++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

“อายุไม่ใช่อุปสรรคในการเรียน” มหาบัณฑิต ม. ราม วัย 87 ปี

"อายุไม่ใช่อุปสรรคในการแสวงหาความรู้ และจะทำให้มีความคิดกว้างไกล ย้ำสอนลูกหลานเสมอให้เป็นคนขยัน ซื่อสัตย์และสุจริต" นี่คือ คำพูดสั้นๆ ง่ายๆ และได้ใจความมากที่สุดของ “นายวุฒิ เกื้อชาติ” มหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ประจำปีการศึกษา 2553ที่อายุมากที่สุด ถึง 87 ปี


นศ. ม.ราม เดินแถวเข้ารับปริญญา



วุฒิ เกื้อชาติ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทโครงการหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสาธารณะ รุ่นที่ 9 มหาวิทยาลัยรามคำแหง อดีตเคยเป็นข้าราชการบำนาญ กรมสรรพากร และเกษียณอายุ เมื่อปี 2526 ในตำแหน่งผู้ช่วยสรรพากร จังหวัดชุมพร หลังจากนั้นก็ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่อยากเป็นคนแก่ที่ไร้คุณค่าในสายตาลูกหลาน จึงหันมาทำธุรกิจส่วนตัวและให้ลูกๆ ได้มาช่วยงาน โดยปัจจุบันเป็นประธานผู้จัดการ บริษัทฟองแสงอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับอาหารเสริมส่งออกต่างประเทศ และเป็นเจ้าของ-ผู้จัดการ บริษัท เกื้อชาติ ลันตา จำกัด และได้รับคัดเลือดให้เป็นบุคคลดีเด่นแห่งชาติ ปี 2537 และเป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ปี 2545

“ผมเรียนปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และเรียนจบเมื่อปี 2549 ได้เกรดเฉลี่ย 3.20 ก่อนที่จะสมัครเรียนปริญญาโท เมื่อปี 2551 และเรียนจบในปี 2553 ได้เกรดเฉลี่ย 3.47 แม้จะอยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต แต่ผมก็ต้องการความรู้และอยากใช้เวลาว่างให้มีคุณค่า ถึงอายุจะมากแล้ว แต่ความจำยังดีและมีสุขภาพแข็งแรง”


วุฒิ เกื้อชาติ สำเร็จการศึกษาป.โทหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสาธารณะ

มหาบัณฑิต วัย 87 ปี กล่าวอีกว่า ที่ตัดสินใจมาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอีกครั้ง เพราะรักและบรรดาลูกๆ ทั้งหมด 12 คน หลายคนเรียนจบที่นี่ ส่วนตัวใช้เวลาเรียนปริญญาโท 2 ปี ด้วยความตั้งใจอยากจะเรียนจริงๆ มาเรียนทุกวัน เอาใจใส่กับการเรียน ก็ได้รับความรู้และ ประสบการณ์จากการที่มีเพื่อนหลากหลายวัย ทั้งยังได้พบกับคณาจารย์ที่ดีอีกด้วย

"ผมอยากเป็นแบบอย่างแก่ลูกหลาน ว่า อายุ 87 แล้วก็สามารถเรียนหนังสือได้ ขอเพียงมีความตั้งใจ รวมทั้งเมื่อคนเรามีสุขภาพดี มีเวลา ก็เรียนได้เหมือนกัน เพราะม.รามเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับทุกคน ที่สำคัญการเรียนยังได้ฝึกสมองควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ช่วยให้เรามีปัญญาเป็นคนหูตาสว่างและมีความคิดกว้างไกล"

และในวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 นี้ คุณลุงวุฒิจะมีอายุครบ 88 ปี และปัจจุบันสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว และที่สำคัญไม่ใช่คนแก่ที่ความจำเลอะเลือนเหมือนที่ใครหลายคนคิด คุณลุงวุฒิมักชอบอ่านหนังสือค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมและติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะต้องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น นอกเหนือจากจากการศึกษาเล่าเรียนเพื่อให้มีความรู้และประสบการณ์ในชีวิตเพิ่มมากขึ้นแล้ว คุณลุงวุฒิยังชอบทำงานสาธารณกุศลด้านต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพราะคำนึงถึงการเป็นผู้ให้ที่ดี เพราะความสุขจากการได้ทำสิ่งเหล่านั้น ส่งผลให้สุขภาพดี อารมณ์ดี และมีครอบครัวที่ดีด้วย


นศ.ป.โทที่ทำให้เห็นว่าการเรียนรู้ สามารถเรียนได้ตลอดชีวิต

สำหรับเคล็ดลับการดูแลสุขภาพของสุดยอดมหาบัณฑิตคนนี้ อยู่ที่การดูแลตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ “ผมจะตื่นตั้งแต่ตีห้า ดื่มน้ำ 5 แก้ว ออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงด้วยการเต้นแอโรบิค และรำมวยจีน หมั่นทำบุญตักบาตรทุกวันพระ ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เน้นทานมากๆ ในช่วงเช้า ส่วนมื้อกลางวัน ทานข้าวน้อย มื้อเย็นไม่ทานข้าว จะทานเฉพาะผลไม้และดื่มนม เข้านอนไม่เกิน 3 ทุ่ม”

คุณลุงวุฒิ บอกทิ้งท้ายไว้ว่า เวลาว่างๆ ถ้าไม่ได้ไปเรียนหนังสือก็มักจะอ่านทบทวนตำราเรียนที่อาจารย์สอนและไม่ลืมที่จะอ่านนหนังสือพิมพ์ เพราะเป็นคนชอบสนใจสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจ “เวลาที่ผมว่างเมื่อไรก็จะมีหนังสือติดมือตลอด เพราะผมคิดเสมอว่า ความรู้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในห้องเรียนหรือครูบาอาจารย์เท่านั้น แต่อยู่ที่ตัวเรา ว่าจะสนใจใฝ่รู้มากน้อยแค่ไหน และผมพยายามสอนลูกหลานให้เป็นคนขยันซื่อสัตย์และสุจริตเพื่อสังคมส่วนรวม สิ่งเหล่านี้จึงส่งผลให้เรามีอายุยืนมาถึงปัจจุบันนี้ได้” มหาบัณฑิตวัย 87 กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น