++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ภูมิปัญญาไทยยังเสี่ยงถูกต่างชาติฮุบ จับตา 13 สมุนไพร-นวด-ฤาษีดัดตน ถูกลอบจดทะเบียน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ภูมิปัญญาไทยยัง เสี่ยงถูกต่างชาติฮุบ สำนักคุ้มครองภูมิปัญญาฯ
จับตาเฝ้าระวังสมุนไพร-ภูมิปัญญาไทย 15 ชนิด
หลังตรวจสอบพบมีการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเกี่ยวกับสมุนไพร
เพียงแต่ยังพิสูจน์ไม่ได้
วิ่งจ้างบริษัททนายเอกชนที่เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการตรวจสอบ
เอาผิดหากพบว่าละเมิดจริง จี้เร่งคลอดกฎกระทรวงคุ้มครองภูมิปัญญาไทย

นางกัญจนา ดีวิเศษ
ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
นับตั้งแต่มี พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542
ซึ่งมีผลบังคับใช้เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว
แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกกฎหมายลูก
หรือประกาศกระทรวงที่กำหนดให้มีจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อคุ้มครองพืช
สมุนไพรหรือภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทย
แม้ว่าจะมีการยกร่างประกาศกฎกระทรวงแล้วแต่ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการ
พิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ปี แล้ว

ทั้งนี้ ปัจจุบันสำนักคุ้มครองฯ ได้ทำการเฝ้าระวังพืชสมุนไพร 13
ชนิด เช่น มังคุด กวาวเครือ ขมิ้นชัน เป็นต้น ส่วนภูมิปัญญาไทย 2 ชนิด
คือ นวดแผนไทย และฤาษีดัดตน รวม 15 ชนิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า
มีสมุนไพรของไทยหลายชนิดที่เข้าข่ายถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจากหลาย
ประเทศ แต่เป็นเรื่องยากที่จะสามารถดำเนินการเอาผิดหรือร้องเรียนได้
ส่วนฤษีดัดตนและนวดไทยชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นภูมิปัญญาไทยอย่างแน่นอน

"ช่วงหลายปีที่ผ่านมา พบว่า
ภูมิปัญญาไทยยังคงเสี่ยงจะถูกต่างชาติจดลิขสิทธิ์ตลอดเวลา
ซึ่งจากการตรวจสอบ
มีหลายประเทศที่มีการจดลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรที่
อาจเข้าข่ายการละเมิดภูมิปัญญา
แต่จากการตรวจสอบหลักฐานยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการละเมิดภูมิปัญญาจริง
หรือไม่ อีกทั้งการดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่มีการละเมิดนั้นเป็นเรื่องยาก
เช่น บางกรณีเมื่อตรวจสอบกลับพบว่าเป็นการนำภูมิปัญญาไปต่อยอด
ซึ่งไม่สามารถดำเนินการเอาผิดได้
นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคปัญหาหลายด้านทั้งภาษาที่แตกต่างกัน
ดังนั้นการตรวจสอบต้องใช้เวลาและงบประมาณจำนวนมาก
อย่างก่อนหน้านี้ที่มีการตรวจพบชาวญี่ปุ่นนำคำว่า
ฤาษีดัดตนไปจดทะเบียนนำไปใช้เป็นเครื่องหมายทางการค้า
แต่โชคดีที่ประเทศไทยสามารถทักท้วงได้สำเร็จ"

นางกัญจนา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในการแก้ปัญหาขณะนี้
สำนักคุ้มครองภูมิปัญญาฯ
ได้ว่าจ้างบริษัททนายความเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายทรัพย์สินทาง
ปัญญาและลิขสิทธิ์ เพื่อให้ดำเนินการทางกฎหมาย
หากตรวจพิสูจน์พบว่ามีการละเมิดภูมิปัญญาของไทย
ซึ่งแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์การจดทะเบียนที่ต่างกัน
บางประเทศจะมีกำหนดระยะเวลาให้มีการทักท้วง

ซึ่ง หากไทยไม่มีความรู้ความเข้าใจก็จะทำให้เสียเปรียบได้
ขณะเดียวกันในเวทีโลกมีการหารือกันเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
ที่มาจากแหล่งกำเนิด เช่น
หากมีการนำขมิ้นชันพันธุ์ของไทยไปสกัดสารสำคัญหรือพัฒนาจนประสบความสำเร็จก็
จะต้องมีการแบ่งปันผลประโยชน์ที่ได้รับด้วย


http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000049489

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น