“มติชน-ไทยรัฐ” ร่วมใจเขียนบทความกรณีมาร์ค V11 ว่าต้องออกจากบ้านเอเอฟเพียงเพราะว่าด่านายกฯ โดยไม่ดูว่าไม่ใช่แค่นี้แต่ยังมีการด่าแม่แบบรุนแรงหรือการละเมิดสถาบัน การเมืองไม่ได้รังแกเด็กแต่ “ทรู” ร้ายกาจสุดเป็นคนปั่นขึ้นมาเพื่อหากิน ด้าน “นิติภูมิ” เขียนบทความ “อย่ากดดันให้เกิดเลนิน” มาถึง 4 ตอนแล้ว และชอบวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องการสิ้นสุดของสถาบัน สะท้อนให้เห็นว่าได้เลือกข้างแล้ว
รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น.วันจันทร์ที่ 19 ก.ค.โดยมี น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ ได้เชิญ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และนายชัชวาล ชาติสุทธิชัย อดีตคนเดือนตุลา ร่วมพูดคุยในรายการ
น.ส.วรรษมนกล่าวเปิดประเด็นถึงกรณีโฆษณาขอโทษประเทศไทยที่โดนแบน ซึ่งรัฐบาลก็ได้ออกมาบอกแล้วว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย น.ส.อัญชะลีกล่าวว่า โฆษณาตัวนี้มีนายภาณุ อิงคะวัต เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของกลุ่มพลังบวก และเมื่อไปถึงแต่ละช่องก็เกิดแรงสะเทือนเลยทำให้ไม่ได้ออก โดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นชิ้นงานที่เปิดพรมออกมาเพื่อกวาดสิ่งสกปรกที่ถูกซุก อยู่
นายชัชวาลกล่าวชมว่า คุณภาณุและคนที่ทำโฆษณาตัวนี้ กล้าและเก่ง ทุกคนถูกรวมอยู่ในนั้นหมด ทุกคนทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นต้องขอโทษประเทศไทยและร่วมกันแก้ ต้องยอมรับปัญหาก่อนไม่อย่างนั้นก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้
น.ส.อัญชะลีกล่าวถึงกรณีมาร์ค V11 ว่า ตอนนี้แบ่งเป็น 2 ฝ่ายทั้งที่เชียร์และด่า ปรากฏว่ามติชนลงบทความมีใจความว่า “สาเหตุที่มาร์คออกจากบ้านเอเอฟเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์โพสต์ข้อความด่า นายกฯ งานนี้ไม่รู้ใครคิดอย่างไรแต่คนในแวดวง เชื่อว่าเป็นการเอาคืนของบิ๊กการเกษตร จากนโยบายเปิดเสรีพันธุ์แม่ไก่ไข่ของนายกฯ จากภาพที่เกิดขึ้นทำให้เห็นว่านายกฯรังแกเด็กแต่นายกฯ ก็เอาคืนบ้าง โดยในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยได้ทำการเข็นนายกฤษณะตะลุยฟาร์มไก่และบอกว่า พ่อค้าเป็นต้นเหตุทำให้ไข่ราคาแพง”
นายโสภณกล่าวว่า เลอะเทอะ เขียนได้อย่างไร กรณีมาร์คด่านายกฯ ไม่ได้ว่าอะไร แต่นายคนนี้ด่าแม่ตัวเองด้วยว่า สลิด ที่แปลว่า ร่าน ดัดจริต ลูกด่าแม่ พ่อก็ไม่ว่าลูก แบบนี้ทำให้เห็นว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนลูก เสื่อมเสียชื่อเสียงคนเชียงใหม่
น.ส.อัญชะลีกล่าวต่อถึงกรณีไทยรัฐก็เขียนถึงมาร์คเอเอฟ โดยเขียนเหมือนกันว่า “ต้องออกจากบ้านเพราะด่านายกฯ กรณีนี้เป็นบทเรียนว่าอย่าเที่ยวด่านายกฯอภิสิทธิ์พร่ำเพื่อแม้มีสิทธิ เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญก็ตามเพราะองครักษ์พิทักษ์นายกฯ แรง”
นายชัชวาลกล่าวว่า ชอบมีคนพูดถึงเสรีภาพแบบชั่วช้า มีเสรีภาพจริงแต่ที่แน่ๆมีกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม เช่นห้ามล่วงละเมิดสถาบันจะใช้คำว่าเสรีภาพมาด่าได้อย่างไร พวกเสื้อแดงต้องตระหนักเรื่องกฎหมายไว้
น.ส.อัญชะลีกล่าวอีกว่า แจ๋วริมจอ คอลัมน์บันเทิงในไทยรัฐ พูดถึงกรณีนี้ว่า “กระแสสังคมที่ไร้สติแทบจะทำให้อนาคตของเด็กคนหนึ่งแทบจะไม่ได้ผุดได้เกิด” ซึ่งกรณีการเมืองไม่ได้รังแกเด็ก แต่ทรูเป็นคนปั่นมันขึ้นมา ทรูนำเด็กคนนี้มาโยงกับกระแสการเมือง เพื่อหากิน และทุกวันนี้มีความชัดเจนว่าสื่อได้เลือกข้างแล้ว เช่น นายนิติภูมิ นวรัตน์ ก็เขียนบทความ “อย่ากดดันให้เกิดเลนิน” ซึ่งมาถึงตอนที่ 4 แล้ว คนคนนี้ชอบเขียนเรื่องเกี่ยวกับโรมานอฟ เลนิน อมาตยาธิปไตย ชอบเขียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับการสิ้นสุดของกษัตริย์ในแต่ละประเทศ
นายโสภณกล่าวว่า นายคนนี้ควรเขียนเรื่องติวเตอร์หมูล่อนักเรียนหญิง เรื่องป้าเช็ง เรื่องการได้ด็อกเตอร์ปลอม หรือเรื่องที่เอานักเรียนไปปล่อยทิ้งที่รัสเซียจะดีกว่า
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000099624
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น