พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า
“เรื่องทุกเรื่อง เริ่มต้นที่ใจ สำคัญที่ใจ สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าหากใจเสียหายแล้ว จะทำจะพูดอะไรก็เกิดความเสียหาย ความทุกข์ร้อนจะติดตามคนนั้นไปเหมือนกับล้อเกวียนที่หมุนตามรอยเท้าโคที่ลากเกวียนไป”
ใจ มีลักษณะวิ่งหาอารมณ์ เวลามีอะไรมากระทบประสาทสัมผัสทางตา ทางหูเป็นต้นใจจะออกหน้ารับ ทำให้เกิดการรับรู้ ทางตา ทางหู ซึ่งเรียกว่า เกิดการเห็น เกิดการได้ยิน จึงกล่าวว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มต้นที่ใจ
ที่ว่าใจสำคัญ เพราะใจเป็นผู้สั่งให้กายเคลื่อนไหว ให้พูด แม้แต่ให้คิดอะไร ใจจะเป็นผู้สั่ง อีกอย่างหนึ่ง ร่างกายนี้ถ้าปราศจากวิญญาณหรือใจเสียแล้ว จะเป็นเพียงวัตถุที่ไร้ความรู้สึก เหมือนท่อนไม้ท่อนฟืน
สำเร็จได้ด้วยใจ หมายถึง ปรากฏการณ์ทางรูปธรรมนามธรรม ที่สามารถรับรู้สัมผัสจับต้องได้นั้น เรารู้ได้ด้วยใจ เช่นเมื่อ เรากล่าวว่าตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรับรส กายถูกต้องสัมผัส แต่ที่จริงแล้ว ใจต่างหาก เป็นผู้เห็น เป็นผู้ได้ยิน เป็นผู้ได้กลิ่น การเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้รส สำเร็จได้ เรารับรู้ได้ เพราะใจนั่นเอง ใจเป็นผู้ทำหน้าที่รู้อารมณ์ต่าง ๆ เหล่านี้
เมื่อใจผิดปกติ หรือเสียหายเพราะถูกกิเลสเข้าครอบงำไม่ว่าจะเป็น ราคะ ความรักใคร่ยินดีติดใจ โทสะ ความโกรธเคือง โมหะ ความไม่รู้เท่าทัน สิ่งทั้งหลายตามเป็นจริง เช่นนั้นแล้ว เวลาจะทำจะพูดอะไรออกไป ก็จะทำ จะพูดไปตามอำนาจของกิเลสนั้น ๆ ใจที่ผิดปกติ คิดก็คิดผิดปกติ คิดไปในทางรักใคร่ยินดี ติดอกติดใจ คิดไปในทางกามวิตก มีความเร่าร้อน กระวนกระวาย คิดไปในทางโทสะก็คิดไปในทางพยาบาท อยากให้เขาได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อน หรือคิดไปในทางที่จะเบียดเบียนทำร้ายเขา หากโมหะเข้าครอบงำ ก็จะไม่มีสติหลง ๆ ลืม ๆ มีการตัดสินใจที่ผิดพลาด มีใจไม่แจ่มใสเบิกบาน มีความพล่ามัวภายใน เมื่อใจมีสภาพเป็นอย่างนี้แล้ว ทำอะไรก็ผิดปกติ เป็นไปในทางที่ผิดพลาดเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น จะพูดก็พูดเท็จโกหกหลอกลวงผู้อื่น พูดหยาบคาย พูดส่อเสียดยุยง พูดเพ้อเจ้อ เหลวไหลไร้ประโยชน์
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกข์ย่อมติดตามคนนั้นไป เหมือนล้อเกวียนหมุนตามรอยเท้าโคที่เขาใช้ลากเกวียนไป เพราะการคิด การพูด การกระทำด้วยอำนาจของกิเลสที่ครอบงำใจเช่นนั้น ชื่อว่าสร้างเหตุแห่งทุกข์ มีผลเป็นทุกข์ ทุกข์อันดับแรก คือทุกข์ใจภายในเกิดขึ้นแล้วทันที เพราะความเสียดแทงเผาลนของกิเลสที่เกิดขึ้นครอบงำใจนั้น แล้วคิดไปในทางที่ไม่ดีต่าง ๆ นานา ทุกข์ต่อมาได้แก่ทุกข์ที่เป็นผลกรรมจากการพูดไม่ดี ทำไม่ดี เช่นสร้างศัตรู ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่เป็นที่ไว้วางใจ มีจิตใจที่คิดหวาดระแหวง ไม่มีความปลอดโปร่ง เย็นอกเย็นใจภายในเลย เป็นคนที่อยู่ร้อนนอนทุกข์อยู่เสมอ
เพราะฉะนั้น ควรพยายามรักษาจิตรักษาใจ ไม่ให้เกิดความผิดปกติเสียหายจากการเข้าครอบงำของกิเลสต่าง ๆ ที่จรเข้ามา ให้ใช้สติปัญญารักษาจิตให้มีความมั่นคงไม่แกว่งไกวไปตามแรงยั่วยุต่าง ๆ ของกิเลส เพียรระวังรู้เท่ารู้ทัน เพื่อคุ้มครองป้องกันจิตจากกิเลสที่จะมาทำให้จิตเสียหาย เป็นการไม่ปล่อยให้อกุศลความชั่วมาแย่งพื้นที่ในจิตไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น