใส่อาหารร้อนจัด น้ำเดือด
หรือนำไปใช้กับเตาไมโครเวฟ
อาจทำให้ได้รับอันตรายจากสารฟอร์มาลดีไฮด์ที่เป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดิน
หายใจได้ สำหรับภาชนะเมลามีนที่ซื้อมาใหม่
ควรล้างด้วยน้ำเดือดก่อนการใช้งาน
เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกและฟอร์มาลดีไฮด์บางส่วนออกไป ไม่ควรใช้ใยสังเคราะห์
เช่น ฝอยเหล็กหรือสก็อตไบรท์มาขัดถู
เพราะจะทำให้สารที่เคลือบผิวเมลามีนหลุดออก ทำให้มีริ้วรอย
สีและโลหะหนักจะออกมาปนเปื้อนในอาหารได้
นอกจากนี้รอยขูดขีดที่เกิดขึ้นอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้อีกด้วย

พลาสติก

หากการผลิตไม่คัดเลือกเม็ดพลาสติกที่มีคุณภาพและไม่ควบคุมวิธีการ
ผลิตให้ดีแล้ว พลาสติกซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่เรียกว่า โพลีเมอร์
จะแตกตัวเป็นโมโนเมอร์ ละลายออกมาปนในอาหารได้ หากเป็นพลาสติกที่ผสมสี
ตะกั่วและสารพิษในสีก็จะออกมาด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตยังมีการใช้สารเคมีหลายชนิด
ซึ่งอาจตกค้างอยู่บริเวณผิวหน้าพลาสติก
หากสัมผัสถูกอาหารก็กลายเป็นสารก่อมะเร็งได้
ดังนั้นจึงต้องควบคุมคุณภาพภาชนะพลาสติกไม่ให้มีปริมาณโมโนเมอร์ สี
และสารเคมีต่างๆ เกินกว่าที่กำหนด
นอกจากนี้พลาสติกจะมีหลายเกรดซึ่งผลิตมาสำหรับการใช้งานเฉพาะอย่าง
จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสม

- อย่าใช้ภาชนะพลาสติกใส่อาหารร้อนจัด
อาหารที่มีรสเปรี้ยวหรืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด
- ขวดพลาสติกใสที่บรรจุน้ำดื่มขาย ควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
ไม่ควรนำมากรอกน้ำดื่มใส่ตู้เย็น
หากจะกรอกน้ำแช่ตู้เย็นควรเลือกขวดพลาสติกที่ผลิตมาโดยเฉพาะหรือขวดแก้วจะดี
กว่า
- ขวดพลาสติกใสที่บรรจุน้ำมันพืช น้ำปลา ซอส น้ำดื่ม
อย่าเก็บในที่ร้อน เนื่องจากจะเร่งให้สารเคมีละลายออกมา
- การล้างภาชนะพลาสติกควรระวังอย่าให้ขูดขีดเป็นรอยถลอก
จะทำให้สารเคมีละลายออกมามากขึ้น

ติดตามฟังรายการ "Happy & Healthy"
ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-12.00 น.
ทางคลื่นของประชาชน FM 97.75 MHz
และ www.managerradio.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น